ไข่ผำ เป็นชื่อที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง โดยเฉพาะคนรักการกินอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเขาคือสุดยอดสาหร่ายน้ำจืดที่อุดมไปด้วยโปรตีน แถมยังปลอดสารเคมี 100% ปลูกง่าย ราคาสูง หากต้องการเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมก็ลงทุนน้อยแค่หลักสิบ แต่กำไรหลักหมื่นต่อเดือน ใครกำลังสนใจอยากลองปลูกผักสร้างรายได้ วันนี้เรามีเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับพืชน้ำชนิดดังกล่าวมาฝาก
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีปลูกไข่ผำ รู้จักกับสาหร่ายน้ำจืดโปรตีนสูง เลี้ยงง่าย รายได้ดี!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Wolffia arrhiza (L.) Horkel ex Wimm.
ชื่อวงศ์ : Lemnaceae (วงศ์ย่อยแหน)
ชื่อสามัญ : Swamp algae, Water Meal
ชื่อท้องถิ่น : ผำ, ไข่แหน, ไข่น้ำ
ไข่ผำ คืออะไร ?
ไข่ผำ คือวัชพืชน้ำหรือสาหร่ายน้ำจืด ที่เกิดขึ้นตามแหล่งน้ำสะอาดธรรมชาติ ปลอดสารเคมี มีลักษณะเป็นเม็ดกลม ขนาดเล็ก คล้ายกับไข่กุ้งกระจายตัวเป็นแพอยู่เต็มหน้าน้ำ ความจริงแล้วสามารถพบเขาได้ในหลายประเทศตั้งแต่ยุโรป แอฟริกากลาง ทางใต้ในเกาะมาดากัสการ์ แต่จะพบมากที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย สำหรับบ้านเราถือว่าเป็นพืชน้ำท้องถิ่นตามชนบทที่พบได้มากที่สุดในภาคเหนือและอีสาน เนื่องจากมีการกระจายตัวของสารเคมีน้อยกว่าทางภาคกลางมาก
ด้านรสชาติของเขาค่อนข้างจืด ไร้กลิ่น มีเพียงสัมผัสแบบกรุบกรับเมื่อยามเคี้ยว เห็นจิ๋วแบบนี้แต่แฝงด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย สามารถนำไปรังสรรค์เป็นเมนูอาหารได้หลากหลายโดยเฉพาะแกงป่า แกงส้ม น้ำยาขนมจีน และอีกมากมาย
คุณค่าทางโภชนาการ
ไข่ผำ เป็นพืชที่ให้พลังงานเพียง 8 กิโลแคลอรี / 100 กรัม ประกอบไปด้วยโปรตีนถึง 40% ของน้ำหนักแห้ง เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับนมถั่วเหลืองเลยล่ะ ส่วนที่เหลือก็ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามิน A วิตามิน B1 / B2 วิตามิน C ไนอะซิน กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด แถมยังมีคลอโรฟิลล์ด้วยนะ กินแล้วให้ประโยชน์หลายด้านมาก ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันภาวะโลหิตจาง บำรุงสายตา ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อยอาหาร อีกข้อดีที่คิดว่าเจ๋งมาก ๆ ก็คือ เขานั้นจะช่วยลดภาวะเครียด ลดกรดได้ด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไข่ผำ จะมีลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็กทรงกลมหรือรี ความยาว 1 มิลลิเมตรโดยประมาณ อาศัยอยู่บริเวณผิวน้ำลอยเป็นกลุ่มก้อน หรือแพ อาจปะปนไปติดตามแหนแดงบ้าง ต้นของเขามีสีเขียว ไม่มีรากหรือใบเกิดขึ้น ความจริงแล้วสามารถออกดอกได้ด้วย แต่ดอกของเขาก็มีขนาดเล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้โดยตาเปล่า
วิธีการขยายพันธุ์
