หากกล่าวถึงดอกไม้สวยงาม ความหมายดี มีตำนาน “ดอกดารารัตน์” ก็เข้าข่ายเป็นพรรณไม้ตามลักษณะดังกล่าวด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอกอันน่าสนใจ เจ้าดอกไม้นี้ยังมีสตอรี่มากมาย น่าค้นหาให้เราได้จดจำ ทั้งตำนาน ความหมาย ซึ่ง Plantlover จะพาทุกท่านมารู้จักกับเขาให้มากยิ่งขึ้น และต่อไปนี้คือความลับที่ซ่อนอยู่ในดอกไม้ชนิดนี้ !!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
“ดอกดารารัตน์” หรือ “ดอกแดฟโฟดิล” น่าสนใจอย่างไร?
ชื่อภาษาอังกฤษ : Daffodil, Jonquil
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Narcissus Poeticus
วงศ์ : Narcissus
ชื่อภาษาไทย : ดารารัตน์
“แดฟโฟดิล” เป็นหนึ่งในไม้หัวแห่งเมืองหนาว และยังถูกจัดให้เป็นไม้ยืนต้น ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปตอนใต้และทวีปแอฟริกาตอนเหนือ พบมากที่สุดในประเทศสเปนและประเทศโปรตุเกสเนื่องจากสองเมืองนี้นิยมชมชอบเจ้า Daffodil เป็นอย่างมาก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกของมันจะเบ่งบาน เสน่ห์ล้น ส่งกลิ่นหอมอบอวลชวนค้นหา
ตำนานของ Daffodil
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า “นาร์ซิสซัส” คือนามของวีรบุรุษผู้เลอโฉมเกินใครในดินแดน Thespiae ทว่าเขากลับมีนิสัยเย่อหยิ่ง ทระนง หลงตัวเอง หญิงสาวต่างเข้าหา มาหลงใหล แต่กลับต้องตรอมใจและถูกสาบให้กลายเป็นหิน เมื่อเรื่องดังกล่าวไปถึงหูแอฟโฟได เทพแห่งความรักจึงไม่พอใจที่นาร์ซิสซัส มักดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นเสมอ จึงสาบให้ชายหนุ่มรูปงามตกหลุมรักตัวเอง เมื่อเขาเห็นเงาตนในแม่น้ำ จึงเกิดความคลั่งรักอย่างหนักหน่วง ไม่เป็นอันกิน กันนอน เฝ้าฝันอยู่ริมสระน้ำอย่างทรมานหัวใจ และฆ่าตัวตายในที่สุด เทพแห่งความรักเห็นดังนั้นก็รู้สึกสงสาร จึงเนรมิตให้มีดอกไม้เกิดบริเวณที่นาร์ซิสซัสเสียชีวิตลง และตั้งชื่อดอกไม้ตามชื่อของเขา ซึ่งกลายมาเป็น “แดฟโฟดิล” ในปัจจุบัน
ความเชื่อเกี่ยวกับ Daffodil
แดฟโฟดิล นั้นเป็นดอกไม้ประจำชาติของชาวเวลส์ ซึ่งมาพร้อมกับความเชื่อสุดน่ารักชวนยิ้มร่า หากผู้ใดเห็น Daffodil บานสะพรั่งเป็นดอกแรกของฤดูจะทำให้ชีวิตประสบพบเจอแต่ความสุขสมหวังตลอดทั้งปี
ความหมายของดอก Daffodil
ดารารัตน์เป็นดอกไม้ที่สามารถมอบให้ใครสักคนเพื่อแทนใจได้เช่นกัน หากคุณได้รับดอกไม้หน้าตาสวยงามนี้จากใคร หมายความถึงเขาคนนั้นคงมีนิสัยโรแมนติก ช่างใส่ใจน่าดู เพราะดอกไม้สวยงามชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่ ความหวัง และการให้อภัย รวมถึงการปลอบขวัญ ไม่ว่าชีวิตจะพบเจอกับเรื่องเลวร้ายเพียงใด ฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ Daffodil
