โคโลคาเซีย คือบอนประเภทหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปเอเชีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Colocasia esculenta (L.) Schott เขาคือไม้ล้มลุก อายุหลายปี ลำต้นเป็นหัวใต้ดิน มักอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ โดยมีมากกว่า 200 สายพันธุ์และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกเนื่องจากการพัฒนาสายพันธุ์ ใครกำลังสนใจพืชประเภทนี้ อยากเริ่มต้นปลูก แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากชนิดไหนดี เรามี 7 สายพันธุ์ Colocasia ใบสวย เลี้ยงง่าย มาแนะนำ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
7 โคโลคาเซีย สายพันธุ์แนะนำ บอนสวย ๆ น่าปลูก ต้องมีติดบ้าน!
1. Colocasia White lava
หรือที่เรียกกันว่าบอนไวท์ลาวา ใครจะไปคิดว่าต้นแม่พันธุ์ของเขาคือ “เผือก” พุ่มมีความสูง 90-150 เซนติเมตร ท่วมหัวผู้หญิงตัวเล็กหรือเด็กได้ โดดเด่นด้วยใบรูปหัวใจขนาดใหญ่ มีเส้นใบสีครีมชัดเจน พร้อมด่างสีครีมที่กลางใบ น้อยหรือมากก็แล้วแต่บางต้น หูใบลึกแต่ไม่ผ่าถึงกระดูก ผิวมันสวย ปลูกง่ายมาก เขาค่อนข้างชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน และยังชอบน้ำชุ่มชื้นไปจนถึงแฉะตามสไตล์พืชตระกูลโคโลคาเซีย เหมาะสำหรับปลูกริมบึง ปลูกในสวนที่มีสระน้ำ ไม่แนะนำให้ปลูกในบ้านสักเท่าไร
2. Colocasia Pharaoh’s Mask
โคโลคาเซียหน้ากากฟาโรห์ หรือที่หลายคนเรียกน้องว่า “บอนฟาโรห์” เจ้าต้นนี้เป็นไม้ประดับที่หากใครได้เห็นก็เป็นต้องร้องว่า “โคตรเท่” เพราะรูปลักษณ์ของใบอันแสนโดดเด่น มองดูแล้วคล้ายคลึงกับหน้ากากฟาโรห์อียิปต์ รูปทรงหัวใจ เส้นใบสีแดงอมม่วงยกนูน เนื้อใบสีเขียว ขอบใบปรกดิน ก้านใบสีแดงอมม่วงอวบ น่าครอบครอง ส่วนการดูแลเลี้ยงดูก็ใกล้เคียงกันกับ Colocasia ต้นอื่นมาก ชอบน้ำ ชอบแดด ถ้าดูแลดีไม่มีใบไหม้แน่นอน
3. Colocasia lemon lime
สำหรับสายพันธุ์นี้ก็เป็นอีกหนึ่งโคโลคาเซียน่าปลูกที่คนรักต้นไม้มักมีติดบ้าน ต้นนี้ก้านของเขาจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงม่วงอมแดง มีใบเดี่ยวรูปหัวใจ ขอบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย เส้นใบชัด โดดเด่นด้วยพื้นใบสีเขียวเข้ม แต่ลวดลายด่างสีเหลืองหรือเขียวอ่อนเกิดขึ้นทั่วทั้งใบ เกิดเป็นความสวยงาม ขอบใบสีม่วงหรือน้ำตาลเข้ม น้องชอบดินที่ค่อนข้างแฉะเป็นพิเศษ มีน้ำขังตลอดทั้งวันก็ยังไหว แต่แสงแดดต้องถึง จึงจะทำให้ใบสวย ข้อสำคัญควรเลือกดินแบบมีอินทรียวัตถุสูง
4. Colocasia Esculenta Black Magic
