ดอกหน้าวัวกับความเชื่อของคนไทยจริงหรือไม่?

by plantlover
ดอกหน้าวัว

ดอกหน้าวัว เป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร มักเชื่อว่าเป็นดอกไม้อัปมงคล แต่แท้จริงแล้วรู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบันนั้นกำลังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ที่สามารถส่งออกตีตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้ถึงปีละกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท และยังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศอีกด้วย ส่วนในโลกตะวันตกผู้คนนิยมมอบดอกไม้ชนิดนี้ในโอกาสแสดงความยินดีต่างๆ เช่น การขึ้นบ้านใหม่ วันสำเร็จการศึกษา ไปจนถึงงานเฉลิมฉลองทั่วไป ตรงข้ามกับประเทศไทยที่กลายเป็นดอกไม้อวมงคลเพราะนิยมใช้ตกแต่งพวงหรีดในงานศพ และมีความเชื่อว่าเป็นไม้อัปมงคล วันนี้ Plantlover จะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยของดอกไม้ชนิดนี้กับความเชื่อของคนไทย ซึ่งจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับดอกหน้าวัว

ดอกไม้ชนิดนี้เป็นสกุลพืชในวงศ์บอน เป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดจากรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันกระจายพันธุ์ในเกือบทุกทวีป แต่จะเติบโตได้ดีในภูมิอากาศแบบร้อนหรือร้อนชื้นที่อุณหภูมิ 15 – 30 องศาเซลเซียส มีการนำเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกก็เมื่อปี พ.ศ. 2440 ถูกจัดอยู่ในประเภทไม้พุ่มเตี้ย ใช้ปลูกเพื่อปกคลุมดิน มีอายุยืน อยู่ได้หลายสิบปี ลักษณะลำต้นตรง อวบน้ำ ออกเป็นกอยืดยาวคล้ายกับไม้เลื้อย เมื่อยอดงอกขึ้นสูงอาจพบรากบริเวณลำต้น มันจะแตกออกหากมีความชื้นเพียงพอ

ดอกหน้าวัว

การปลูกดอกหน้าวัวในบ้านไม่ดีจริงหรือ ?

การปลูกดอกหน้าวัวภายในบ้านถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอย่างที่ใครหลายคนคิด จึงจะเห็นได้ว่า แท้จริงแล้วเป็นเพียงความเชื่อที่บอกต่อกันมาเท่านั้น ไม่ได้มีหลักฐานใด ๆ มาพิสูจน์ได้ว่า ดอกหน้าวัวมีความหมายไม่ดี อัปมงคล หรือจะนำพาความโชคร้ายมาให้ แต่ตรงกันข้ามเพราะดอกไม้ชนิดนี้สามารถฟอกสารประเภทเบนซิน ฟอร์มัลดีไฮด์ หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่มาจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามเช่น น้ำยาทาเล็บ หรือน้ำยาล้างต่าง ๆ และยังมีส่วนช่วยในการฟอกอากาศภายในบ้าน ให้คุณได้รับอากาศที่สะอาดเข้าสู่ปอด

ดอกหน้าวัว

วิธีการปลูก

1. ควรเลือกภาชนะปลูกให้เหมาะกับขนาดของต้นไม้ ต้นไม้เล็กก็ควรปลูกในกระถางขนาดเล็ก ต้นใหญ่ก็ควรปลูกในกระถางขนาดใหญ่

2. ดินมีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 ซึ่งมีความเป็นกรดด่างอยู่ในระดับกลาง ไม่เค็มหรือเป็นกรดมากจนเกินไป

3. นำเศษอิฐที่หักมาวางเป็นมุมสี่เหลี่ยม เว้นตรงกลาง เพื่อเปิดรูระบายน้ำ จากนั้นให้นำต้นไม้มาวางตรงกลางกระถาง

4. อาจมีการเติมสารภูไมท์ซัลเฟตผสมลงกับดิน 2-3 ช้อนชาเพื่อช่วยให้ต้นไม้แข็งแรง

5. การรดน้ำ ให้ดูอัตราการไหลของน้ำว่า ไหลช้าหรือเร็วจนเกินไปหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าต้นไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดี

ดอกไม้ทุกชนิด มักจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน เพียงได้ยินชื่อก็อาจจะรู้สึกไม่ประทับใจ แม้ความเชื่อที่ผ่านมาแฝงไว้แต่สิ่งไม่ดี แต่เมื่อได้ลองมาศึกษาอย่างแท้จริง กลับพบว่า เป็นไม้ดอกที่ทรงคุณค่า ให้ความหมายดี มีประโยชน์ และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถปลูกเพื่อสร้างเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่ง

You may also like

Leave a Comment