ต้นไข่เน่า ความจริงแล้วกลิ่นหอม หายากและน่าปลูกมาก!! 

by plantlover
ต้นไข่เน่า

ต้นไข่เน่า ชื่อของเขาอาจฟังดูแปลกและเหม็นไปสักหน่อย แต่ความจริงแล้วมีประโยชน์มากมาย หาดูได้ยากขึ้นทุกวัน สำหรับวันนี้เราได้นำเอาข้อมูลเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้มาฝากทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณ การปลูก การดูแล และเรื่องราวอื่น ๆ อันน่าสนใจ ใครกำลังอยากรู้จักกับต้นไข่เน่า ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ไปติดตามกันได้เลย 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “ต้นไข่เน่า” สมุนไพรไทย มากประโยชน์ หายากขึ้นทุกวัน 

ต้นไข่เน่า

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vitex Glabrata R.Br. 

ชื่อวงศ์ : Lamiaceae (วงศ์กะเพรา) 

ชื่อท้องถิ่น : คมขวาน, ฝรั่งโคก (ภาคกลาง), ขี้เห็น (เลย, อุบลราชธานี), ปลู (สุรินทร์) 

ต้นไข่เน่า จัดเป็นไม้ยืนต้นที่มีทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ สูงได้ราว ๆ 25 เมตร มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและยังสามารถพบได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบ ซึ่งจะมี 2 สายพันธุ์ที่คนรู้จักกันทั่วไปได้แก่สายพันธุ์พื้นเมือง และจะแยกย่อยออกไปเป็นพันธุ์ผลเล็กและพันธุ์ผลใหญ่ ส่วนมากคนจะไม่นิยมปลูกเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน เนื่องจากชื่อที่ไม่เป็นมงคลสักเท่าไรนัก 

ต้นไข่เน่า

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ลำต้น : ลำต้นของเขามีขนาดใหญ่ สูง ผิวเปลือกของเขามีสีน้ำตาลแกมเหลือง อมเทา ผิวแตกเป็นสะเก็ด อาจเป็นร่องตื้นในบางต้น กิ่งอ่อนมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม เต็มไปด้วยขนสีขาวอ่อนนุ่มบริเวณกิ่งและยอดอ่อน เรือนยอดแตกกิ่งต่ำรูปกรวย 

ใบ : ลักษณะใบของต้นไข่เน่าจะมาในรูปแบบใบประกอบเรียงเป็นรูปนิ้วมือออกเรียงตรงข้ามกัน มีใบย่อยประมาณ 3-5 ใบที่มีสีเขียวเข้ม ลักษณะรูปใบคล้ายกับไข่แต่ละใบมีขนาดไม่เท่ากัน โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน 

ดอก : ดอกไข่เน่าจะออกแบบเป็นช่อที่บริเวณปลายกิ่ง มีกลีบสีม่วงหรือสีขาว บางดอกอาจอมชมพู หากบานเต็มที่จะอยู่ที่ประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร ถือว่าเป็นดอกขนาดเล็ก ส่งกลิ่นหอม มักออกมาให้เห็นในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี 

ผล : ลูกไข่เน่าถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์เด็ดของเจ้าต้นนี้เลยล่ะ ลักษณะของเขาเป็นทรงกลมหรือรูปไข่ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะมีสีดำเนื้อในหนา อ่อนนุ่ม กลิ่นเหม็น รสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณเดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม 

ต้นไข่เน่า

ประโยชน์ 

ประโยชน์ของต้นไข่เน่านั้นมีมากกว่าการปลูกเอาไว้เป็นไม้ประดับอย่างแน่นอน ด้วยความที่เขาเป็นต้นไม้ใหญ่ พุ่มต่ำ ก็จะให้ร่มเงาค่อนข้างดี ผลสุกของเขาสามารถรับประทานได้ โดยส่วนใหญ่จะนำมาจิ้มเกลือ หรือนำมาทำขนมลักษณะคล้ายคลึงกับขนมกล้วย โรยหน้าด้วยมะพร้าว นอกจากนี้ก็ยังอุดมไปด้วยสรรพคุณทางยาอันน่าสนใจดังต่อไปนี้ 