เจ้าต้นนี้มีหลายชื่อเรียกมาก ไม่ว่าจะเป็นโคโลคาเซียใบดำ บอนดำแบล็คเมจิก บอนดำ บอนจีนดำ ทั้งหมดนี้เกิดจากรูปพรรณสัณฐานกาบและใบสีดำอมม่วงแปลกตา น้องค่อนข้างสูงกว่าต้นอื่น โดยมีความสูงประมาณ 90-180 เซนติเมตร ก้านอวบน้ำ ใบเดี่ยวรูปหัวใจ ตอนใบอ่อนส่วนใหญ่เป็นสีเขียวและเต็มไปด้วยจุดสีม่วงอมดำประปราย ขอบใบหยักเป็นคลื่น เส้นใบชัด ปลายใบมนและชี้ลงดิน แถมยังเลี้ยงดูง่ายมาก หากไม่มีพื้นที่น้ำเยอะ ก็ยังสามารถอยู่ในความชื้นปานกลางได้ แต่ควรถูกแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ใบยังคงความดำสวยงาม มีติดบ้านไว้ประดับในสวนเลิศมาก
5. Colocasia Pink Andaman
มาต่อกันที่บอนไทยสายพันธุ์สีชมพู ที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของ ต้นนี้เป็นโคโลคาเซียที่อาจมีความสูง 90-180 เซนติเมตรเลยทีเดียว เช่นเคยว่าก้านใบน้องอวบน้ำเป็นสีเขียว ลักษณะใบก็คล้ายคลึงกับ Colocasia ทั่วไปแต่โดดเด่นตรงที่ใบแก่จัดจะมีสีด่างขาวอมชมพูสวยงาม เน้นจุดกลางใบสีชมพู ปลายใบชีลงดิน บอกเลยว่าสวยหวาน น่ามีติดบ้าน ติดประดับตกแต่งสวนเพิ่มลายด่างเข้าไป ดูแพงมากนะบอกเลย
6. Colocasia Black Beauty
ต้นนี้เป็นบอนแบล็คบิวตี้ที่ได้รับความนิยมสูงมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากลวดลายของใบที่สวยงามเหมือนใครเอาน้ำหมึกมาหยดลงตรงกลางใบแล้วแผ่กระจายกลางผิวใบสีเขียว และเส้นใบยังมีสีเขียวชัดเจนอีกด้วย ส่วนลักษณะอื่น ๆ ก็ตามสไตล์โคโลคาเซีย แต่ขอบใบไม่หยิก การเลี้ยงดูเป็นไปอย่างง่ายดาย สามารถปลูกได้ในดินหลากหลายรูปแบบ เราว่าน้องน่ารัก เหมาะสำหรับเอาไปปลูกข้างน้ำตกจำลองหรือสระน้ำให้ทิวทัศน์น่ามองมากยิ่งขึ้น
7. Colocasia Coffee Cups
ส่งท้ายกันด้วยโคโลคาเซียสุดน่ารัก น้องมีชื่อว่า Coffee Cups ก็เพราะลักษณะใบที่ตั้งตรง ขอบใบชี้ขึ้นฟ้า ห่อลึก มีลักษณะเหมือนกับถ้วยชา-กาแฟ ผิวใบเขียวขึ้นมัน เส้นกลางใบสีม่วงอมแดงเข้มตลอดไปจนถึงก้านใบ ลูกเล่นที่น่ารักมาก ๆ ของเจ้าต้นนี้ก็คือถ้วยน้อยของเขาสามารถกักเก็บน้ำเอาไว้ได้ แต่เมื่อถูกฝนจนหนักอึ้งน้ำก็จะไหลออกมาเองโดยธรรมชาติ เราว่าเป็นบอนน่าปลูกที่ดูแล้วเพลินตาสุด ๆ มีติดบ้านไว้ดีแน่นอน
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 สายพันธุ์โคโลคาเซียแนะนำ ที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองเก็บไปพิจารณา ถ้าอยากมี Colocasia เอาไว้ดูเล่นแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากต้นไหนดี บอกเลยว่าน้องเหมาะสำหรับมือใหม่มาก ใครก็สามารถปลูก ดูแลได้ ขอแค่น้ำถึง ดินเหมาะสม และแสงเพียงพอ นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีบอนในตระกูลเดียวกันที่น่าสนใจอีกมากมาย ส่วนเรื่องราคาย่อมแตกต่างกันออกไปตามความนิยม สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
