เพื่อน ๆ เคยได้ยินชื่อ “แคแสด” ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างไหมคะ ที่เขาใช้ชื่อนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากดอกสีแสดสวยงาม ซึ่งหลายคนนิยมปลูกเอาไว้ประดับบ้านเนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดกลาง เหมาะสำหรับสวนหน้าบ้าน ต้นไม่สูงใหญ่จนเกินไป เพิ่มสีสันให้แก่ครัวเรือนยามดอกผลิบาน และถ้าหากคุณกำลังสนใจเจ้าต้นไม้นี้อยู่ อยากครอบครองเป็นเจ้าของ จะปลูก ดูแลรักษาอย่างไรดี ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรต้องรู้เอาไว้!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จัก “แคแสด” ดอกสีเหลือง-แสด ต้นไม้ขนาดกลาง ให้ร่มเงา ปลูกและดูแลง่าย!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Spathodea campanulata
ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae (วงศ์แคหางค่าง)
ชื่อสามัญ : African tulip tree, Fountain tree, Fire bel หรือ Flame of the forest
ชื่อท้องถิ่น : แคแดง ยางแดง (กรุงเทพฯ-เชียงใหม่)
แคแสด หรือ แคแดง คือไม้ยืนต้นขนาดกลางที่อาจมีความสูง 15-20 เมตร มีช่วงเวลาของการผลัดใบ และมีถิ่นฐานบ้านเกิดมาจากทางแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งสภาพอากาศค่อนข้างร้อน แล้วค่อยกระจายตัวไปยังอาณาบริเวณที่อากาศใกล้เคียงกัน ในประเทศไทยมักปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เหมาะสำหรับบ้านจัดสรร เนื่องจากต้นไม้ไม่ทำลายโครงสร้างบ้าน ปลูกในสวน ไร่นา แทบทุกภูมิประเทศ โดยเฉพาะริมสองข้างทาง สถานที่สาธารณะ
แคแสด ความหมายแสนลึกซึ้ง
หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเขาคือดอกไม้ประจำสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นอกจากนี้สีแสดของดอกไม้ก็ยังสื่อถึงความกล้าหาญชาญชัย มีเหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ ช่างเหมาะกับสถาบันฯ มากเลยใช่ไหมล่ะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : แคแสดเป็นไม้เรือนยอดกลมทึบ แตกกิ่งก้านต่ำทั้งแต่โคนต้น กิ่งคดโค้งไร้ระเบียบ ผิวเปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม แตกรอยเป็นร่องตามแนวยาว
ใบ : มาในรูปแบบใบประกอบขนนก มีใบย่อยตั้งแต่ 4-7 คู่ ปลายใบเดี่ยว ใบย่อยรูปรี โคนและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบขนานกัน เส้นใบชัด ผิวใบสาก สีเขียวสว่าง
ดอก : ดอกแคแสดจะเริ่มปรากฏในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ แต่ต้นที่ออกดอกจะต้องมีอายุ 4-6 ปีขึ้นไปแล้ว โดยจะออกดอกเป็นช่อตั้งที่บริเวณปลายกิ่ง ในแต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมากแต่จะค่อย ๆ ทยอยบานครั้งละ 2-6 ดอกโดยประมาณก่อนร่วงโรย กลีบดอกย่อยคล้ายกับทิวลิปจึงเป็นที่มาของชื่อ African tulip tree เป็นดอกไม้สีส้มเหลืองสวยงามแต่ค่อนข้างบอบบาง ร่วงง่ายเอามาก ๆ
ผล : มาในรูปแบบฝักยาว กลางฝักอวบอ้วน ปลายผลแหลม ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ส่วนผลแก่แล้วมีสีน้ำตาลและแตกออกด้านเดียวตามแนวยาว เผยให้เห็นเนื้อด้านใน พบเมล็ดมีปีกบางจำนวนมาก โดยเขาจะออกผลตลอดทั้งปีและดกมากที่สุดในช่วงฤดูฝน
ประโยชน์ของต้นไม้
เจ้าแคแสดมักถูกปลูกเอาไว้เพื่อเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสวนหรือตามบ้าน เนื่องจากรากของเขาไม่ชอนไชไปทำลายโครงสร้าง ถูกใจคนรักพื้นที่สีเขียวและชอบสีเหลืองส้ม นอกจากนี้ดอกของเขาก็ยังสามารถเก็บมารับประทานได้เฉกเช่นเดียวกันแคบ้านสีขาว มีฤทธิ์เป็นยาชา ส่วนใบ ดอก เปลือกมาตำเพื่อพอกรักษาแผลเรื้อรังเห็นผลจริง
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์ต้นไม้ขนาดกลางส่วนใหญ่ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการตอนกิ่ง ปักชำ หรือเพาะเมล็ด สำหรับแคแสดก็เช่นกัน ทว่าวิธีการเพิ่มจำนวนประชากรต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “เพาะเมล็ด” ซึ่งเรามีขั้นตอนที่น่าสนใจมาฝากมือใหม่หัดปลูกดังนี้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– พีทมอส
– ถาดเพาะ
– เมล็ดแคแสดจากฝักแก่เต็มที่
– ดินปลูก 1 ส่วน
– ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
– กาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน
– ถุงเพาะชำ
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด
1.แช่พีทมอสทิ้งไว้เป็นเวลา 1 คืนแล้วนำไปยีจนสภาพฟูกำลังดีก่อนบรรจุลงถาดเพาะชำ
2.จากนั้นให้เราทำการนำเมล็ดไปแช่น้ำเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงเพื่อเพิ่มอัตราการงอก
3.นำเมล็ดฝังลงไปบนพีทมอส โดยใช้นิ้วมือกดดินนำร่องเบา ๆ ระดับความลึกประมาณ 1/2 เซนติเมตร แล้วกลบฝังหลวม ๆ
4.รดน้ำตามวันละ 1 ครั้งแล้ววางถาดเอาไว้ในพื้นที่ร่มรำไร
5.เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นมาหน่อยก็ย้ายไปเลี้ยงต่อในวัสดุปลูกที่มีส่วนผสมของ ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าวสับ และดินปลูกอย่างละ 1 ส่วน ในถุงเพาะชำก่อนย้ายลงในสวนจริง
การปลูก/การดูแล
แสง : เจ้าต้นนี้ชอบแดดจัดตลอดทั้งวัน เหมาะเป็นต้นไม้สำหรับปลูกกลางแจ้ง ต้องหาพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควรจึงจะเหมาะสม
ดิน : เน้นดินร่วนปนทราย มีอินทรียวัตถุ โปร่ง ระบายน้ำดี เขาสามารถทนเค็มได้ดีจึงสามารถปลูกริมทะเลได้ ไม่เกิดปัญหา
น้ำ : ชื่นชอบความชื้นปานกลาง น้ำไม่ขังแฉะ รดน้ำให้เขาเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “แคแสด” ต้นไม้น่าปลูกที่เหมาะสำหรับคนมีพื้นที่บ้านไม่มากนักแต่ต้องการร่มเงาจากธรรมชาติ เป็นอย่างไรบ้างคะ เพื่อน ๆ ว่าเจ้าต้นนี้เหมาะกับบ้านตัวเองไหมเอ่ย ทั้งปลูกและดูแลง่ายแบบนี้ เจ้าของห่างบ้านหลายวันน้องเขาก็อยู่ได้ แถมช่วงออกดอกเพิ่มสีสันชวนใจหวั่นไหว กิ่งไม้คดโค้งสวยงามเสน่ห์ล้นเข้าไปอีก สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าเกร็ดความรู้ที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนเลยนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