ไข่ผำ จะแตกต่างจากสาหร่ายทั่วไปตรงที่ เขามีความอ่อนแอต่อสารเคมีเป็นอย่างมาก และเป็นพืชที่เกิดขึ้นในแหล่งน้ำปลอดสารเคมีเท่านั้น จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย และการขยายพันธุ์ผำ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ใช้ต้นทุนน้อยมาก หากต้องการกระจายพันธุ์เพื่อขายทอดตลาด ถ้าพร้อมแล้วเรามาเรียนรู้วิธีการทำให้เหล่าผำเกิดเพิ่มขึ้นกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– ไข่ผำประมาณ ครึ่งกิโลกรัม
– กะละมัง หรือบ่อซีเมนต์ขนาดหน้ากว้าง 1 เมตร
– น้ำหมักปลา
ขั้นตอนการขยายพันธุ์
1.ทำการเติมน้ำใส่กะละมัง หรือใส่บ่อซีเมนต์ในปริมาณ 3/4 ของภาชนะเหล่านั้น โดยเราจะใช้เป็นน้ำบ่อ น้ำบาดาล หรือน้ำประปาก็ได้แต่ต้องไม่มีส่วนผสมของคลอรีน หรืออาจจะใช้เป็นน้ำกรองแล้วแต่ความสะดวก
3.ใส่น้ำหมักปลาลงไปด้วยประมาณ 2 – 4 ช้อนชาเพื่อเป็นธาตุอาหารของไข่ผำ แต่หากเลี้ยงตามบ่อดินธรรมชาติไม่ต้องเติมลงไปก็ได้
4.จากนั้นก็นำผำครึ่งกิโลกรัม มาเทใส่น้ำเอาไว้ได้เลยโดยที่เราไม่ต้องมาดูแลอีก
5.ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์เจ้าสาหร่ายของเราก็จะกระจายเต็มบ่อ เพิ่มปริมาณได้ถึง 3 กิโลกรัมเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ผำของเราจะเติบโตดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หากร้อนมากนักก็จะให้ผลผลิตน้อยกว่าปกติ ถ้าอากาศหนาวหน่อยก็จะได้ผลผลิตมากขึ้นไปอีก
ไข่ผำ กินอย่างไร?
เชื่อว่านี่คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจของใครหลายคน เพราะเห็นผำเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายไข่กุ้งแบบนี้ก็นึกเมนูไม่ออก แต่กว่าจะมาเป็นอาหารได้ ก็ต้องตักขึ้นมาล้าง ทำความสะอาดถึง 4 น้ำก่อนจากนั้นจึงนำไปแปรรูป โดยเราจะกินเขาทั้งต้น กินได้ทุกสัดส่วน หรือจะกินแบบสดเลยคู่กับส้มตำ สลัดผักก็ได้เช่นกัน
การตลาด
สำหรับคนที่อยากปลูกผักขาย และมีไอเดียเกี่ยวกับไข่ผำ Superfood Thailand ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากเทรนด์รักสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม จะนำไปขายตามตลาดนัด หรือช่องทางออนไลน์ก็ดีงามเพราะราคาของเขาตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาทขึ้นไป อาจสร้างรายได้ถึง 30,000 บาทต่อเดือนเชียวล่ะ ใครกำลังมองหารายได้เสริม ปลูกผักก็อย่าลืมศึกษาเส้นทางการตลาด เริ่มจากน้อยไปมากกันก่อนนะคะ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ ไข่ผำ Superfood มากประโยชน์ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและผู้คุมน้ำหนัก กินแล้วได้อะไรมากกว่าที่คิด ถึงแม้รสชาติจะจืดหน่อย แต่ถ้านำไปปรุงเพื่อเพิ่มสัมผัสให้แก่เมนูอาหารอื่น ๆ ก็ช่วยเสริมความสนุกในการรับประทานได้อย่างมหาศาล หรือจะปลูกเพื่อสร้างรายได้ก็กำไรงาม ไม่เหนื่อยรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยเฉกเช่นผักอื่น สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
