บานชื่น ไม้ดอกหลากสี สร้างความสดใส

ดอกไม้ช่วยสร้างความสดใส ชมดอกไม้สีสดสวยทำให้เรารู้สึกเบิกบานใจได้ บานชื่น เป็นหนึ่งในไม้ดอกที่มีหลายสี ทั้งสีชมพูอ่อน ชมพูเข้ม สีแดง สีขาว สีเหลือง สีแสด สีม่วง สีเขียว ฯลฯ นิยมปลูกในไทย โดยเฉพาะปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับตามริมรั้วหรือใส่กระถางแขวน มีความสวยงามมาก หากปลูกเป็นกอใหญ่ ๆ มีดอกหลายสีอยู่รวมกันจะดูสวยงามมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็นดอกไม้มงคลที่เชื่อกันว่า บ้านไหนปลูกบานชื่น บ้านนั้นคนในครอบครัวจะเบิกบานอยู่ร่มเย็นเป็นสุข วันนี้ PlantLover จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับดอกไม้ชนิดนี้กัน ไปติดตามกันได้เลย

บานชื่น

เป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกมากชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะในแถบประเทศอเมริกา เนื่องจากดอกมีสีสันสวยงามและมีหลายสี ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลมาก เติบโตและให้ดอกที่รวดเร็ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zinnia elegan ดอกไม้ชนิดนี้เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก พบได้บริเวณเชิงเขาในประเทศเม็กซิโกและอเมริกากลาง มีดอกขนาดเล็ก กลีบดอกชั้นเดียว สีม่วงซีด เป็นดอกไม้ที่ชาวเม็กซิกันนิยมนำมาติดหมวก และยังเป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกมากถึง 1 ใน 3 อันดับแรกในอเมริกา ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีดอกทุกสี ยกเว้นสีฟ้า ขนาดดอกมีตั้งแต่เท่ากระดุมเสื้อไปจนถึงมีขนาดเท่าจานรองถ้วยน้ำชา มีรูปร่างดอกแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

1. ลำต้น

จัดเป็นไม้ดอกฤดูเดียว ลำต้นมีขนแข็งสั้นปกคลุม มีสีเขียว ลำต้นเดียว ไม่แตกกิ่ง และกลวง เปราะ หักง่าย

2. ใบ

ใบเป็นแบบโอเวท ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบติดกับลำต้น แยกออกจากฐานของใบ มี 5 แฉก

3. ดอกมี 2 แบบ คือ

3.1 ดอกซ้อน ประกอบด้วยกลีบดอกหลายกลีบ เรียงซ้อนกันแน่นตามความสูง แต่ละกลีบมีขนาดไม่เท่ากัน

3.2 ดอกลา ประกอบด้วยกลีบดอกเรียงซ้อนกันเพียง 1-3 ชั้น แต่ละกลีบมีขนาดเท่ากัน และทิ้งตั้งฉากกับเกสรดอกขนานกับพื้น

4. เมล็ด

เมล็ดมีสีดำขนาดเล็ก เรียวยาว ประมาณ 2 ซม. ประกอบด้วยก้านเมล็ดสีน้ำตาล ยาวประมาณ 1 ซม. และตัวเมล็ด ยาวประมาณ 1 ซม. ดอกใหญ่มีน้ำหนักเมล็ดหนึ่งกรัม จะมีเมล็ดประมาณ 80-120 เมล็ด 

วิธีการปลูกแบบประหยัด

1. แกะเมล็ดมาตากแดดสักหนึ่งแดดให้แห้งสนิทจะได้ไม่มีเชื้อรา

2. นำขวดพลาสติกมาตัดครึ่ง ฝั่งที่เป็นก้นขวดก็เจาะรูให้น้ำระบายออกได้

3. นำดินใส่ลงไปในขวดพลาสติกที่เจาะรูไว้เรียบร้อยแล้ว

4. นำเมล็ดบานชื่นโรยลงไปประมาณ 7 – 8 เมล็ด (เผื่อบางเมล็ดไม่งอก)

5. นำดินกลบแบบไม่ต้องหนามาก

6. รดน้ำให้ชุ่ม

7. ประมาณ 2-4 วัน ต้นเล็ก ๆ ก็จะงอกออกมา รอให้ต้นเติบโตแข็งแรงพอประมาณ เราจึงย้ายไปปลูกในกระถางใหญ่หรือลงแปลงที่เตรียมไว้

8. เมื่อต้นโตควรเด็ดยอดให้ต้นแตกพุ่ม จะช่วยให้ต้นไม่หักล้มง่าย

ประโยชน์

1. นำดอกมาตากแห้งและบดเป็นผงสำหรับชงเป็นชาดื่ม

2. นำดอกมาสกัดเป็นสีย้อมผ้า

3. นำดอกมาบดเป็นผงสำหรับทำเป็นสีผสมอาหาร

4. นำดอกมาบดละลายน้ำใช้เป็นสีระบายภาพ