อยากปลูกต้องรู้ “ต้นสาเก” ผลไม้มากประโยชน์ มีงานวิจัยรองรับ 

by plantlover
ต้นสาเก

หากกล่าวถึงสาเก หลายคนก็อาจจะนึกไปถึงเหล้าญี่ปุ่น แต่ต้นสาเกนั้นเป็นคนละส่วนและไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหล้าญี่ปุ่นแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า สาเก (ต้นไม้) นั้นมีประโยชน์มากมาย ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นสิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจ บอกเลยว่าในเมืองไทยสามารถปลูกได้ เพื่อน ๆ เองก็ต้องลงมือปลูกได้ ถ้าพร้อมแล้วเรามาทำความรู้จักกับเจ้าผลไม้หน้าตาคล้ายขนุนกันเถอะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “ต้นสาเก” ปลูกไม่ยาก มากประโยชน์ ต้านอนุมูลอิสระ 

ต้นสาเก

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Artocarpus altilis (Parkinson) Fosberg 

วงศ์ : Moraceae 

ชื่อภาษาอังกฤษ : Breadfruit 

ชื่อสามัญ : สาเก, ขนุนสำปะลอ 

แท้จริงแล้ว “สาเก” นั้น มีมามากกว่า 120 บนโลกและเป็นพันธุ์พืชที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 3,000 ปี เขาเป็นพืชพื้นเมืองของมาเลเซีย อินโดนีเซีย และหมู่เกาะทางแปซิฟิกใต้ พบได้หลากหลายสายพันธุ์ที่เกาะมาวีและเกาะกาวาย เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะปลูกอันโด่งดัง เขาเป็นผลไม้ที่ให้ลูกดกมาก ในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกพื้นที่ ที่นิยมปลูกจะเป็นสาเกข้าวเหนียวและสาเกข้าวเจ้า  

ที่มาของชื่อ Breadfruit หรือ ผลไม้ขนมปังในภาษาอังกฤษนั้นมาจาก เนื้อของสาเก หากนำไปนึ่งหรือต้มสุกจะมีลักษณะคล้ายกับขนมปังนั่นเอง 

ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ 

ต้นสาเก

ลำต้น : เขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นสีน้ำตาลปนเทา มีน้ำยางสีขาวอยู่ทุกส่วนของต้น เมื่อเจริญเติบโตอย่างเต็มที่สามารถสูงได้ตั้งแต่ 10-20 เมตรขึ้นไป หากปลูกเอาไว้ประดับบ้าน ส่วนใหญ่มักตัดต้นทิ้งเมื่อเขาเริ่มโตเต็มวัย เพราะต้นนั้นสูงเกินไป 

ใบ : ใบของต้นสาเกมาในรูปแบบใบเลี้ยงเดี่ยว ใบใหญ่มาก กว้าง 25-35 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตรโดยประมาณ ใบเว้าเป็นแฉกลึก มีสีเขียวเข้ม ก้านสีเหลืองอ่อน 

ดอก : สำหรับดอกจะออกเป็นช่อตามซอกใบ มีสีเหลือง สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ตัวผู้และตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน ช่อดอกตัวเมียจะกลม ส่วนดอกตัวผู้มีรูปร่างคล้ายสากกะเบือห้อยลง 

ผล : ไฮไลท์ของเขาคือลูกสาเกนี่ล่ะ มีความคล้ายคลึงกับขนุนบ้านเราเป็นอย่างมาก แต่ลูกเล็กกว่า ผลทรงกลมกึ่งรี สีเขียวอมเหลือง กว้างยาวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20 เซนติเมตร เนื้อในสีขาวซีด ไร้เมล็ด 

สาเก ทำอะไรได้บ้าง กินยังไง ? 

