พะยอม ต้นไม้ใหญ่ เริ่มหายาก เสริมดวงทุกด้าน กับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนปลูก!!

by plantlover
พะยอม

ต้นพะยอม คือสัญลักษณ์แห่งความประนีประนอม ที่คนไทยแต่โบราณมีความเชื่อกันมาอย่างช้านาน และถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพันธุ์ไม้ที่มีประโยชน์รอบด้านแต่ก็หาดูได้ยากมากแล้วในปัจจุบัน ใครกำลังตามหาต้นไม้ใหญ่เสริมดวง เสริมบารมี แอบกระซิบว่าต้นนี้เหมาะมาก หากเพื่อน ๆ สนใจอยากศึกษาข้อมูลเพื่อปลูก ต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องรู้เอาไว้เลยล่ะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับต้นพะยอม ต้นไม้เสริมดวง สัญลักษณ์แห่งความประนีประนอม กับสิ่งที่ควรรู้!! 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Shorea roxburghii G.Don 

ชื่อวงศ์ : Dipterocarpaceae (วงศ์ยางนา) 

ชื่อสามัญ : Shorea, White meranti 

ชื่อไทยอื่น ๆ : ขะยอมดง พะยอมดง (ภาคเหนือ), สุกรม (ภาคกลาง), คะยอม ขะยอม (อีสาน), ยอม (ภาคใต้), แดน (เลย), ยางหยวก (น่าน), กะยอม เชียง เซียว เซี่ย (เชียงใหม่) เป็นต้น

พะยอม

พะยอม หรือต้นพยอมที่เรารู้จักกันนั้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีความสูงตั้งแต่ 15-20 เขามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศพม่า ลาว ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศไทย จึงได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ไทยโบราณ มักพบเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติตามป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณแล้งและชื้นทั่วไป นอกจากนี้ดอกของเขาก็ยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์อีกด้วย 

ความเชื่อ 

คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า ไม้พะยอมนั้นเป็นคุณแก่ผู้ที่เกิดในวันเสาร์ หากปลูกเอาไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน เพราะจะช่วยในเรื่องเงินทองคล่องมือ ไม่ขัดสนจับจ่าย ทั้งนี้ก็ยังเป็นต้นไม้เมตตามหานิยมในตัว ผู้คนรักใคร่ เอ็นดู ให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้เขาก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของความประนีประนอมยอมความ การยินยอมและผ่อนผันอีกด้วย เหมาะสำหรับคนทำอาชีพสายนักกฎหมายมากเลยล่ะ ต้นเดียวจบทุกเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นไม้มงคล เสริมดวงอย่างแท้จริง 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

พะยอม

ลำต้น : พะยอม เป็นไม้ใหญ่ที่แตกพุ่มกลม ค่อนข้างสูง และมีการผลัดใบทิ้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 300 เซนติเมตร เปลือกต้นสีเทาเข้มหรือน้ำตาล ผิวแตกสะเก็ดหนาเป็นร่องตามแนวยาว เนื้อไม้คล้ายกับตะเคียนทอง มีสีเหลืองหรือน้ำตาล แตกกิ่งก้านสาขาออกไปจำนวนมาก 

ใบ : เจ้าต้นนี้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ลักษณะใบเป็นรูปหอก รี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบเกลี้ยง สีเขียวกลางเป็นมัน ยาว 12-18 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 6-8 เซนติเมตรโดยประมาณ 

ดอก : ดอกพยอมถือเป็นไฮไลท์ของเจ้าต้นนี้เลยล่ะ เขาจะออกดอกแบบเป็นช่อที่บริเวณยอดโดยทั่วพร้อมกันทั้งต้น แต่ละช่อจะเต็มไปด้วยดอกย่อยสีขาวหรือเหลืองนวล ประกอบไปด้วยสามกลีบดอก ส่งกลิ่นหอมไปทั่วในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์  

