How to ปลูกผักในกล่องโฟมง่าย ๆ มือใหม่ต้องรู้!! 

by plantlover
ปลูกผักในกล่องโฟม

เทรนด์การปลูกผักกินเองค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่มวลมนุษยชาติหันมาใส่ใจด้านสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น การปลูกผักในกล่องโฟม ถือเป็นวิธีการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้อาศัยอยู่ในทุกสถานที่ ไม่ต้องมีอาณาเขตกว้างขวาง แต่วิธีการปลูกจะเป็นอย่างไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ตามมาดูด่วน ๆ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ปลูกผักในกล่องโฟมแบบง่าย ๆ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์น้ำนิ่ง ที่มือใหม่ก็ทำได้!! 

ปลูกผักในกล่องโฟม

ก่อนอื่นต้องเท้าความให้เพื่อน ๆ เข้าใจก่อนว่า การปลูกผัก Hydroponic (ปลูกผักแบบไร้ดิน) นั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธีไม่ว่าจะปลูกแบบน้ำวน น้ำนิ่ง ศัพท์ทางเทคนิคเยอะแยะมากมาย แต่เราจะมาอธิบายให้เพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจการปลูกผักในกล่องโฟมเข้าใจกันแบบง่ายดายมากยิ่งขึ้น 

DRFT (Dynamic Root Floating Technique) หรือระบบการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ในน้ำนิ่ง เป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในประเทศไทย และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหัดปลูกผักแบบไร้ดินเอาไว้กินเอง ซึ่งแน่นอนว่าวิธีดังกล่าวมีทั้งข้อดีและข้อเสียเมื่อเทียบกับการปลูกในระบบน้ำวนดังต่อไปนี้ 

ข้อดี 

– ประหยัด 

– เหมาะสำหรับคนขี้เกียจ ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ 

– ให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกด้วยดิน 

– ประหยัดพื้นที่ สามารถปลูกในคอนโดได้ 

ข้อเสีย 

– ต้องหมั่นลดระดับน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่รากอยู่เสมอ 

ปลูกผักในกล่องโฟม

ผักแบบไหนควรปลูกในกล่องโฟม 

ความจริงแล้วเราสามารถปลูกผักไร้ดินในกล่องโฟมได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักสลัดซึ่งค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถอยู่ในสภาพอากาศร้อนได้แม้เขาจะชื่นชอบความหนาวเย็นก็ตาม ส่วนการปลูกผักไทยก็สามารถทำได้เช่นกัน 

วิธีการปลูกผักในกล่องโฟมแบบง่าย ๆ 

การปลูกผักแบบ Hydroponic ที่ทำในกล่องโฟม ความจริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้เราสามารถนำวัสดุอื่น ๆ มาประยุกต์ใช้แทนกล่องโฟมได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแกลลอนเปล่า ขวดน้ำ สารพัดของที่สามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ เพื่อเป็นการประหยัดและช่วยลดขยะ และสำหรับมือใหม่หัดปลูก ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนปลูกผักสลัดในน้ำนิ่ง 

ปลูกผักในกล่องโฟม

Part 1 การเพาะเมล็ดผัก 

การปลูกผักในน้ำ (ปลูกผักในกล่องโฟม) และปลูกในดินนั้นแตกต่างต่างกันตั้งแต่วิธีการเพาะเมล็ด ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวมีอุปกรณ์ที่คุณจะต้องเตรียมดังต่อไปนี้ 

– กล่องมีฝาปิด (อย่างเช่นกล่องไอศกรีมเก่า / กล่องข้าว)

– ทิชชู 2 แผ่น 

– เมล็ดผัก (ซองละ 8-20 บาท)

– ฟ็อกกี้ (20-100 บาท)

– ฟองน้ำสำหรับเพาะเมล็ดผัก สามารถเพาะได้ประมาณ 80 ต้น (ก้อนละ 8-10 บาท)

– ถาดใส่น้ำ (20-29 บาท)

– ปุ๋ย AB (125 บาท / 500 ML*2)

ขั้นตอนการเพาะเมล็ดผัก 

1.ในกรณีที่ผักเมล็ดบาง เปลือกไม่หนาหรือแข็งไม่จำเป็นต้องนำเมล็ดแช่น้ำเอาไว้ก่อน 

2.นำทิชชูพับครึ่งมาวางลงในกล่องและโรยเมล็ดผักลงไป แล้วปิดทำด้วยกระดาษทิชชูอีกครั้ง จากนั้นสเปรย์น้ำจากฟ็อกกี้ให้ฉ่ำ 

