หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “น้ำผึ้งมานูก้า” ในตำนาน แน่นอนว่าต้องมีความเกี่ยวข้องกับ “ต้นมานูก้า” ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับต้นไม้ดังกล่าวซึ่งกำลังเป็นที่นิยม สามารถปลูกได้ในประเทศไทย หากคุณคือคนหนึ่งที่อยากปลูก ก็อย่าได้รอช้า นี่คือสิ่งที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นมานูก้า” มานูก้า สายพันธุ์น่าปลูก มีอะไรบ้าง?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Leptospermum scoparium Forst. & Forst.f.
ชื่อภาษาอังกฤษ : Manuka
ชื่อภาษาไทย : มานูก้า
ชื่อวงศ์ : Myrtaceae
“มานูก้า” เป็นไม้ดอกสวย ทรงพุ่ม อายุยืน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ความพิเศษก็คือ มีเกษตรกรที่ปลูกเอาไว้เพื่อผสมเกสร ผลิตน้ำผึ้งต้นไม้ชนิดนี้ ซึ่งว่ากันว่าเป็นสุดยอดน้ำผึ้ง มีกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อน ๆ ให้คุณค่าสูง นิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเสริมและความงาม
ต้นมานูก้าเหมาะจะปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ ทั้งเลี้ยงพุ่มสวยในกระถางขนาดเล็ก และปลูกลงดินเพื่อให้เขาขยายพุ่มใหญ่ ดอกของเขาน่ารัก ปลูกเอาไว้ชื่นชมก็มีแต่ความสบายใจ
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์
ลำต้น : อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าเขาเป็นพืชทรงพุ่ม ในที่นี้จะเป็นพุ่มขนาดเล็กและเจริญเติบโตช้า ลำต้นสีน้ำตาลอ่อน แตกกิ่งเป็นชั้นเช่นเดียวกับต้นสน ในหนึ่งกอประกอบไปด้วยหลายลำต้นใหญ่ เกิดพุ่มที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ใบ : ใบของเขามีทรงเรียวยาวปลายแหลม ขนาดเล็กใกล้เคียงกับเมล็ดข้าวเปลือก มีสีเขียว บางสายพันธุ์ก็อาจอมม่วง เนื้อใบหนา มีขนบาง ๆ เต็มไปหมด ออกใบแตกวนเป็นชั้นรอบกิ่ง
ดอก : ดอกมานูก้า เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของเจ้าต้นไม้นี้เลยล่ะ ทุกคนที่ปลูกต่างก็รอคอยดอกด้วยกันทั้งนั้น มันจะมีทั้งแบบดอกกลีบชั้นเดียวและกลีบซ้อนขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ออกดอกตามซอกใบตั้งแต่บริเวณโคนกิ่งไปยังปลายยอด แต่ส่วนใหญ่เนื้อกลีบค่อนข้างบาง ช้ำง่าย กลางดอกสีเข้ม มีเกสรเรียงติดกันเป็นวงกลม
ผล : ลักษณะผลของเขามีผิวเกลี้ยง ทรงกลม ขนาดเล็ก เมื่อแก่จะแตกอ้าออก
แนะนำสายพันธุ์มานูก้าที่น่าสนใจ
– มานูก้าดอกขาว เป็นสายพันธุ์แรก ๆ ที่นิยมนำมาปลูกในประเทศไทย ดอกมีสีขาวอมชมพูระเรื่อบ้างเล็กน้อย มีกลีบชั้นเดียว บริเวณกลางดอกเป็นสีแดงอมม่วง
– Princes PriManuka ต้นนี้จะมีดอกสีชมพูอมแดง ใบใหญ่ อ้วนป้อมกว่าสายพันธุ์อื่นและเป็นต้นมานูก้าที่หาได้ยาก
– Burgundy Manuka กลีบดอกโทนสีแดงผสมชมพู ซ้อนกันหลายชั้น ออกดอกเป็นกระจุก
– Red Damask Manuka สำหรับพันธุ์นี้ เป็นดอกไม้สีแดงสด กลีบด้านในแดงเข้มกว่าด้านนอก มีทั้งดอกแบบเดี่ยวและแบบซ้อน ใบเล็กและยาวกว่ามานูก้าทั่วไป
