ต้นสายน้ำผึ้ง เพื่อน ๆ เคยได้ยินชื่อมาก่อนบ้างไหมเอ่ย มันไม่ใช่ต้นส้มแต่อย่างใด เพราะเขาคือไม้เลื้อยดอกสีเหลืองทองออมเบร สวยงามสุดคูลที่เหมาะจะปลูกเอาไว้ให้เลื้อยเคียงคู่ไม้ระแนงเป็นอย่างยิ่ง คนชอบแต่งบ้านอยากหาดอกไม้สไตล์เกาหลี ญี่ปุ่นมาตกแต่งตามมุมสวน บอกเลยว่าวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลี้ยง ดูแลเขาแบบละเอียดมาฝาก เพื่อให้ทุกคนนำไปใช้งาน ใครอยากปลูกบอกเลยว่าต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรรู้เอาไว้!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ต้นสายน้ำผึ้ง ไม้เลื้อย ดอกสีเหลืองสวย ที่ใครก็ปลูกได้!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lonicera japonica
ชื่อวงศ์ : Caprifoliaceae (วงศ์สายน้ำผึ้ง)
ชื่อสามัญ : Japanese Honeysuckle หรือ Gold-and-silver Flower
ต้นสายน้ำผึ้ง เหมาะสำหรับคนที่กำลังตามหาไม้เลื้อยปลูกหน้าบ้าน ชื่อสามัญของเขาบ่งบอกรูปพรรณสัณฐานของดอกได้ประมาณหนึ่ง รวมไปถึงถิ่นกำเนิดซึ่งมาจากทางเอเชียตะวันออกไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลี หรือประเทศจีน และถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเย็น แต่ก็สามารถนำมาปลูกในประเทศไทยแล้วออกดอกสีเหลืองทองดุจดั่งน้ำผึ้งให้เราชื่นชมเป็นบุญตา ทว่าการปลูกนั้นต้องคำนึงถึงพื้นที่อาณาบริเวณบ้านสักเล็กน้อย เนื่องจากเขาเป็นไม้เลื้อยทอดไกล ปลูกไว้แล้วต้องดูแลควบคุม
ความหมายของดอกสายน้ำผึ้ง
ความจริงแล้วสายน้ำผึ้งเขามีมากกว่า 180 สายพันธุ์เลยทีเดียว มีคนกล่าวเอาไว้ว่าดอกสายน้ำผึ้งนั้นสื่อความหมายถึงการไม่จมปลักอยู่กับอดีต แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็นิยามเขาว่าเป็นดอกไม้แห่งการ “ยึดติด” ไม่ยอมปล่อยวาง ความรักหมดใจ ทุ่มสุดตัว เฉกเช่นฮัมมิ่งเบิร์ดผู้หลงใหลในรสน้ำหวาน แม้จะเป็นเป้านิ่งให้ศัตรูเข้าโจมตีจนตายก็ยอม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : อย่างที่ทราบกันดีว่าเขาเป็นไม้เลื้อย ซึ่งจะมีเถาทอดยาวไปไกลตั้งแต่ 10-30 เมตรเลยทีเดียว เถาค่อนข้างกลม สีน้ำตาลอมเทา เนื้อในเถากลวง แต่เมื่อโตเต็มที่ก็จะกลายเป็นประเภทกึ่งมีเนื้อไม้ค่อนข้างแข็งแรงกิ่งอ่อนมีขนสีขาวปกคลุม
ใบ : ของเขามาในรูปแบบใบเดี่ยว จะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น รูปไข่ โคนมนตัด ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ขนาดกว้าง 1-4 เซนติเมตร และยาว 3-8.5 เซนติเมตรโดยประมาณ หลังใบสีเขียวเข้มและท้องใบสีเขียวอมเทา มีขนปกคลุมทั่วทั้งใบและเถาและใบ
ดอก : ดอกสายน้ำผึ้งมีดีเทลค่อนข้างเยอะจึงดูน่าสนใจ โดยปกติแล้วหากนำมาปลูกในบ้านเราส่วนใหญ่จะออกดอกเพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้น โดยจะออกมาในรูปแบบช่อบริเวณซอกใบ ประมาณช่อละ 2 ดอก โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกแยกเป็นสองปาก แบ่งออกเป็นปากล่าง 1 กลีบ ปากบน 4 กลีบ พบเกสรยื่นออกมาไม่เป็นระเบียบที่ใจกลางดอกทั้งหมด 5 อัน ส่วนใหญ่แล้วดอกตูมจะมีสีขาว เมื่อเริ่มบานออกมาหน่อยก็จะมีสีเหลืองทอง คงอยู่อย่างสวยงาม 2-3 วันก่อนร่วงโรย เป็นหนึ่งในดอกไม้กลิ่นหอมโชยยามเย็น ดมแล้วฟิน ชื่นใจ
ผล : ส่วนผลของเขามีขนาดเล็ก ทรงกลม ผิวเกลี้ยง เรียบ มันเงา เมื่อสุกแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ
ประโยชน์ของต้นสายน้ำผึ้งที่คุณอาจยังไม่รู้
นอกจากการปลูกเอาไว้เพื่อเป็นไม้ประดับแล้ว สายน้ำผึ้งก็ยังเต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยมากมาย โดยเฉพาะส่วนของดอกที่รสชาติหวานโดดเด่น จึงมักถูกนำไปแปรรูปเป็นไวน์ น้ำเชื่อม ไอศกรีม หรือแยม เพราะได้ประโยชน์ในส่วนของกลิ่นด้วย แถมกลิ่นจากดอกสายน้ำผึ้งก็ยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมแนว Aromatherapy อีกด้วย
การขยายพันธุ์
ต้นสายน้ำผึ้ง ขยายพันธุ์ไม่ยุ่งยาก สามารถใช้วิธีการปักชำ ตอนกิ่ง หรือเพาะเมล็ดได้เลย แถมยังเกิดง่ายมาก แบบนี้ถ้าใครเป็นมือใหม่ก็สามารถเพิ่มจำนวนประชากรต้นไม้เองได้เช่นกัน ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการกระจายพันธุ์มาฝาก
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– พีทมอส
– ถาดเพาะ
– เมล็ดต้นสายน้ำผึ้ง
ขั้นตอนวิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์
1.หากเป็นผลที่ยังติดเนื้ออยู่ให้เราทำการยีเนื้อออกจนเหลือแต่เมล็ด
2.นำพีทมอสไปแช่น้ำแล้วยีให้มีความร่วนซุย ก่อนบรรจุลงถาดเพาะชำ
3.จากนั้นนำเมล็ดลงไปฝังในพีทมอส โดยกดลงไปในดินไม่ต้องลึกมาก
4.วางถาดเพาะเอาไว้ในพื้นที่ร่มรำไรแล้วรอให้กล้างอกออกมาเต็มที่ แล้วจึงค่อยนำไปอนุบาลหรือปลูกต่อ
การปลูก/ดูแล
วัสดุปลูกต้นสายน้ำผึ้งนั้นต้องเน้นความร่วนซุยเป็นหลัก ถึงแม้ว่าเขาจะเติบโตได้ดีในดินหลากหลายรูปแบบก็ตาม แนะนำสูตรดินปลูกเป็น กาบมะพร้าวสับและขุยมะพร้าวอย่างละ 1 ส่วนนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนที่จะบรรจุใส่กระถาง วางต้นไม้เอาไว้กลางแจ้งเนื่องจากเขาเป็นไม้เลื้อยแต่งสวนที่ค่อนข้างชอบแดดจัดหรือแดด 6-8 ชั่วโมงต่อวัน อย่าลืมรดน้ำวันละ 1 ครั้งแล้วใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตรที่เหมาะสมให้เขาเพื่อเป็นการบำรุง
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นสายน้ำผึ้ง” ที่เราได้ทำการรวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก เห็นน้องหน้าตาแบบนี้ เกิดในเมืองหนาวแบบนี้แต่อยู่ในบ้านเราได้ แถมเลี้ยงง่าย แต่ถ้าใครไม่อยากให้เขาเลื้อยไปไกลมากก็จำเป็นจะต้องตัดแต่งกิ่งเพื่อคุมความยาวของเถาสักหน่อย สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าเกร็ดความรู้ที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net