พยับหมอก ออกดอกทั้งปี เติมสีฟ้าให้สวนสวย ใครก็ปลูกได้ง่าย ๆ

พยับหมอก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยเพิ่มสีสันให้สวนของเรามีสีฟ้าสวยสบายตามากยิ่งขึ้น แม้ดอกของเขาจะไม่ได้โดดเด่น ชวนพิสมัยมากมายนัก แต่เมื่อนำมาปลูกเป็นทิวแถวจัดพุ่มสวยงามแล้วกลับชวนมองไม่อยากละสายตา และถ้าหากคุณกำลังตามหาดอกไม้แนวนี้เอาไปปลูกแต่งสวนบอกเลยว่ามีเรื่องที่ต้องนึกถึงอยู่บ้างเล็กน้อย ถ้าพร้อมแล้วต่อไปนี้คือสิ่งที่ทุกคนต้องรู้เอาไว้ก่อนปลูกเจ้าต้นนี้

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

พยับหมอก หรือ เจตมูลเพลิงฝรั่ง ดอกไม้สีฟ้าสวยที่ควรมีติดสวน!

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Plumbago auriculata

ชื่อวงศ์ :  Plumbaginaceae (วงศ์เจตมูลเพลิง)

ชื่อสามัญ : Cape leadwort, Cape Plumbago และ Sky flower

พยับหมอก คือไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศทางแอฟริกาใต้ เมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงแรก ส่วนหนึ่งก็เพราะดูแลง่าย เติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย ถ้าหากเพื่อน ๆ ปลูกเอาไว้แนะให้ลองใช้กลีบดอกของเขาเอาไปถูตามผิวหนังจะเกิดเป็นสีคล้ายกับตะกั่ว ในสมัยก่อนมีความเชื่อว่าพืชชนิดนี้ช่วยขับพิษตะกั่วออกจากร่างกายได้อีกด้วย แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องราวที่บอกต่อกันมาเท่านั้น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น : อย่างที่บอกไปแล้วว่าเจ้าพยับหมอก นั้นมีลักษณะเป็นไม้พุ่มซึ่งอาจสูง 30-90 เซนติเมตรโดยประมาณ ลำต้นสีเขียว แตกกิ่งก้านโปร่ง ไม่เป็นระเบียบ

ใบ : มาในรูปแบบใบเดี่ยว รูปไข่กลับ ออกเรียงสลับกัน หลายคนอนุมานว่าเป็นรูปใบหูของสัตว์บางชนิด ปลายใบมน โคนใบสอบ ขอบใบหยักเล็กน้อย ผิวใบด้านบนสีเขียว ส่วนผิวใบด้านล่างปกคลุมไปด้วยขนสีขาว

ดอก : ออกเป็นช่อเชิงลด กระจุกกันอยู่ที่บริเวณปลายกิ่ง โคนดอกนั้นเชื่อมติดกันเป็นหลอดแล้วแผ่ออกเป็น 5 ร่อง แต่ละร่องมีเส้นกลางกลีบชัดเจน ปลายกลีบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในดอกไม้สีฟ้าอมม่วงสวยที่ทำให้หัวใจอ่อนระทวยอย่างมาก แถมยังออกดอกให้เห็นตลอดทั้งปีอีกด้วย

ประโยชน์

อย่างที่บอกไปแล้วว่าส่วนใหญ่คนมักจะปลูกพยับหมอกเอาไว้เพื่อเป็นไม้ประดับแต่งสวน เพิ่มสีสันสดใส มองแล้วเพลินตาเสียมากกว่า ปัจจุบันนิยมเลี้ยงและตัดแต่งกิ่งให้พุ่มเตี้ยลงเหลือเพียงแค่ 15-20 เซนติเมตร และด้วยความที่แตกกิ่งโปร่งก็มีข้อดีตรงที่เขาสวยอย่างดูเป็นธรรมชาติ ใครอยากให้พุ่มแน่นแนะนำปลูกในกระถางเป็นแนวยาว ใกล้กับต้นไม้พุ่มหนาหรือกำแพงก็จะช่วยเพิ่มมิติให้แก่สวนของเราได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากว่าใครมีคอนโด หรือหอบนตึกสูงแล้วมีระเบียงด้านนอก ก็สามารถปลูกเอาไว้ชื่นชมเล่นได้เช่นกัน

การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์พยับหมอก ส่วนใหญ่มักทำโดยใช้วิธีการปักชำกิ่งเป็นหลัก เห็นเขาเป็นต้นไม้กิ่งเล็ก ๆ แบบนี้หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าปักชำแล้วน้องชอบตาย กิ่งเน่า รากไม่งอก ซึ่งเราบอกเลยว่ามันมีเคล็ดลับอยู่เล็กน้อย สำหรับมือใหม่หัดชำกิ่งต้นไม้ หรือคนที่ชำน้องแล้วไม่รอด สามารถนำไปทำตามกันได้เลย

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

– กรรไกรตัดกิ่ง

– พยับหมอกต้นแม่

– น้ำยาเร่งราก (ถ้ามี)

– ดินปลูก 1 ส่วน

– กาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน

– อินทรียวัตถุ 1 ส่วน

– กระถางเพาะชำ

– ถุงพลาสติกขนาดใหญ่สำหรับอบ

– เชือกแก้วรัดปากถุง

ขั้นตอนวิธีการปักชำกิ่ง เจตมูลเพลิงฝรั่ง

1.อันดับแรกให้เราทำการเลือกตัดกิ่งต้นพยับหมอกที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป เพื่อให้งอกรากออกมาได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น หากเจอแล้วก็ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดออกมาให้ยอดยาวประมาณ 12-15 เซนติเมตร

2.หากมีใบติดมากับกิ่งก็กำจัดออกหน่อย เหลือเอาไว้สักประมาณ 1-2 ใบก็พอ

3.จากนั้นถ้าหากว่ามีน้ำยาเร่งราก ให้นำกิ่งไปแช่ทิ้งไว้สัก 10 นาที แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ ถือว่าตัดขั้นตอนนี้ออกไปได้เลย

4.จากนั้นผสมวัสดุปลูกโดยใช้กาบมะพร้าวสับ อินทรียวัตถุ และดินปลูกอย่างละ 1 ส่วน มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน

5.บรรจุดินใส่กระถาง รดน้ำให้ชุ่มชื้น

6.นำกิ่งพยับหมอกฝั่งที่แช่น้ำยาเร่งรากไปปักลงดิน ความลึก 2-3 เซนติเมตรโดยประมาณ

7.นำไปอบโดยเอากระถางใส่เข้าไปในถุงขนาดใหญ่ กระพือให้ลมเข้าไปจนพองหน่อยแล้วมัดปากถุงให้แน่น วางต้นไม้ทิ้งเอาไว้ในพื้นที่แสงน้อย รอสักหน่อยทุกกิ่งก็จะงอกรากออกมาให้เราได้เห็นเป็นบุญตา

การปลูก/ดูแล

เจ้าต้นนี้เรียกได้ว่าเป็นไม้ประดับกลางแจ้ง ที่ชื่นชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน ดังนั้นจึงควรปลูกเขาให้อยู่ในพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงเกิน  6-8 ชั่วโมง จะช่วยให้ออกดอกง่าย สดใสมากขึ้น เน้นดินโปร่ง ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุมากหน่อย แต่ก็ยังกักเก็บความชุ่มชื้นอยู่หมัด ควรรดน้ำสักวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แต่ถ้าหากไม่มีเวลาแนะนำรดน้ำช่วงเช้า 1 ครั้งให้พื้นแฉะไปเลย เน้นเติมปุ๋ยละลายช้าสูตร 12-25-6 สักหนึ่งกำมือ

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับพยับหมอก เจ้าต้นไม้ Size กะทัดรัดที่ปลูกเพื่อควบคุมทรงพุ่มตามใจต้องการได้ เลี้ยงง่าย ออกดอกเก่งที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปทำความรู้จัก เป็นอย่างไรบ้างคะ เจ้าต้นไม้นี้น่าสนใจมากเลยใช่ไหม ถ้ามีติดบ้านเอาไว้รับรองฟินแน่นอน ถึงแม้ว่าดอกจะไร้กลิ่นหอมใด ๆ ก็ตาม

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net