วันนี้ PlantLover จะพาทุกคนมาปลูกดอกไม้สร้างสีสันให้สวนหน้าบ้านไปด้วยกัน ดอกไม้ชนิดนี้ที่เมืองไทยอาจจัดว่าเป็นดอกไม้เมืองหนาว ปลูกได้เฉพาะที่อุณหภูมิเย็น ๆ หน่อยทางภาคเหนือ ดอกไม้ที่ว่าคือ “ดอกหน้าแมว” ค่ะ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Pansy” ส่วนภาษานอร์เวย์ใช้คำว่า “Stemor” ในขณะที่นอร์เวย์มองว่าดอกไม้ชนิดนี้คือสัญลักษณ์ของอากาศที่อบอุ่น มีแดดจ้า ๆ แสงระหว่างวันยาวนานเกินกว่า 12 ชั่วโมง บ่งบอกว่าความหนาวเย็นค่อย ๆ จางหายไป
ลักษณะทั่วไป
1. ไม้ล้มลุกอายุสั้น มีหัวหรือเหง้าใต้ดิน
2. ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ เป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน หรือรูปหัวใจปลายแหลม โคนสอบหรือตัด ก้านใบยาว ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย สีเขียวเข้ม
3. ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 1-2 ดอก กลีบดอกกลมกว้าง มี 5 กลีบ แต้มกลางกลีบเป็นสีเข้ม ขนาดไม่เท่ากันตามแต่สายพันธุ์ สีของกลีบดอกมีด้วยกันหลายสี เช่น สีขาว สีส้ม สีชมพู สีม่วงเข้ม และสีเหลือง เป็นต้น ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
ฤดูใบไม้ผลิกับดอกหน้าแมว
สีสันที่สดใสจัดจ้านช่วยเพิ่มความสดชื่นที่รอการผลัดเปลี่ยนของฤดูกาล ดอกหน้าแมวนี้เป็นที่นิยมปลูกกันมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มอบอุ่นแล้ว และตลอดฤดูร้อนในนอร์เวย์ เพราะมีคุณสมบัติทนหนาวได้ถึง -2 ถึง -3 องศา ชอบแดดรำไร ชอบดินชุ่ม ๆ ออกดอกสวยงามยาวนาน 2-3 เดือน ปลูกใส่กระถางตั้งไว้หน้าบ้าน ทางเข้าบ้าน ในสวน เห็นแล้วสบายตาสบายใจ เห็นแต่อะไรขาว ๆ เทา ๆ มา 5-6 เดือน ได้เจอสีสันบ้างนี่สวรรค์เลยค่ะ
วิธีการปลูก
1. จะปลูกเป็นไม้กระถางก็ได้ โดยปลูกกระถางละ 3 -5 ต้น
2. ดินที่ใช้ปลูกต้องเก็บกักความชื้นได้เป็นอย่างดี ยิ่งปลูกเป็นไม้กระถางแล้วยิ่งต้องปรุงดินเป็นพิเศษ และควรมีการคลุมดินด้วยเพื่อเก็บความชื้น
3. ควรปลูกในที่ร่มแสงแดดรำไร ไม่ควรปลูกเอาไว้กลางแจ้งที่แสงแดดจัด และควรปลูกในฤดูหนาวจะเป็นการดีที่สุด
4. ควรจะมีการเด็ดยอดเพื่อที่จะให้ได้พุ่มต้นเตี้ย และแตกกิ่งก้านตลอดจนพุ่มได้ดีกว่า เด็ดเมื่อต้นมีความสูงประมาณ 3 นิ้ว
5. ระยะเวลาจากเพาะเมล็ดจนให้ดอก ประมาณ 12-14 สัปดาห์
ดอกแพนซี่หรือดอกหน้าแมว
ดอกไม้ชนิดนี้จัดเป็นไม้ดอกโบราณของอังกฤษ เริ่มปลูกกันตั้งแต่ยุค 1830s มีทั้งเล็กและใหญ่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และทำหรือตกแต่งอาหารได้หลากหลายเพราะตัวดอกรับประทานได้ อุดมไปด้วยวิตามินเอและซี ในอดีตดอกแพนซี่มีความสำคัญในวันวาเลนไทน์เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความรัก นอกจากนี้ในสมัยโบราณยังมีการใช้ดอกแพนซี่เป็นส่วนผสมของยาเสน่ห์ เพราะเชื่อกันว่าแพนซี่มีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นความรักความเสน่หาอีกด้วย