“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” PlantLover เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงทราบว่าเป็นคำขวัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีที่มาจากเงาะพันธุ์โรงเรียน สินค้าเด่นที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพันธุ์นี้ได้ถือกำเนิดที่อำเภอบ้านนาสาร ตั้งแต่เมื่อ 88 ปีที่แล้ว เป็นผลไม้ที่เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวสุราษฎร์ธานี เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดีเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกยางพาราหรือปาล์มน้ำมันที่ราคาไม่ดีในหลายปีที่ผ่านมา
เรื่องของเงาะ
ผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้เมืองร้อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย ต่อมามีนิยมปลูกกันมากขึ้นในประเทศออสเตรเลียและฮอนดูรัส โดยทั่วไปเป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีความชื้นค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถปลูกได้ดีในทางภาคตะวันออกและทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่มักปลูกไว้เพื่อบริโภคในครัวเรือนหรือจำหน่ายในเชิงการค้า โดยทั่วไปพันธุ์โรงเรียนจะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดประมาณช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานีมักจัดงานเทศกาลเงาะโรงเรียนนาสารเป็นประจำทุกปี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผลไม้ชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีเปลือกลำต้นเป็นสีเทาเข้ม แตกกิ่งก้านสาขามากมาย มีทั้งระบบรากแก้ว รากแขนง และรากฝอย แผ่นใบมีสีเขียวอมเหลือง ขอบใบเรียบ เส้นกลางใบมีขนาดใหญ่ ด้านล่างของใบมีลักษณะเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบกลมเป็นสีน้ำตาลอมแดงขนาดใหญ่ มีฐานของก้านใบหนา ออกดอกเป็นช่อ ภายในต้นเดียวกันจะมีทั้งช่อดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศ ก่อนการติดดอกประมาณ 21-30 วัน ควรงดให้น้ำเพื่อเป็นการเร่งให้มีการติดดอก การช่วยผสมเกสรหรือฉีดพ่นฮอร์โมนจะช่วยทำให้สามารถติดดอกได้ดียิ่งขึ้น ผลลักษณะผลค่อนข้างกลม มีเปลือกสีแดง เหลือง หรือชมพู ขนที่ปกคลุมผลยาวหรือสั้นก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เนื้อภายในเป็นสีขาวอมเหลือง ใส และอ่อนนุ่ม
สายพันธุ์ของเงาะที่นิยมเชิงการค้า
1. พันธุ์โรงเรียน
จัดเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุด โดยปลูกมากในจังหวัดทางภาคใต้ ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้คือมีผลกลมรี เปลือกหนา มีขนยาว ผลสุกจะมีเปลือกสีแดงเข้ม เนื้อหนา สีขาวนวล เนื้อแยกออกจากเมล็ดได้ง่าย สะดวกในการทานมีรสหวานจัด
2. พันธุ์สีชมพู
ได้รับความนิยมรองลงมาจากพันธุ์โรงเรียน ปลูกมากในเขตภาคตะวันออก ลักษณะเด่นของพันธุ์สีชมพูคือ เมื่อผลสุกจะมีเปลือกค่อนข้างหนา เปลือกและขนเป็นสีชมพู ภายนอกมีความแตกต่างจากพันธุ์โรงเรียน แต่ลักษณะของเนื้อจะแยกออกจากเมล็ดได้ง่ายเหมือนกับพันธุ์โรงเรียน
3. พันธุ์สีทอง
เป็นพันธุ์ดังเดิมมีปลูกในจังหวัดจันทบุรีและตราด มีลักษณะเด่นคือ ผลใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับพันธุ์โรงเรียนและพันธุ์สีชมพู เนื้อมีสีเหลือง เมล็ดค่อนข้างแบนสีขาวปนน้ำตาล เมื่อเก็บจากต้นใหม่ ๆ จะมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ถ้าทิ้งไว้ 1-2 คืน จะมีรสหวานขึ้น และมีกลิ่นหอม
ประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ
1. เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน แมกนีเซียม แทนนิน วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินบี 3 แถมยังมีวิตามินซีสูง
2. เป็นผลไม้ดับร้อนให้ร่างกาย ในเนื้อมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่มาก กินแล้วจะช่วยดับร้อน สร้างความเย็นฉ่ำให้กับร่างกาย
3. ช่วยขับของเสียออกจากไต เนื่องจากในมีสารฟอสฟอรัสประกอบอยู่
4. ลดการอักเสบของช่องปาก
5. บรรเทาอาการป่วย บรรเทาอาการเจ็บคอ และช่วยลดไข้ได้
6. มีไฟเบอร์สูงลดอาการท้องผูก
7. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง