ยี่โถปีนัง ดอกไม้ที่คุณกำลังทำความรู้จักอยู่นี้ อาจไม่เป็นที่นิยมมากนักในปัจจุบัน แต่เขาก็มาพร้อมความสุนทรีย์ อารมณ์เหมือนกับกล้วยไม้แต่สามารถปลูกบนดินได้ กอใหญ่ ใบสวย เหมาะสำหรับจัดใส่กระถางเพื่อประดับตกแต่งตามอาคาร บ้านเรือน แถมยังขยายพันธุ์ ปลูก ดูแลง่าย และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าดอกไม้สีสวยต้นนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ยี่โถปีนัง ไม้กระถางน่าปลูก ดอกสีม่วงสวย ใคร ๆ ก็เลี้ยงได้!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Arundina graminifolia (D.Don) Hochr. subsp. Graminifolia
ชื่อวงศ์ : Orchidaceae (วงศ์กล้วยไม้)
ชื่อสามัญ : Bamboo Orchid, Bird Orchid และ Kinta Weed
ชื่ออื่นในภาษาไทย : ไม้จิ้มฟันควาย, แขมดอกขาว, น้ำทราย, เอื้องใบไผ่ และม้วนตักหงาย
ยี่โถปีนัง ชื่อของเขาก็บอกเป็นนัยแล้วว่ามีพื้นถิ่นมาจากปีนัง ทว่าก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะสามารถพบเจอได้ตามภูมิภาคเอเชียเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อนอย่างเช่น ประเทศไทยทั่วทุกภาค หากจะบอกว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศไทยก็ได้เช่นกัน หลายคนเรียกเขาว่ากล้วยไม้ดินเนื่องจากรูปร่างดอกละม้ายคล้ายคลึงกับดอกกล้วยไม้ แถมยังเป็นพืชในวงศ์กล้วยไม้ มีข้อดีตรงเลี้ยงดูง่ายนี่ล่ะ แต่ถ้าใครอยากเลี้ยงอย่าลืมศึกษาข้อมูลในการดูแลเขาให้ดีด้วยนะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ลักษณะผอมตรงสูงประมาณ 50-160 เซนติเมตร ต้นค่อนข้างกลม สีเขียวสด ขึ้นเป็นกอหนาแน่นคล้ายกอหญ้า
ใบ : ส่วนใบของเขามีรูปแถว ออกเรียงเวียนสลับรอบต้น พื้นใบสีเขียว แผ่นใบบางและยาว 12 – 20 เซนติเมตร ความกว้าง 1.2 – 2 เซนติเมตรโดยประมาณ โคนใบเป็นกาบหุ้มต้น ปลายใบค่อย ๆ เรียวสอบแหลม เส้นใบยกนูนชัด
ดอก : ดอกยี่โถปีนัง ถือเป็นไฮไลท์ที่หลายคนรอคอย ส่วนใหญ่มักออกดอกตลอดทั้งปีในรูปแบบช่อแบบเชิงลดหลั่น ก้านดอกย่อยยาวไม่ค่อยเท่ากัน โดยก้านดอกด้านล่างสุดจะยาวกว่าและเริ่มบานก่อนด้านบน ลักษณะดอกย่อยมี 6 กลีบเลี้ยงและกลีบดอก สีขาวอมชมพูไปจนถึงม่วง ปลายดอกเป็นรูปกรวย ในกรวยมีสีเหลืองแซม ปากกลีบดอกย่น
ประโยชน์
ทุกคนทราบหรือไม่ว่านอกจากจะปลูกยี่โถปีนังเอาไว้เป็นไม้ประดับ แต่งสวนตามทางเดิน หรือไม้กระถางแล้ว ชาวมาเลเซียยังนำมาประกอบอาหาร เป็นดอกไม้กินได้อีกด้วย ส่วนใหญ่นิยมนำมาผัดน้ำมัน มีรสชาติออกขมคล้ายกับมะระ นอกจากนี้เขาก็ยังมีสรรพคุณทางยา เป็นสมุนไพรช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย ทั้งสวยงามและประโยชน์มากมายเลยใช่ไหมล่ะ ใครปลูกไว้ลองเก็บมากินก็ได้นะ
