ศรียะลา โสกเหลือง ต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงา ออกดอกฤดูหนาว

by plantlover
ศรียะลา

ศรียะลา คือชื่อใหม่ของเจ้าโสกเหลือง ที่หลายคนไม่อยากปลูกเพราะชื่อดูเศร้าหมอง แต่ต้นไม้มันดันสวยนี่สิ อีกทั้งยังมีขนาดใหญ่ ให้ร่มไม้ใบบัง เราสามารถเข้าไปอาศัยหลบแดด พักผ่อนหย่อนหย่อนใจได้ เรียกได้ว่ามีประโยชน์เกินคาด เป็นต้นไม้สำหรับปลูกหน้าบ้านที่ดูแลง่าย ไม่ทิ้งใบให้รกใต้ต้น และถ้าหากว่าคุณคือคนหนึ่งที่กำลังสนใจอยากครอบครอง ต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องรู้เอาไว้ จะได้เลี้ยงเขาอย่างถูกวิธี

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ศรียะลา ต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้หน้าหนาวสีเหลืองสวย มองเพลินตา!

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saraca thaipingensis Cantley ex Prain 

ชื่อวงศ์ : Fabaceae (วงศ์ถั่ว) 

ชื่อสามัญ : Yellow Asoka, Yellow Saraca, Gapis Golak, Talan หรือ Bunga Asoka

ชื่อท้องถิ่นอื่น : โสกเหลือง, โสกใหญ่, โสกป่า, โสกน้ำ, อโศกเหลือง อโศกใหญ่ (ภาคใต้) 

ศรียะลา

ศรียะลา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางอันมีถิ่นฐานอยู่ในบ้านของเรานี่เอง จากชื่อวิทยาศาสตร์ของเขา คำว่า “Thaipingensis” นั่นคือชื่อเมืองไทปิง ในประเทศมาเลเซีย สันนิษฐานว่าเป็นเมืองที่ค้นพบต้นโสกนี้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ก็ยังพบในประเทศไทย พม่า อินโดนีเซีย (ชวา) เป็นต้นไม้ที่มักขึ้นอยู่ริมธารน้ำ ตามห้วยหรือเขาลาดชัน ดอกสีเหลืองโดดเด่นเป็นตัวล่อผึ้ง ล่อแมลงชั้นดี แถมยังมีความสำคัญเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดยะลาด้วยนะ

ความเชื่อ

“โสก” ในที่นี้ไปพ้องกับคำว่า “โศก” ซึ่งให้ความหมายไม่ดีนัก คนโบราณเชื่อว่าหากปลูกเอาไว้ในบ้านก็จะมีแต่ความโศกเศร้าเสียใจ แต่หากเราลองพิจารณาให้ดีเจ้าต้นนี้ก็ถูกเรียกว่าอโศก ที่หากดูคำแปลจะหมายถึงการไม่ทุกข์โศก แต่ถ้าจะปลูกก็อย่าไปคิดอะไรมาก เพราะเขามีชื่อใหม่ว่า “ศรียะลา” แล้วนี่ไง น่ารัก ดูเป็นไม้มงคลไปอีก 

ศรียะลา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ลำต้น : อย่างที่บอกไปว่าเขาเป็นยืนต้นขนาดกลาง ก็จะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 10-15 เมตรขึ้นไป เรือนยอดกลม ทึบ ลำต้นสีน้ำตาลเข้มแซมเทา ผิวเปลือกเรียบ เนื้อไม้แข็งแรง

ใบ : เป็นแบบใบประกอบขนนก ปลายคู่ ออกเรียงตรงข้ามกัน ประกอบไปด้วยใบย่อย 2-7 คู่ รูปใบรี แกมหอก หรือรูปไข่ ขอบขนาน ปลายและโคนใบสอบเรียว เส้นใบเป็นร่องลึกชัดเจน ผิวใบมัน เนื้อใบค่อนข้างแข็ง

ดอก : ดอกโสก สีเหลือง ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของต้นไม้ที่สามารถบอกได้ว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เขาจะออกดอกเป็นช่อเชิงหลั่นให้เราได้เห็นประมาณเดือนธันวาคม-มีนาคม ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในแต่ละช่อประกอบไปด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยที่อยู่ล่างสุดจะมีก้านยาวลดลั่นไปที่ปลายยอดดอก ดอกย่อยมี 4 กลีบสีเหลือง โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด โดดเด่นด้วยเกสรเพศผู้ที่ยาวพ้นกลีบดอกออกมา

