เพกา หรือ ลิ้นฟ้า ที่เรามักเห็นกันอยู่ทั่วไปนั้น ความจริงแล้วมีประโยชน์มากมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นต้นไม้พื้นบ้านแต่สรรพคุณครอบจักรวาล ทั้งนี้ก็มาพร้อมความเชื่อของคนโบราณ และสิ่งน่าสนใจอีกมากมาย ปลูกกินก็ดี หรือจะปลูกขายสร้างมูลค่าก็ได้ หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังสนใจเขาอยู่ ไม่ว่าด้านใดก็ตาม ต่อไปนี้คือสิ่งที่ต้องรู้เอาไว้!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “เพกา” สมุนไพรพื้นบ้าน รสขม แต่ทานอร่อยมาก!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Oroxylum indicum (L.) Kurz
ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae (วงศ์แคหางค่าง)
ชื่อสามัญ : Broken bones tree, Indian trumpet flower และ Damocles tree
ชื่ออื่น ๆ : หมากลิ้นฟ้า (อีสาน), ดุแก ดอก๊ะ ด๊อกก๊ะ (แม่ฮ่องสอน), กาโด้โด้ง (กาญจนบุรี), มะลิ้นไม้ มะลิดไม้ ลิดไม้ (ภาคเหนือ) เป็นต้น
เพกา เป็นต้นไม้พื้นเมืองของชาวเอเชียมาตั้งแต่ดั้งเดิม โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา มาเลเซียและไทย ส่วนใหญ่มักพบต้นเพกาในป่าเบญจพรรณ ซึ่งหลายบ้านก็ได้นำมาปลูกเป็นผักสวนครัวสำหรับจิ้มน้ำพริก หรือรังสรรค์เมนูต่าง ๆ พร้อมเก็บแจกเพื่อนบ้านในยามออกผลเยอะจนกระทั่งกินไม่หมด
ความเชื่อ
เห็นเป็นต้นไม้ริมรั้วแบบนี้ แต่เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าสมัยก่อนก็มีความเชื่อที่น่าสนใจเกี่ยวกับเพกาเช่นกัน โดยโบราณได้ว่าเอาไว้ว่า ไม่ควรปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้านเนื่องจากฝักมีลักษณะแหลม รูปร่างคล้ายหอกหรือดาบ อาจนำพามาซึ่งความเดือดร้อนแก่คนในบ้าน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : เพกาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง อาจมีลำต้นสูงตั้งแต่ 5 – 15 เมตร ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อีกที ลักษณะลำต้นพุ่งสูง เรียว ยาว ผิวเปลือกสีขาวครีม ขรุขระ แตกสะเก็ด แตกกิ่งที่ปลายยอดเป็นทรงพุ่ม เนื้อไม้ด้านในสีขาวขุ่น
ใบ : เพกามีใบในลักษณะใบประกอบออกเรียงตรงข้ามกัน หากปลูกในที่แห้งแล้งเขาจะผลัดใบ แต่ถ้าหากปลูกในพื้นที่ชุ่มชื้นต้นไม้ก็จะไม่ผลัดใบทิ้ง ใบสีเขียว แต่ละก้านจะมีใบย่อยประมาณ 3 – 5 คู่ ลักษณะใบเป็นรูปหัวใจกว้าง 4-8 เซนติเมตรและยาว 8-12 เซนติเมตรโดยประมาณ โคนใบมน เว้าเข้าตรงกลาง ส่วนปลายใบแหลม
ดอก : ดอกลิ้นฟ้าจะออกแบบเป็นช่อที่ปลายยอด ออกเรียงซ้อนกันราว ๆ 20 – 30 ดอก ลักษณะดอกย่อยเป็นหลอดเชื่อมกลีบดอกสีขาวเป็นรูปแตร ปลายกลีบย่น โค้งพับลงด้านล่าง เมื่อดอกแก่ขึ้นจะเริ่มเป็นสีม่วง กลางดอกมีเกสรตัวผู้ประมาณ 5 อัน และเกสรตัวเมีย 1 อัน
