บัตเตอร์เฮด สลัดผักกาด หัวใหญ่ กรอบ อร่อย ปลูกง่ายในทุกฤดู!! 

by plantlover
บัตเตอร์เฮด

บัตเตอร์เฮด เรียกได้ว่าเป็นผักสลัดต้นสีเขียวสวยที่มองภายนอกรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับดอกกุหลาบยักษ์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งสามารถปลูกเอาไว้เป็นไม้ประดับได้เลยล่ะ ทว่ารสชาติของเขาก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าผักสลัดต้นอื่น แถมมีประโยชน์มากมาย ปลูกง่าย โตไว ใครอยากปลูก นี่คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้เอาไว้!! 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “บัตเตอร์เฮด” พร้อมวิธีปลูกผักสลัดไว้กินเองง่าย ๆ ปลอดภัยมาก!! 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca sativa 

ชื่อวงศ์ : Asteraceae (วงศ์ทานตะวัน) 

ชื่อภาษาอังกฤษ : Butterhead Lettuce  

บัตเตอร์เฮด

บัตเตอร์เฮด คือหนึ่งในผักสลัด ปลูกง่าย เลี้ยงง่ายที่หลายคนรู้จักดี เขามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศทวีปเอเชียและทวีปยุโรปในเมืองหนาว เป็นพืชล้มลุกอายุเพียงหนึ่งฤดูกาล ชื่นชอบอากาศเย็น แต่ก็สามารถปลูกในประเทศไทยได้เช่นกัน ความจริงแล้วเจ้าสลัดต้นนี้มีหลายสายพันธุ์มาก ๆ รสชาติดี หวาน กรอบ ฉ่ำน้ำ ไร้กลิ่นฉุนกวนใจ เด็ก ๆ สามารถทานได้อย่างแน่นอน แถมยังมากประโยชน์ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ลำต้นของบัตเตอร์เฮดจะมีลักษณะกลม อวบน้ำ ก้านใบหนาและอวบน้ำเช่นกัน กาบใบซ้อนกัน หัวกอห่อตัวแบบหลวม ๆ มีใบเลี้ยงเดี่ยวออกตามโคนต้นเรียงสลับรอบวง ใบมีสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวแก่ รูปใบกลม เนื้อนุ่ม บาง มาพร้อมรากแก้วอวบอ้วน และแตกรากฝอยแขนงเล็ก ๆ ออกเต็มไปหมด 

บัตเตอร์เฮด

ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร 

บัตเตอร์เฮด จัดเป็นผักกินสดที่สามารถนำทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะคลุกเคล้าน้ำสลัดหรือนำไปจิ้มน้ำพริกสไตล์ไทย ๆ เป็นเครื่องเคียงของเมนูเด็ด ลาบ ก้อย ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป เป็นผักที่ช่วยในเรื่องการบำรุงสายตา ผิวพรรณ เส้นผม กล้ามเนื้อ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โลหิตจาง ลดความดัน แก้ท้องผูก ขับถ่ายคล่อง เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังคุมอาหาร อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมาย ได้แก่ วิตามิน (บี1) (บี2) (บี3) (บี5) (บี6) (บี9), วิตามินเอ, วิตามินอี, แคลเซียม, วิตามินซี, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, เบตาแคโรทีน, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, ไขมัน, แมกนีเซียม, ไขมัน และแมงกานีส 

บัตเตอร์เฮด

ปลูกผักสลัดแบบไหนดี 

การปลูกผักสลัดส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีให้เราได้เห็นอยู่สองวิธีหลัก ๆ ก็คือ การปลูกลงดิน ซึ่งจะต้องเตรียมกระถาง ดิน พร้อมทั้งต้องมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ และปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ (ใช้น้ำ) ซึ่งก็จะมีรายละเอียดแยกย่อยออกไปอีก ซึ่งมีทั้งการใช้ระบบน้ำเวียนและปลูกผักในกล่องโฟมแบบน้ำนิ่ง ซึ่งระบบน้ำนิ่งมีข้อดีคือความประหยัด และไม่ต้องแวะเวียนมาดูแลรดน้ำทุกวัน แต่ทั้งนี้บัตเตอร์เฮด ก็สามารถเติบโตได้ดีในทุกรูปแบบการปลูก เพื่อน ๆ สามารถเลือกวิธีที่ถนัดกันได้เลย แต่ถ้าเป็นมือใหม่สถานที่น้อย ก็แนะนำให้ปลุกเอาไว้ในกล่องโฟมด้วยระบบน้ำนิ่งจะดีกว่า 