ศรียะลา

ประโยชน์

นอกจากจะเป็นต้นไม้ปลูกหน้าบ้านสวย ๆ แล้ว เจ้าศรียะลายังเป็นสมุนไพร มีสรรพคุณทางยาอันน่าสนใจอีกด้วย โดยเฉพาะดอก รสชาติติดเปรี้ยว รับประทานเพื่อแก้ไอหรือขับเสมหะและบำรุงธาตุได้

การขยายพันธุ์

สำหรับการขยายพันธุ์ศรียะลา ส่วนใหญ่แล้วมักใช้วิธีการตอนกิ่งและเพาะเมล็ดเป็นหลัก ซึ่งถ้าใครไม่เคยตอนกิ่งมาก่อนก็อาจรู้สึกว่าทำยากหน่อยเพราะมีชั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน แต่สำหรับวันนี้เรามีขั้นตอนง่าย มาฝากให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปทำตามแน่นอน

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

– ตุ้มตอนกิ่งพันธุ์สำเร็จรูป 1 ชุด (ราคาประมาณชุดละ 3-5 บาท)

– เชือกแก้วสำหรับรัดตุ้ม

– มีดควั่นกิ่ง

– กรรไกรตัดกิ่ง

– ถุงเพาะชำ

– กาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน

– ปุ๋ยคอก 1 ส่วน

– ดินปลูก 1 ส่วน

วิธีการตอนกิ่งต้นไม้

1.ให้เราทำการเลือกกิ่งศรียะลาที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป เนื่องจากมีโอกาสงอกรากสูงกว่าปกติ

2.จากนั้นให้เราใช้มีดควั่นกิ่งไม้แล้วเอาเปลือกออก ความยาวประมาณ 5-7 เซนติเมตร

3.ใช้มีดขูดเนื้อเยื่อไม้ออกเบา ๆ

4.นำตุ้มตอนกิ่งสำเร็จรูปมาปาดตรงกลางในแนวยาว

5.จากนั้นหุ้มลงไปตรงกิ่งที่เราควั่นเอาไว้แล้ว ส่วนใหญ่ตุ้มที่ซื้อมามักผสมน้ำยาเร่งรากมาให้แล้ว แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มั่นใจ จะซื้อน้ำยาเร่งรากมาทาลงบนกิ่งก่อนก็ได้เช่นกัน

6.จากนั้นใช้เชือกแก้วรัดหัวและท้ายของตุ้มตอนให้อยู่แน่นติดกิ่ง รอให้เขาออกรากเป็นขั้นตอนถัดไป

7.เมื่อเขางอกรากแล้วให้นำไปเพาะชำต่อในวัสดุปลูกที่มีส่วนผสมของดินปลูก กาบมะพร้าวสับ และปุ๋ยคอก อย่างละ 1 ส่วน

8.เมื่อมั่นใจว่าต้นแข็งแรงแล้วจึงนำไปปลูกเป็นขั้นตอนถัดไป

ศรียะลา

การปลูก/ดูแล

ศรียะลา เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ต้องการแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันอย่างเพียงพอ ควรปลูกเขาเป็นไม้ประดับกลางแจ้ง อย่างเช่นในสวน บนดินร่วนระบายน้ำดี ดินโปร่ง อุดมไปด้วยอินทรียวัตถุ และรักษาความชื้นอย่างสม่ำเสมอโดยการรดน้ำวันละ 1 ครั้ง หมั่นสังเกตหน้าดินอย่าให้แห้งแล้งจนเกินไป 

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับต้นศรียะลา ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก แม้เขาจะเติบโตช้าหน่อย แต่ถ้าเราอดใจรอ ดูแลอย่างถูกวิธีก็จะได้เห็นดอกสวย ๆ ส่งกลิ่นหอมกันอย่างแน่นอน แถมไม่ต้องกวาดใบไม้ใต้ต้นมากมาย ยิ่งช่วงอากาศหนาวหน่อยบอกเลยฟินมาก

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net

You may also like

Leave a Comment