ผล : ฝักเพกาหรือฝักลิ้นฟ้าถือเป็นไฮไลท์เด็ดของต้นนี้เลยล่ะ ลักษณะของเขาคล้ายคลึงกับลิ้นยักษ์ ฝักแบน ยาว ปลายฝักแหลม โคนสอบ หากฝักอ่อนจะมีสีเขียวสด เมื่อฝักแก่แล้วจะเริ่มมีสีดำ ผลสดรสชาติขมหน่อย ๆ เผ็ดปลายลิ้น แต่กรอบอร่อย จิ้มน้ำพริกช่วยเพิ่มความมัน เหม็นเขียวเล็กน้อย บางคนนิยมนำไปย่างไฟจะหอมมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์
อย่างที่บอกว่าเพกานั้นเป็นสมุนไพร และมีงานวิจัยจากทั้งในไทยและต่างประเทศรองรับ ตั้งแต่รากไปจนถึงยอดมีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น ช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากมีวิตามินซี วิตามินเออยู่มาก เสริมสมรรถภาพทางเพศ ลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการไอ เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร บอกเลยว่าสรรพคุณมากมายเกินคาดคิด
การขยายพันธุ์
เพกา สามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธีไม่ต่างจากไม้ยืนต้นขนาดกลางอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง หรือที่นิยมมากที่สุดก็คือวิธีการชำราก ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.แกลบดำ 2 ส่วน
2.ดินร่วน 1 ส่วน
3.ถุงเพาะชำ
4.เสียมสำหรับสับรากไม้
5.กรรไกรตัดกิ่ง
6.ถุงพลาสติกใส สำหรับคลุมถุงเพาะชำ
ขั้นตอนวิธีการชำราก
1.นำเสียมไปสับเอารากเพกา อายุต้น 1 ปีขึ้นไป ข้อสำคัญก็คือต้องติดลูกแล้ว เพื่อให้เรามั่นใจว่าต้นลูกจะออกผลเหมือนกับต้นแม่
2.นำกรรไกรตัดกิ่ง ไปตัดรากของเขาให้มีความยาวประมาณ 2.5 นิ้ว หากรากใหญ่เกินไปก็อาจจะใช้อุปกรณ์อื่นแทนกรรไกร
3.จากนั้นให้นำดินร่วน 1 ส่วนไปผสมให้เข้ากันกับแกลบดำ 2 ส่วน
4.เสร็จสรรพก็นำดินบรรจุลงในถุงเพาะชำ อย่าลืมเลือกขนาดให้เหมาะสมกับรากของเขาด้วยล่ะ
5.ต่อมาให้นำรากที่เราตัดแล้วเสียบลงไปในถุง
6.รดน้ำให้ชุ่มชื้น
7.ใช้ถุงพลาสติกคลุมเอาไว้ให้แน่น จากนั้นวางถุงเพาะชำเอาไว้ในที่ร่ม
8.เมื่อต้นเริ่มแตกใบออกเล็กน้อยก็นำถุงออกแล้ววางเขาเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแดดรำไรเพื่อปรับสภาพก่อนปลูกลงดิน
การปลูก / ดูแล
เพกาเป็นต้นไม้ทนแล้ง แม้ไม่ได้รดน้ำเป็นสัปดาห์เขาก็ยังดำรงชีพอยู่ได้ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ปลูกไว้ในพื้นที่ปกติ ไม่เป็นโคกหรือลุ่มจนเกินไป จะเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย แนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อนปลูกสักหน่อย ต้องปลูกในที่โล่งแจ้ง โดนแสงแดดตลอดทั้งวัน และรดน้ำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งก็เพียงพอ
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับต้นเพกา ไม้ที่ปลูกเอาไว้แล้วมีประโยชน์มากมาย เป็นสมุนไพร ช่วยบำรุงและรักษาร่างกาย หากเพื่อน ๆ ชอบทานผลสดก็สามารถปลูกเอาไว้ใกล้รั่วเพื่อเด็ดจิ้มน้ำพริก บอกเลยว่าฟินมาก ยิ่งเราปลูกเองจะอร่อยกว่าเดิมร้อยเท่า สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่เราได้นำเสนอไป จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net