เปลือกต้น มีรสฝาด ช่วยแก้ท้องเสียได้ รักษาโรคกระเพาะ 

เนื้อไม้ ช่วยแก้เลือดตกค้าง 

ราก ในส่วนนี้ช่วยแก้ตานขโมยได้ แก้โรคบิด ท้องเสีย ท้องร่วง 

ผล เป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแคลเซียม บำรุงกระดูก และบำรุงสมอง บำรุงไต ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี 

ต้นไข่เน่า

การขยายพันธุ์ 

สำหรับการขยายพันธุ์เจ้าต้นไข่เน่า ความจริงแล้วสามารถนำเมล็ดของเขามาเพาะพันธุ์ต่อได้เลย เป็นวิธีที่ง่ายและนิยมทำกันมาก ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

อุปกรณ์

– เมล็ดไข่เน่า 

– ถุงเพาะ

– ดินปลูก 

วิธีเพาะเมล็ดต้นไม้ 

1.นำผลไข่เน่าสุกมาแกะเนื้อออก ให้เหลือแต่เมล็ด 

2.ล้างน้ำให้สะอาด 

3.ผึ่งให้แห้งต่ออีกประมาณ 1 วัน 

4.แกะเปลือกเมล็ดออก ซึ่งแน่นอนว่าเปลือกของเขาค่อนข้างแข็งอาจจะต้องใช้ความอดทนสักหน่อย 

5.จากนั้นนำดินปลูกมาใส่ลงในถุงเพาะต้นไม้ ในที่นี้สามารถใช้เป็นดินร่วนธรรมดาผสมปุ๋ยอินทรีย์ก็ได้ 

6.ใช้นิ้วมือเจาะรูให้เป็นหลุมเพื่อหย่อนเมล็ดลงไปลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร 

7.หย่อนเมล็ดลงไปแล้วแล้วใช้ดินกลบหลวม ๆ 

8.รดน้ำตามให้ชุ่ม เช้า – เย็น อย่างสม่ำเสมอ และวางถุงเพาะเอาไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง 

9.รอจนกระทั่งต้นกล้าของเขาเติบใหญ่และแข็งแรงเพียงพอต่อการปลูกลงดิน ก็สามารถนำไปปลูกต่อไปได้ 

ต้นไข่เน่า

การปลูก / ดูแล 

การปลูกต้นไข่เน่าลงดินนั้น สามารถปลูกลงในสภาพดินแบบใดก็ได้ จะชอบอย่างยิ่งหากเป็นดินร่วน ทั้งนี้จะต้องปลูกไว้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง เพื่อให้เขาเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ สามารถใส่ปุ๋ยอินทรีย์ด้วยก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เมื่อเขาโตขึ้นการรดน้ำก็สามารถให้น้ำน้อยลงได้ สักวันละ 1 ครั้ง เขาเป็นต้นไม้ที่ทนแล้งได้ดี สามารถอยู่ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยได้สบาย ๆ 

ราคาต้นไข่เน่า

สำหรับราคาของต้นกล้าไข่เน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 80-100 บาท หากเป็นต้นไม้ล้อมขนาดกลาง ๆ ราคาก็จะอยู่ที่หลัก 2 หมื่นบาทขึ้นไป ถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีราคาพอสมควร เริ่มหายากขึ้นทุกวัน ในอนาคตอาจมีราคามากกว่าที่เราเห็นก็เป็นได้ 

และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ ต้นไข่เน่า ที่เราได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทั้งวิธีการปลูก ดูแลรักษา รวมไปถึงประโยชน์ของเขายังมีมากมาย เป็นต้นไม้ที่หาดูยากขึ้นทุกวันจึงน่าปลูกเอาไว้เป็นอย่างมาก หากคุณกำลังสนใจอยู่เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net

You may also like

Leave a Comment