การปลูกผักสลัดให้รอดอยู่ได้จนกระทั่งเติบโต ถือเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ แน่นอนว่าวันนี้เราจะมาเอาใจคนชอบ “กรีนคอส” หรือบรรดาผักคอสทั้งหลาย โดยการแนะนำวิธีปลูกง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก มือใหม่ก็ทำได้ในทุกฤดู รับรองปลูกแล้วได้กินแน่นอน แต่อาจจะไม่สวยเท่าไหร่ เน้นบริโภคเองมากกว่า!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “กรีนคอส” หรือ “ผักกาดคอส” พร้อมประโยชน์และวิธีปลูก!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lactuca sativa L. var. Longifolia
ชื่อวงศ์ : Asteraceae. (วงศ์ทานตะวัน)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cos Lettuce, Romaine Lettuce
ชื่ออื่น ๆ : ผักกาดหวาน, ผักกาดโรเมน
กรีนคอส คือหนึ่งในผักสลัดที่คนนิยมรับประทานเป็นอันดับต้น ๆ มีจุดเด่นด้านความกรอบ อิ่มน้ำ ต้นสดไม่เหม็นเขียว แต่อาจพบรสขมเล็กน้อยที่ปลายลิ้นหากเก็บเกี่ยวในวันอากาศร้อน แต่ถึงอย่างนั้นคอสก็เป็นผักสลัดทนร้อนได้ดีกว่าผักสลัดชนิดอื่น จึงเหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกเป็นอย่างมาก
ลักษณะเบื้องต้น
กรีนคอส คือพืชล้มลุกที่มีลำต้นเป็นกอ ปลีสวย ซ้อนกันเป็นช่อ เป็นผักใบเขียวที่มีใบยาว รี ผิวใบบาง ลำต้นและก้านใบอวบน้ำและน้ำหนักเบา
ประโยชน์
อย่างที่เราทราบกันดีว่ากรีนคอสเป็นผักสลัดซีซาร์ แต่ว่าเขาก็ยังนำไปประกอบอาหารในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย โดยเฉพาะการกินดิบ จิ้มน้ำพริก หรือทานคู่กับเมี่ยงปลาแทนผักกาดขาวก็ได้รสชาติที่มัน หวาน กลมกล่อมไปอีกแบบ เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าเจ้าต้นนี้แท้จริงแล้วมีคุณประโยชน์สูงมาก ด้วยความที่เขาเป็นผักใบเขียวเมื่อทานแล้วจึงช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยให้หลอดเลือดทำงานได้ดีขึ้น เป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมน้ำหนัก
สารอาหารในผัก
– วิตามินบี1, บี2, บี3, บี5 และบี6
– วิตามินเอ
– วิตามินซี
– วิตามินเค
– แคลเซียม
– ธาตุเหล็ก
– แมกนีเซียม
– ฟอสฟอรัส
– โพแทสเซียม
– สังกะสี
– เบต้า-แคโรทีน
– ลูทีน-ซีแซนทีน
ปลูกผักสลัดแบบไหนดี ไฮโดรโปนิกส์ VS บนดิน
การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ ก็จะแยกออกไปอีกหลากหลายรูปแบบ ทั้งระบบน้ำวนและปลูกแบบน้ำนิ่งในกล่องโฟม สำหรับมือใหม่ปลูกผักไว้กินเองขอแนะนำเป็นแบบน้ำนิ่งในกล่องโฟมจะดีกว่า เนื่องจากประหยัดงบประมาณ เหมาะสำหรับคนขี้เกียจเพราะไม่ต้องรดน้ำทุกวัน และที่สำคัญไม่เลอะเทอะ ลงทุนน้อย
การปลูกกรีนคอสบนดินก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ไม่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจเนื่องจากต้องดูแล รดน้ำทุกวัน ควบคุมได้ค่อนข้างยากกว่าปลูกในน้ำ