ต้นสาเก

เชื่อว่าหลายคนไม่เคยรับประทานผลสาเก เห็นแบบนี้เขามีคุณค่าทางโภชนาการ มีวิตามินหลากหลายชนิดเลยทีเดียว ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกายเราจึงเห็นว่า บางแบรนด์นำไปสกัดทำสกินแคร์ เครื่องสำอาง ส่วนการนำสาเกมารับประทาน มักนำไปแปรรูป ปรุงสุกเสียก่อน ทั้งต้ม อบ ย่าง หรือที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ก็คือ สาเกเชื่อม ขนมสาเก แกงบวช ชาวอินโดนีเซียนิยมนำไปอบกรอบเพื่อทานเล่น หรือจะนำไปป่นเป็นผงแป้งเพื่อทำขนมปังก็ได้เช่นกัน 

สรรพคุณของสาเก 

– สารสกัดจากเนื้อไม้สาเกมีผลยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ซึ่งมีการทดลองกับผิวหนังของหนูตะเภามาแล้ว โดยไม่ก่อให้เกิดการอักเสบอีกด้วย เราจึงเห็นบางผลิตภัณฑ์นำสารสกัดจากสาเกไปทำเป็นสกินแคร์ช่วยในเรื่องผิวกระจ่างใส 

– ผลของเขาช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ควบคุมความดันโลหิต ป้องกันโรคกระดูกพรุน กระดูกผุสำหรับผู้หญิงวัยทอง หมดประจำเดือนแล้ว 

– ยางจากต้นสาเกและทุกส่วน นำมารักษาโรคกลากเกลื้อน 

– เปลือกต้น เมื่อนำมาย่างไฟ ต้มเพื่อรับประทานช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ 

ขยายพันธุ์/ปลูก 

ต้นสาเก

สาเก สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ๆ 2 วิธีด้วยกันก็คือ การตอนกิ่งแบบธรรมดาทั่วไปและการสกัดราก หรือขุดรากไปเพาะพันธุ์ ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าที่รากของเขาจะมีต้นเล็ก ๆ งอกขึ้นมา เราสามารถนำส่วนนั้นมาขยายพันธุ์ต่อได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีขุดรากไปปลูกใหม่ 

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ 

1.เสียมใช้ตัดราก 

2.ดินเพาะ 

3.ถุงเพาะสีดำ 

อันดับแรกเราเริ่มจากการใช้เสียมขุดและสับรากในส่วนที่มีต้นเล็ก ๆ งอกขึ้นมา วิธีการง่ายมาก เพียงแค่นำมาลงในถุงเพาะสีดำที่มีดินสำหรับเพาะปลูก ดูแล รดน้ำเขาประมาณ 1-2 เดือน ก็ติดรากและนำไปปลูกลงดินได้แล้ว 

ทั้งนี้เมื่อนำไปปลูกก็สามารถปลูกลงบนดินได้แทบทุกรูปแบบ ทั้งดินร่วน ดินเหนียว ทั้งนี้ต้องปลูกในที่ที่แสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน เพราะเขาชอบแดดมาก ต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1-2 ครั้ง เช้าและเย็น สาเกชอบน้ำมากโดยเฉพาะช่วงฝนตก แต่ต้องหาทางหนีทีไล่ให้น้ำระบายออกไปด้วย เพราะต้นไม้ชนิดนี้ไม่ชอบน้ำขัง 

สาเก ปลูกกี่ปี่ถึงมีลูก? 

ต้นสาเก

โดยปกติแล้วเมื่อเราปลูกสาเกได้ประมาณ 4-5 ปี เขาก็จะออกผล ดั่งใจคาดหวัง 

ราคาตามท้องตลาด 

ต้นของสาเกพร้อมปลูกที่วางจำหน่าย ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 150 บาท มีความสูงตั้งแต่ 50-100 เซนติเมตรขึ้นไป 

และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นสาเก” ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ในเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์สรรพคุณ การนำมาประกอบอาหาร วิธีการปลูกและดูแล มาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงทราบแล้วว่าเขาเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน ทำงานหรือเกษียณ ก็สามารถเลี้ยงดูสาเกไว้เป็นไม้ประดับสวยงาม พร้อมทานลูกได้ น่าจะเป็นต้นไม้ที่ถูกใจใครหลาย ๆ คน ดังนั้นเราจึงหวังว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net

You may also like

Leave a Comment