3.ปิดฝากล่องให้แน่นแล้วนำกล่องไปวางไว้ในห้องอุณหภูมิปกติ  

4.รอประมาณ 1-2 วันรากสีขาวของเขาก็จะงอกออกมา 

5.นำถาดใส่น้ำเอาไว้ แล้ววางฟองน้ำแผ่นลงไปนวดให้ชุ่มชื้น 

6.จากนั้นนำเมล็ดผักมาวางลงในฟองน้ำ ใช้ฝั่งที่รากสีขาวงอกออกมาวางไว้ตรงกลางตามรอยร่องที่ถูกกรีดเอาไว้แล้ว 

7.เติมน้ำในถาดให้เต็ม แล้วนำไปไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง รอประมาณ 3-5 วัน ต้นกล้าผักก็จะเริ่มงอกงามออกมามากยิ่งขึ้น 

8.เมื่ออายุครบเวลา 5 วัน ให้เติมปุ๋ย A และปุ๋ย B ลงไปในถาดใส่ฟองน้ำแบบอ่อน ๆ เพื่อให้ผักได้ธาตุอาหารอายุประมาณ 7-14 วันค่อยแยกย้ายไปปลูกผักในกล่องโฟมต่อ  

ปลูกผักในกล่องโฟม

Part 2 การย้ายกล้าปลูกลงกล่อง 

สำหรับการปลูกผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ในกล่องโฟม เราสามารถย้ายต้นมาได้โดยเริ่มต้นจากการเตรียมอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ 

– ถ้วยปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (50 บาท / 100 ใบ)

– กล่องโฟมมือสอง 

– ปุ๋ย AB (ที่เหลือจากตอนเพาะเมล็ด) 

– ถุงดำใส่ขยะ 

ขั้นตอนการปลูกผักในกล่องโฟม 

1.นำถุงดำมาตัดแล้ววางลงในกล่องโฟมเพื่อกันไม่ให้น้ำรั่วเมื่อยามกล่องผุ 

2.ใส่น้ำลงไปในกล่อง หากเป็นน้ำประปาอาจจะต้องเตรียมการล่วงหน้าหน่อย ใส่กล่องทิ้งเอาไว้สักประมาณ 3-5 วันค่อยนำมาปลูกผักสลัดในน้ำได้ แต่หากใช้น้ำบาดาลก็ไม่จำเป็นต้องรอ 

3.เมื่อน้ำพร้อมแล้วให้ทำการใส่ปุ๋ย A ลงไปในปริมาณที่ระบุเอาไว้ตามฉลากปุ๋ย หรือราว ๆ 5 ML ต่อน้ำ 1 ลิตรโดยส่วนใหญ่ ตามด้วยปุ๋ย B และทำแบบเดียวกัน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที 

4.แยกฟองน้ำที่ต้นกล้าแข็งแรงออกมา 1 ก้อน 

5.บีบฟองน้ำเบา ๆ เพื่อยัดต้นกล้าเข้าไปทางก้นถ้วยปลูกผัก โดยให้เหลือพื้นที่ฟองน้ำเลยออกมาจากก้นถ้วยประมาณ 50% เพื่อให้เขาสัมผัสกับน้ำได้ดี 

6.นำถ้วยไปวางลงในฝากกล่องโฟมที่เจาะรูปเอาไว้แล้ว ให้ฟองน้ำสัมผัสกับน้ำปุ๋ยก็เป็นอันเสร็จสิ้น 

และนี่ก็คือวิธีการปลูกผักในกล่องโฟม แบบง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ ไม่ยุ่งยากหรือพึ่งพาเครื่องมือไม่มาก เพียงแต่ต้องให้ต้นผักตากแดดอย่างเพียงพอ หรืออาจมีการสเปรย์น้ำให้เขาหน่อยในช่วงเช้าเพื่อความสดชื่น ก็นับว่าเป็นวิธีการดูแลที่ไม่เลว เพื่อน ๆ สามารถลองนำไปทำตามกันดูได้ ถึงแม้ว่าอาจจะได้ผักที่ไม่สวยเท่าระบบน้ำวน แต่รสชาติอร่อยไม่ต่างกันแน่นอน 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net

You may also like

Leave a Comment