การปลูกผักคอส
สำหรับกรีนคอสเป็นผักที่ปลูกง่ายมาก มือใหม่ก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน วิธีปลูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงหนีไม้พ้น การปลูกแบบ “ไฮโดรโปนิกส์” หรือ “การปลูกแบบไร้ดิน” แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเลี้ยงเขาโดยวิธีไหนก็จำเป็นต้องเพาะเมล็ดให้ขึ้นก่อนเป็นอันดับแรกดังขั้นตอนต่อไปนี้
1.นำทิชชู่มาวางลงด้านในกล่องมีฝาปิดมิดชิด
2.ใช้ฟ็อกกี้ฉีดน้ำให้ชุ่มทิชชู่
3.นำเมล็ดกรีนคอสลงไปวางอย่างเป็นระเบียบ
4.นำทิชชู่วางทับลงไปอีก 1 แผ่นบาง ๆ
5.ใช้ฟ็อกกี้ฉีกน้ำเข้าไปให้ทิชชู่ชั้นบนเปียกชุ่ม
6.ปิดฝากล่องให้สนิท จากนั้นวางเอาไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 1-2 วัน รากสีขาวของเขาก็จะงอกออกมาแล้วล่ะ
ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากปลูกกรีนคอสแบบไฮโดรโปรนิกส์ในกล่องโฟม จะต้องอาศัยหยอดเมล็ดลงฟองน้ำที่ถูกนวดจนชุ่ม เอาไว้ในถาดเพาะซึ่งมีน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้อีกทีไปก่อนสักประมาณ 2-3 วันเมื่อรากสีขาวเขาเริ่มงอกออกมาจากฟองน้ำหน่อยก็เปลี่ยนน้ำในถาด เติมปุ๋ย A ปุ๋ย B แบบอ่อน ๆ ในสัดส่วนปุ๋ย 3 cc ต่อน้ำ 1 ลิตร เลี้ยงต่ออีกสักประมาณ 7 วันเขาก็จะเริ่มเติบโตเป็นกล้า
จากนั้นก็แยกฟองน้ำออกมาใส่หลุมเพื่อนำไปหย่อนลงในกล่องโฟมที่ถูกเจาะรูเอาไว้แล้ว มีส่วนผสมของปุ๋ย A B ในอัตราปุ๋ย 5 cc ต่อน้ำ 1 ลิตร เข้มข้นกว่าตอนเลี้ยงกล้า หลักการวางให้ฟองน้ำสัมผัสกับน้ำปุ๋ยอย่าให้รากของกรีนคอสแห้งเด็ดขาด
การดูแล
กรีนคอสค่อนข้างปลูกง่าย สามารถปลูกเอาไว้ในคอนโดได้ เพียงแต่ต้องมีแสงแดดริมระเบียงบ้าง พยายามให้เขาถูกแดดในช่วงเช้า หลบแดดช่วงเที่ยง จะเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้เมื่อผักโตขึ้นในสภาพอากาศที่ร้อนของเมืองไทยก็อาจมีรสขมได้ แนะนำให้ผู้ปลูกพ่นสเปรย์น้ำใส่ใบของเขาในช่วงเช้า ให้ละอองกระจายมากที่สุดเพื่อลดความขมของผักลง จะทำให้เราสามารถเก็บผักมากินได้ทุกเมื่อ
อายุเก็บเกี่ยว
แม้เราจะสามารถนำผักคอสมารับประทานได้ทุกเมื่อ แต่เขาก็มีอายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมเช่นกัน นับจากวันย้ายกล้า 40-60 วันโดยประมาณ ผักจะโตเต็มที่และอร่อยสะใจ
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “กรีนคอส” ผักสลัดแสนอร่อยที่ควรค่าแก่การบริโภค มีคุณประโยชน์และสารอาหารมากมาย แถมยังต้นเล็กน่ารัก มีคุณค่าทางจิตใจอีกด้วย ระหว่างเขาเป็นผักเบบี๋ก็ต้องลุ้นกันตั้งแต่เล็กจนโต ถ้าใครซีเรียสเรื่องความสวยงามสักหน่อยแนะนำซื้อมุ้งแบบเต็นท์มากาง ประหยัดงบ จบที่ไม่เกิน 500 บาท ผักของเราก็จะไร้แมลงและหนอนมากวนใจ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
แนะนำ ผักไฮโดรโปนิกส์น่าปลูก