ต้นไม้ที่เกิดริมทะเล ก็มักจะให้ร่มเงา สวยงาม และชวนให้นึกถึงบรรยากาศชายหาดสีขาวยามปลูกเอาไว้ในบ้าน “องุ่นทะเล” ก็เช่นกัน เขาเป็นไอเทมที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ของคนรักต้นไม้ ปลูกเอาไว้ดูเล่นดีต่อใจอย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการเลี้ยงดู แต่งกิ่งอย่างไรให้สวย พร้อมวิธีการขยายพันธุ์ที่ง่ายมาก ๆ ใครกำลังสนใจอยู่ห้ามพลาดเด็ดขาด!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
องุ่นทะเล ต้นไม้ริมทะเล ฟอร์มสวย น่าปลูก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Coccoloba uvifera (L.) L.
ชื่อวงศ์ : Polygonaceae (วงศ์ผักไผ่)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Seagrape
ชื่ออื่น ๆ : ต้นครุฑทะเล
องุ่นทะเล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางอันมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศทางทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มักพบเห็นเขาอยู่ตามชายทะเลหรือเกาะต่าง ๆ ในประเทศไทยเองก็เช่นกัน เขาสามารถเติบโตได้ดีในเขตร้อน เป็นต้นไม้ใบสวยที่เลี้ยงไม่ยาก นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แถมยังไม่ผลัดใบทิ้งให้รกพื้นอีกด้วย ใครกำลังตามหาต้นไม้แนวนี้อยู่บอกเลยน้องเขาน่าสนใจมาก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : อย่างที่บอกว่าเขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงก็จะอยู่ที่ราว ๆ 3-10 เมตร แตกกิ่งเป็นเรือนพุ่มกลมหนาแน่นกว้าง 4 – 6 เมตรโดยประมาณ เปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทามีรอยด่าง ผิวตะปุ่มตะป่ำ
ใบ : ใบของเจ้าองุ่นทะเล จะเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีความคล้ายคลึงกับใบเล็บครุฑ ออกเรียงสลับทั่วกิ่ง ลักษณะใบกลม ปลายใบมน โคนใบเว้าเข้าแบบรูปหัวใจ แผ่นใบแข็ง ค่อนข้างหนา ขอบใบเรียบกระดกขึ้นเล็กน้อย เมื่อแก่จัดจะมีสีเขียวเข้มและมัน เส้นใบใหญ่สีแดงหรือเหลือง นอกจากนี้ก็ยังมีครุฑทะเลใบด่างนวลสวยงาม
ดอก : องุ่นทะเลออกดอกเป็นช่อเชิงลดอาจตั้งขึ้นหรือห้อยลงก็ได้ที่บริเวณปลายกิ่ง ความยาวแต่ละช่อ 20 – 30 เซนติเมตรโดยประมาณ ดอกย่อยขนาดเล็ก มีกลิ่นหอม กลีบดอกสีขาวอมเขียว 5 แฉก สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมากที่สุดในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ผล : และที่ได้ชื่อว่าเป็นองุ่นแห่งท้องทะเลก็มาจากลักษณะผลของเขา ที่ออกเป็นพวงคล้ายกับองุ่น เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 – 1 เซนติเมตร แต่ละช่ออาจมีมากถึง 75 ผลเลยทีเดียว ผลกลมมีเนื้อด้านใน ลูกอ่อนสีเขียว เมื่อแก่แล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วงถึงดำ สามารถนำมารับประทานได้มีรสฝาดอมเปรี้ยว มักติดผลในช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน และต้องเป็นต้นที่อายุ 2 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ประโยชน์