บัตเตอร์เฮด

การเพาะเมล็ด 

หากต้องการปลูกต้นบัตเตอร์เฮดแบบไร้ดินลงในกล่อง อันดับแรกเราจะมาเพาะเมล็ดกันก่อน เป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเกินความตั้งใจอย่างแน่นอน 

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 

– เมล็ดผัก 

– แก้วน้ำ 

– ฟองน้ำสำหรับเพาะเมล็ด 

– ถาดใส่น้ำ (สำหรับแช่ฟองน้ำ) 

– ปุ๋ย AB 

ขั้นตอนการเพาะเมล็ด 

1.เทน้ำเปล่าสะอาดใส่แก้วประมาณครึ่งหนึ่งของแก้วก็เพียงพอ 

2.เทเมล็ดผักลงไป 

3.ตั้งแก้วเอาไว้ในอุณหภูมิห้อง โดนแดดบ้างเล็กน้อย ประมาณ 1-2 วันรากสีขาวก็จะงอกลงไปในน้ำ 

4.นำฟองน้ำใส่ถาด เติมน้ำลงไปแล้วนวดให้เปียกชุ่มเต็มแผ่น 

5.นำเมล็ดในแก้วน้ำมาหย่อนลงในฟองน้ำแต่ละก้อน โดยใช้ฝั่งรากสีขาวฝังลงไป จากนั้นค่อยเติมน้ำในถาดเพิ่มจนเต็ม 

6.ปล่อยให้เขางอกเป็นต้นสักประมาณ 3-5 วันแล้วจึงค่อยเติมปุ๋ย AB ให้สารอาหารแก่รากแบบอ่อน ๆ เป็นวิธีการเพาะเมล็ดผักสลัดแบบง่ายๆ โตไว แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมให้ต้นกล้าได้รับแสงแดดยามเช้าบ้างสักประมาณครึ่งวัน 

บัตเตอร์เฮด

ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ต้องทำอย่างไร? 

สำหรับการปลูกบัตเตอร์เฮดแบบไฮโดรโปนิกส์นั้นไม่ต่างจากการปลูกผักอื่น ๆ ทั่วไป โดยมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ดังต่อไปนี้ 

– กล่องโฟมเจาะรูแล้ว 

– ถุงดำ (ถุงดำใส่ขยะ) 

– ถ้วยสำหรับปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ 

– ปุ๋ย AB 

บัตเตอร์เฮด

ขั้นตอนวิธีการปลูกผัก 

1.เมื่ออายุต้นกล้าประมาณ 10-15 วัน ให้นำเขาไปใส่ลงในถ้วยปลูกผัก โดยเหลือพื้นที่ของฟองน้ำเอาไว้ประมาณครึ่งอัน เพื่อผักยังคงสามารถเติบโตในถ้วยได้อย่างเต็มที่ 

2.ตัดถุงดำแบ่งครึ่งแล้วปูลงในกล่องโฟมให้เต็มเพื่อกันน้ำรั่วซึม

3.ใส่น้ำให้เต็มกล่องโฟม แล้วตามด้วยปุ๋ย AB ตามปริมาณที่กำหนดเอาไว้ในฉลากปุ๋ย 

4.จากนั้นนำถ้วยลงไปใส่ในรูโฟม และตั้งกล่องเอาไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง ข้อสำคัญอย่าให้บัตเตอร์เฮดตากฝน ต้องอยู่ใต้หลังคาหรือโรงเรือนเท่านั้น ประมาณ 45 – 55 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงเวลาที่ผักให้รสชาติดีที่สุดอีกด้วย

และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับผักสลัดบัตเตอร์เฮด ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เจ้าต้นนี้ปลูกง่ายใช่ไหม แต่หากอยากได้ต้นที่สวยก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะต้องควบคุมอย่างเช่น กางมุ้งให้เขาเพื่อป้องกันแมลง ซึ่งก็สามารถเลือกใช้เป็นมุ้งแบบสำเร็จรูปเลยก็ได้เช่นกัน และสุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ   

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net

แนะนำ ผักไฮโดรโปนิกส์น่าปลูก

You may also like

Leave a Comment