ประโยชน์
นอกจากการปลูกต้นมานูก้าประดับเพื่อความสวยงาม ใบของเขานั้นมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ กลิ่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับ Tea Tree ทว่าเบาและสดชื่นกว่าเล็กน้อย ทั้งใบสดและแห้งสามารถนำมาชงชาดื่มเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ได้
ในส่วนของดอก อย่างที่เราทราบกันดีกว่าใช้สำหรับผลิตน้ำผึ้งมานูก้า ราชินีแห่งน้ำผึ้งในตำนานอันมีคุณสมบัติหลายประการ ทั้งลดความรุนแรงจากภาวะนอนไม่หลับ นำมาชงดื่มกับใบชา บรรเทาอาการเจ็บคอ บำรุงผิวพรรณและสุขภาพร่างกาย ช่วยสมานแผล ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
การขยายพันธุ์ / ปลูก
มานูก้า ขยายพันธุ์ได้ 2 ด้วยกันก็คือ การปักชำและเพาะเมล็ด ซึ่งหากเป็นในเมืองไทยจะนิยมใช้วิธีการปักชำเสียมากกว่า เนื่องจากช่วยให้รากติดไว โตเร็ว เพราะหากเริ่มจากการเพาะเมล็ด เขาจะเติบโตค่อนข้างช้า
สำหรับการปักชำเราจะต้องหาต้นที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด จากนั้นก็ตัดส่วนปลายยอดของเขามา ประมาณ 10 เซนติเมตร แต่อย่าลืมเตรียมดินให้พร้อมซึ่งเราจะใช้ทั้งดินกล้ามปูและดินร่วน ผสมเข้าด้วยกัน แล้วเทลงกระถางในปริมาณ 3/4 ก่อนใช้ไม้แหวกเจาะรูดินบริเวณตรงกลางจนถึงก้นกระถาง
จากนั้นนำดินทรายผสมน้ำเทลงในรู รอจนดินเซ็ตตัว ก็หาไม้มาเจาะรูดินทรายให้ลึกราว ๆ 3 เซนติเมตรก่อนนำยอดของมานูก้ามาปักลง รดน้ำให้ชุ่มและครอบด้วยถุงพลาสติก เมื่อติดรากแล้วจึงนำไปปลูกต่อในดินร่วนซุย ระบายน้ำดี
การดูแล
ต้นมานูก้าชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน ดังนั้นจึงควรปลูกเขาเอาไว้กลางแจ้ง เห็นเป็นต้นไม้ต่างประเทศที่นำมาปลูกในไทยได้แบบนี้ เขาไม่ชื่นชอบน้ำสักเท่าไร ให้รดน้ำวันเว้นวันก็เพียงพอ หรือประมาณ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยเดือนละ 1–2 ครั้ง แต่ไม่แนะนำให้ใส่ปุ๋ยในฤดูหนาว
เพื่อน ๆ ก็น่าจะได้ทราบกันไปแล้วว่ามานูก้านั้นเป็นอย่างไร มีวิธีการปลูก ดูแลอย่างไร และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ประโยชน์ของเขา ซึ่งนำมาต่อยอดเป็นไอเดียในการทำธุรกิจได้หากเพื่อน ๆ สนใจ แต่ทางเราไม่แน่ชัดว่า การทำน้ำผึ้งมานูก้าในประเทศไทยนั้นจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ เพราะน่าจะทำได้ยาก ส่วนใหญ่มีแค่ทางนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย
แต่ถ้าใครเห็นว่าต้นมานูก้านั้นสวยงาม อยากนำมาปลูกเอาไว้ประดับ รอชื่นชมดอกก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะต้องรอดอกนานหน่อย และในหนึ่งปีเขาจะออกดอกอยู่ไม่กี่วัน นั่นเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไม manuka honey จึงได้แพงหนักหนา สุดท้ายนี้เราหวังว่าข้อมูลที่เราได้นำมาแชร์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net