พะยอม

ผล : ลักษณะผลของเขานั้นค่อนข้างคล้ายกันกับผลยางนา โดยจะออกเป็นลูกไข่พร้อมกระสวย ประกอบไปด้วย 5 ปีกซึ่งจะมี 3 ปีกยาวไม่เกิน 8 เซนติเมตร และ 2 ปีกสั้นความยาวไม่เกิน 3 เซนติเมตร ในหนึ่งผลจะมีเพียงหนึ่งเมล็ดด้านใน จะติดผลช่วงเดือนมกราคม – เดือนมีนาคมหลังจากออกดอก  

ประโยชน์ใช้สอย 

พะยอมไม่เพียงแต่เป็นไม้ประดับเพื่อความภิรมย์รื่นในฤดูหนาว เพราะช่วงที่เขาไม่ผลัดใบจะให้ร่มเงาอย่างดี ดอกที่ส่งกลิ่นหอมของเขาสามารถนำมาต้มเพื่อรับประทานกับน้ำพริกได้ แถมยังอุดมไปด้วยโภชนาการ ส่วนเนื้อไม้ก็ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง แปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือหากนำเปลือกไม้ไปดอง หรือใส่กับเครื่องหมักดองก็จะกลายเป็นสารกันบูดชั้นดีเลยล่ะ 

พะยอม

การขยายพันธุ์ 

พะยอม ขยายพันธุ์ง่าย ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากเขาเป็นไม้ป่าที่สามารถเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เมล็ดจะปลิวไปตกตรงไหนแล้วเกิดขึ้นมาก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่คนก็มักจะขยายพันธุ์เขาด้วยวิธีการเพาะเมล็ดเป็นหลัก เนื่องจากต้นสูงมาก หากตอนกิ่งก็จะยากหน่อย สำหรับวิธีการเพาะเมล็ดต้นไม้ป่าที่มีปีกคล้ายกับเพื่อน ๆ สามารถนำวิธีการต่อไปนี้ไปประยุกต์ใช้ได้เลย  

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

– กระถาง  

– ดินปลูกธรรมดา หรือดินร่วนผสมอินทรียวัตถุ 

– เมล็ดพะยอม เลือกที่หล่นลงมาแล้วผลยังมีสีเขียว จะเป็นเมล็ดสดมีโอกาสงอกสูงกว่าผลแห้ง 

– กรรไกร 

ขั้นตอนการเพาะเมล็ด 

1.นำเมล็ดไปแช่น้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 3 วัน  

2.เมื่อครบกำหนดให้นำดินปลุกมาใส่ลงในกระถางแล้วรดน้ำให้ชุ่ม 

3.ใช้ไม้เจาะรูลงไปในดินความลึกประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร ระยะห่างกันประมาณหนึ่ง  

4.จากนั้นนำกรรไกรตัดปีกของเมล็ดออก แล้วนำเมล็ดฝังลงดินแล้วกลบเล็กน้อย วางกระถางทิ้งไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร 

5.ประมาณ 20 วัน ต้นกล้าก็จะเริ่มงอกออกมาให้เราได้เห็น สามารถแยกไปปลูกลงในกระถางที่ใหญ่กว่าได้แล้ว 

การปลูก / ดูแล 

เจ้าต้นนี้จะเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย หากปลูกเอาไว้ก็ควรหาพื้นที่โล่งแจ้ง มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันอย่างเพียงพอ และนอกจากนี้เขาก็ยังเป็นต้นไม้ทนแล้งได้ดี ทนอากาศร้อน รดน้ำเพียงแค่ 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น 

และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “พะยอม” ต้นไม้ป่าที่เริ่มหายากขึ้นทุกวัน ซึ่งเราได้นำเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเจ้าต้นนี้มาฝากเพื่อน ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คนอยากปลูกต้องรู้เอาไว้ จะได้ดูแลอย่างถูกวิธี สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net

You may also like

Leave a Comment