ลักษณะลำต้นของเขามีความสูงราว ๆ 6-20 นิ้ว ใบสีเขียวรูปดาบยาว ปลายแหลม โคนสอบ แทงออกจากลำต้น ดอกของเขารูปร่างคล้ายคลึงกับปากทรัมเป็ต พบได้หลากหลายสีสันโดยส่วนมากเป็นสีขาว เหลือง ชมพู แต่ละสีส่งกลิ่นหอมในทำนองเดียวกัน ทว่าดอกสีเหลืองจะฉุนที่สุด
การปลูก ขยายพันธุ์ต้น Daffodil
ก่อนอื่นต้องให้ทุกท่านเข้าใจสักนิดว่าแดฟโฟดิลเป็นไม้เมืองหนาว ซึ่งหากนำมาปลูก ดูแลในประเทศไทย อาจเป็นเรื่องยาก เพราะสิ่งสำคัญคือต้องควบคุมอุณหภูมิ ปลูกในห้องปรับอากาศ เขาสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในอุณหภูมิ 12-18 องศาเซลเซียส
ในส่วนของการขยายพันธุ์ส่วนใหญ่มักนิยมใช้หัวของเขามาปลูกต่อในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี แต่กว่าต้นอ่อนจะงอกขึ้นมาก็ต้องคุมเรื่องความชื้นเช่นกัน เมื่อต้นโตเต็มที่ออกดอกแล้ว ค่อยลดปริมาณการให้น้ำลง เนื่องจากเขาไม่ได้ต้องการน้ำมาก ทนแล้งพอสมควร และไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุง ทว่าแสงแดดเองก็จำเป็นต่อการออกดอก อาจปลูกเขาเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแดดรำไร มีร่มเงา ซึ่งในเมืองไทยต้องปลูกในห้องแอร์ ที่มีอุณหภูมิต่ำเท่านั้น
ประโยชน์และสรรพคุณของ Daffodil
นอกจากการปลูกเอาไว้ดูเล่น เป็นไม้ประดับตกแต่งแจกันสวยงามแล้ว ทราบหรือไม่ว่าในอดีตดอกดารารัตน์นั้น มีบทบาทในวงการแพทย์เป็นอย่างมาก เขามีสรรพคุณทางยามากมาย ทั้งช่วยลดการกระตุกของกล้ามเนื้อ ใช้ทำให้อาเจียน เป็นยาระบาย ทำให้ง่วง ซึ่งในปัจจุบันแวดวงวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แดฟโฟดิลมีสารที่ช่วยในการผลิตยาโรคมะเร็งได้ มันจึงถูกตั้งให้เป็นตัวแทนขององค์กรด้านมะเร็ง นอกจากนี้ก็ยังมีบรรดาแบรนด์เครื่องสำอางทั้งหลายนำเขาไปสกัดทำสกินแคร์บำรุงผิวพรรณ ป้องกันการเกิดริ้วรอยบนผิวหน้า
แดฟโฟดิลเป็นดอกไม้มีพิษ
บริเวณก้านของเขาจะมียางดอกไม้อยู่ แน่นอนว่าส่วนของยางนั้นเป็นพิษ การจะตัดดอกมาประดับแจกัน หรือจัดช่อให้ใครสักคน จึงควรแช่ก้านดอกทิ้งไว้ในน้ำอุ่น เป็นเวลา 1 คืนให้พิษสลายไปเสียก่อน
เดิมทีในประเทศไทยเคยมีโรงเรือนปลูกดอก Daffodil ไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม แต่นานมาแล้ว ในปัจจุบันแทบหาไม่ได้ หากเพื่อน ๆ อยากสัมผัสกับดอกไม้ชนิดนี้อย่างใกล้ชิด ก็จำเป็นจะต้องปลูกเองหรือบินไปชื่นชมความงามกันที่ต่างประเทศเป็นหลัก
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับดอกดารารัตน์ และความลับในการปลูก รวมถึงตำนานของดอกไม้ก็ไม่ธรรมดา ช่างมีสตอรี่ โรแมนติก เหมาะสำหรับเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์เป็นอย่างมาก ปลูก Daffodil เอาไว้ให้เขาหรือเธอสักต้น แล้วบอกเธอว่ามันปลูกและดูและยากแค่ไหนในเมืองไทย ต้องทุ่มเทเวลาเท่าไหร่ รับรองว่าคนรับต้องประทับใจอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังสนใจข้อมูลแบบเจาะลึก เกี่ยวกับดอกไม้เมืองหนาวชนิดนี้กันนะคะ