หลัก ๆ แล้วองุ่นทะเลนั้นถูกใช้ประโยชน์ในด้านการเป็นไม้ประดับ แต่งสวน แต่งบ้าน ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ให้รอบบ้านเย็นมากยิ่งขึ้น ชวนนึกถึงบรรยากาศริมทะเล นอกจากนี้ก็ยังมีสารและสรรพคุณทางยาอันน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่รักษาอาการหอบหืด ช่วยย่อยอาหาร ต้านการอักเสบ นำสารสกัดไปทำสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องผิวกระจ่างใส หรือจะเก็บเอาผลของเขาไปแปรรูปทำไวน์ น้ำผลไม้ เยลลี่ หรือแยมก็ได้เช่นเดียวกัน หากปล่อยผลสุกคาต้นโดยไม่ทำอะไรก็จะมีบรรดานก กระรอก แวะเวียนมาชิมองุ่นของเราอยู่เรื่อย ถือเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่ง
วิธีการขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์ต้นองุ่นทะเล จะนิยมวิธีการตอนกิ่งกันมากที่สุด เนื่องจากใช้เวลาในการเติบโตไม่นาน ออกรากเร็ว แต่ก็สามารถเพาะเมล็ดได้เช่นกัน แต่วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาเรียนรู้วิธีการตอนกิ่งต้นไม้ ทำอย่างไรจึงจะเหมาะสม
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.ตุ้มตอนสำเร็จรูป หรือหากทำตุ้มเองก็ใช้ขุยมะพร้าวผสมกาบมะพร้าวเล็กน้อย และน้ำยาเร่งรากยัดลงไปในถุงแกงขนาดเล็ก แล้วรัดปากด้วยหนังยาง
2.เชือกสำหรับมัดตุ้มตอน 2 เส้น
3.มีดคว้านกิ่ง
4.กระถางหรือถุงเพาะชำ
5.ดินร่วนผสมปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์ อัตราส่วน 2:1
ขั้นตอนการตอนกิ่ง
1.เลือกกิ่งองุ่นทะเล ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
2.จากนั้นใช้มีดคว้านเปลือกของเขาออกความยาวประมาณ 5 – 7 เซนติเมตร
3.ขูดเนื้อเยื่อออกเล็กน้อย
4.ตัดที่บริเวณกลางพุงของตุ้มตอนแล้วห่อหุ้มแผลของกิ่งเอาไว้
5.จากนั้นใช้เชื่อรัดหัว – ท้ายตุ้มจนแน่น รอให้มั่นใจว่าติดรากแล้วจึงค่อยตัดกิ่งไปเพาะลงในดิน
6.เมื่อได้เวลาเพาะลงดินต่อก็อย่าลืมผสมดินร่วนเข้ากับปุ๋ยอินทรีย์ แล้วรดน้ำต้นไม้ทุกวัน อย่าให้ดินแห้ง หากต้นแข็งแรงพอแล้วจึงค่อยนำไปปลูกลงในพื้นที่ที่เราต้องการ
การปลูก / ดูแล
สำหรับการปลูกควรหาพื้นที่โล่งแจ้ง แดดส่องถึงตลอดทั้งวันให้แก่เขา และก่อนปลูกก็ควรรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ มูลสัตว์ก่อนสักหน่อย และถึงแม้ว่าเจ้าองุ่นทะเลจะเป็นต้นไม้ทนแล้ง ทนเค็มก็ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 1 ครั้ง อย่าลืมตัดปลายยอดให้เขาแตกพุ่มกว้าง ๆ ด้วยล่ะ จะได้ต้นไม้สวย ๆ มาประดับบ้าน แถมขายราคาแพงเข้าไปอีก
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “องุ่นทะเล” ต้นไม้ริมชายหาดที่เรามีโอกาสได้เห็นเสมอตอนไปเที่ยวทะเล ถ้าใครชอบเจ้าต้นนี้แล้วเกิดอยากมีไว้ในครอบครองบริเวณบ้านก็สามารถทำได้เลย เนื่องจากเป็นไม้ประดับพื้นฐานไม่ได้มีข้อหวงห้ามทางกฎหมาย ปลุกเอาไว้ส่วนใดของบ้านก็ได้ เขาไม่ทำลายโครงสร้าง สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าเกร็ดความรู้ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net