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์ต้นยี่โถปีนัง ส่วนใหญ่มักทำโดยวิธีการแยกกอซึ่งค่อนข้างง่าย เป็นที่นิยม ใช้เวลาไม่นานต้นที่เราแยกออกมาก็จะกระจายไปรอบข้างออกดอกสวย ถ้าพร้อมแล้วเรามาเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการแยกกอของเจ้าต้นนี้กันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– ยี่โถปีนังกอแม่พันธุ์
– ถุงเพาะชำหรือกระถางมีรูระบายที่ก้น
– อินทรียวัตถุ 1 ส่วน
– ดินปลูก 1 ส่วน
ขั้นตอนวิธีการแยกกอเพื่อขยายพันธุ์
1. ให้เรานำยี่โถปีนังจากกระถางใหญ่มาแบ่งแยกออกเป็น 4 ส่วน โดยยังคงเหลือดินเดิมติดมาด้วยก็ได้เช่นกัน
2. จากนั้นนำดินปลูกมาผสมกับอินทรียวัตถุอย่างละ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อทำวัสดุปลูก
3. นำวัสดุปลูกมารองก้นกระถางในปริมาณ 1/3 ของกระถาง
4. นำ 1 กอที่แยกออกมาวางลงในกระถาง ใช้มือประคองให้ต้นตรงก่อนนำดินที่เหลือมากลบพอประคองต้นไม้เอาไว้ได้
5. รดน้ำแล้วรอจนกว่ารากจะติดดิน แข็งแรง โดยเลือกวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ไม่มืดหรือทึบ หากโดนแสงช่วงเช้าจะดีมาก
การปลูก/ดูแล
ดิน : โดยธรรมชาติแล้วน้องเป็นดอกไม้ป่าที่เกิดขึ้นตามเทือกเขา บริเวณภูเขาหินหรือป่าที่มีความชื้นสูง อาทิเช่น ตอนใต้ของประเทศไทย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกดินปลูกที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน เก็บความชื้นดี อินทรียวัตถุสมบูรณ์ อากาศถ่ายเท ในขณะเดียวกันก็ระบายน้ำได้ดี จะทำให้ต้นไม้โตและออกดอกเร็ว
แสง : ความจริงแล้วยี่โถปีนังสามารถโดนแสงจ้าเต็มวันได้ แต่ถ้าจะให้ดีขอเน้นแสงแดดอ่อนในช่วงเวลาไม่เกิน 11.00 น. จะดีกว่า ไม่ทำให้ต้นไม้เหี่ยวง่าย ดูแลง่าย หรือจะปลุกเขาในพื้นที่ร่มรำไรก็ได้เช่นกัน
น้ำ : อย่างที่ทราบกันดีกว่าโดยธรรมชาติน้องจะเจริญเติบโตอยู่ตามป่าที่มีความชื้นสูง ดังนั้นก็จะค่อนข้างชอบน้ำมากเช่นกัน สามารถรดน้ำวันละ 2 ครั้งได้เลยโดยพิจารณาจากดิน หากยังชุ่มชื้นอยู่ก็อาจจะรดน้ำให้เขาแค่วัน 1 ครั้งก็ได้เช่นดัน
ปุ๋ย : เจ้าต้นนี้ไม่ได้ต้องการธาตุอาหารใดเป็นพิเศษ สามารถบำรุงด้วยปุ๋ยคอกได้
ตัดแต่ง : เมื่อดอกยี่โถเริ่มร่วงโรย สิ่งที่ควรทำมากที่สุดก็คือการตัดแต่งกิ่งหรือต้นของเขาออกเพื่อไม้ให้แย่งธาตุอาหารกัน ลองทำตามนี้ช่วยลดโอกาสเกิดโรคด้วยนะ
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “ยี่โถปีนัง” ดอกไม้กระถางมากชื่อ แต่ความสวยมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เป็นอย่างไรกันบ้างคะ น่าปลุกมากเลยใช่ไหมล่ะ น้องดูแลไม่ยาก ขอเพียงแค่ดิน แสง น้ำ และการตัดแต่งกิ่งอย่างเพียงพอ รับรองว่าเห็นดอกสวย ๆ ตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net