ต้นลำโพง สวยงาม ซ่อนพิษร้าย ใครอยากปลูกต้องรู้!! 

ของสวยงาม ย่อมมาพร้อมอันตราย คำนี้ใช้ได้กับพันธุ์ไม้สุดมหัศจรรย์อย่าง “ต้นลำโพง” ที่หากมองเขาอย่างผิวเผินแต่เพียงภายนอก รูปร่างดอกชวนให้เราเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่แท้จริงแล้วซ่อนความน่ากลัวเอาไว้ ใครกำลังอยากได้เขาไปปลูกประดับบ้าน เพิ่มทัศนียภาพภิรมย์รื่น ยังมีสิ่งที่คุณควรต้องรู้และระมัดระวังเอาไว้ให้ดี 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “ต้นลำโพง” ต้นไม้มีพิษ กับสารพัดเรื่องที่คนอยากปลูกต้องอ่าน!! 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Datura metel L. 

ชื่อวงศ์ : Solanaceae (วงศ์มะเขือ) 

ชื่อสามัญ : Datura stramonium, Thorn Apple 

ชื่ออื่น ๆ : ลำโพงขาว, ลำโพงดอกขาว (ภาคกลาง), มะเขือบ้า (ภาคเหนือ และภาคอีสาน), ลำโพงกาสลัก 

ต้นลำโพง เป็นพืชล้มลุกที่รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับต้นมะเขืออย่างมาก บางตำราบอกว่าเขามีถิ่นกำเนิดมาจากแถบภูเขาทางภาคตะวันตกของประเทศปากีสถาน รวมถึงอัฟกานิสถาน เขตกึ่งร้อนเช่นทวีปอเมริกาใต้ รวมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยเราสามารถพบเจ้าต้นนี้ได้ทั่วทุกภูมิภาค เนื่องจากสามารถขยายพันธุ์เองได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณชายป่ารกร้าง แบ่งออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์ ถึงแม้ว่าจะเป็นต้นไม้สวย ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยพิษภัยอันตราย 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ลำต้น : อย่างที่ได้ทราบกันไปเบื้องต้นแล้วว่าต้นลำโพงนั้นเป็นพืชล้มลุก ซึ่งมีอายุเพียง 1 – 2 ปีเท่านั้น ความสูงของต้นประมาณ 2 เมตร ลำต้นตั้งตรง ทรงกลม เปลือกเหนียว แต่เนื้อในเปราะ ไร้ขนปกคลุม ดอกสีขาว ลำต้นจะสีเขียว และแตกกิ่งก้านออกรอบต้น 

ใบ : ใบของเขาค่อนข้างคล้ายคลึงกับใบมะเขือ ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันที่บริเวณปลายกิ่ง แผ่นใบรูปไข่ โคนมนกลม ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นซี่ ผิวหยาบ สีเขียวอ่อน 

ดอก : ดอกลำโพง เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเจ้าต้นนี้เลยล่ะ เจ้าต้นนี้จะออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบมีความยาวประมาณ 3.5-5.5 นิ้ว ปลายบานออกเป็นทรงแตร โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว มีเกสรเพศผู้ 1 อันและเพศเมีย 1 อัน จะบานอยู่ประมาณ 3 วันและร่วงโรยลง สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี รูปร่างหน้าตาดอกจะคล้ายคลึงกันกับแตรนางฟ้า ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นพืชชนิดเดียวกัน แต่ความจริงแล้วแตกต่างกันมาก 

ผล : เจ้าต้นนี้ก็ออกผลเหมือนมะเขือเปราะเช่นกัน ทว่าผลกลับมีรูปร่างหน้าตาประหลาด ปกคลุมไปด้วยหนามแหลม ผลอ่อนสีเขียว ส่วนผลที่แก่จัดจะเป็นสีน้ำตาลแห้งและแตกออกเป็น 4 ซีก พบเมล็ดทรงสามเหลี่ยมสีดำหรือน้ำตาลด้านในจำนวนมาก 

ลำโพง พิษมากขนาดไหน? 

แม้ว่าเขาจะมีประโยชน์ทางด้านสมุนไพรและเป็นต้นไม้ประดับหน้าบ้านสวยงาม แต่เรื่องราวของพิษจากต้นลำโพง ก็เป็นสิ่งที่เคยได้ยินตามสื่อต่าง ๆ มานักต่อนัก ทุกสัดส่วนของต้นนี้มีสารในกลุ่ม Tropane alkaloids Hyoscine, Hyoscyamine, และ Scopolamine ซึ่งไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อน หากรับประทานส่วนผลและใบของเขาเข้าไป จะทำให้เกิดอาการกระหายน้ำอย่างรุนแรง ปวดศีรษะ เป็นไข้ หลอน อาจพบอาการชักในเด็กบางคน จนกระทั่งทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน 

ทั้งนี้ในต่างประเทศก็ยังมีการนำใบลำโพงมาเสพและขนานนามให้เป็นยาบ้าอีกหนึ่งชนิด ยกตัวอย่างเช่น ชาวฮินดู ที่นำไปใช้ในพิธีกรรมสำคัญ 

การขยายพันธุ์ 

ต้นลำโพง ขยายพันธุ์ง่าย ไม่ยุ่งยากสามารถทำได้ทั้งการปักชำกิ่งซึ่งเป็นวิธีการที่ง่าย และการเพาะเมล็ดที่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ใครอยากลองปลูกดอกไม้สวยงามชนิดนี้ นี่คือวิธีการที่คุณสามารถนำไปลองทำตามกันได้เลย 

การเพาะเมล็ด

1.นำเมล็ดของต้นลำโพงไปแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน 

2.จากนั้นก็นำเมล็ดไปบ่มในผ้าชุ่มน้ำ ใส่กล่องมีฝาปิดทิ้งไว้อีก 1 คืนเพราะเมล็ดของเขาค่อนข้างแข็ง จะงอกยาก 

3.จากนั้นก็นำไปเพาะลงบนดินหรือพีทมอสก็ได้ วางกระถางเพาะเอาไว้ในที่ร่ม สักประมาณ 1 สัปดาห์ต้นของเขาก็จะงอกออกมาให้ชมเป็นบุญตาแล้วล่ะ 

4.เมื่อต้นงอกออกมาแล้ว ให้วางต้นไม้เอาไว้ในพื้นที่ร่มรำไรในระยะเวลาประมาณ 45 วันก็สามารถนำเขาไปปลูกเป็นต้นไม้ประดับสวนในพื้นที่ตามใจต้องการได้เลย 

การปักชำ

สำหรับการปักชำนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เราตัดกิ่งที่ต้องการ ซึ่งต้องเป็นกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปออกมาจากต้น จากนั้นก็นำไปเสียบในดินปลูกรดน้ำให้ดินชุ่มชื้น อีกไม่นานก็จะติดราก และเติบโตเตรียมออกดอกให้เราได้เห็นแล้วล่ะ 

การปลูก / ดูแล

การปลูกต้นลำโพง สามารถทำลงได้ในดินร่วนหรือดินเหนียว เนื่องจากเขาค่อนข้างชอบความชื้นแฉะ ทั้งนี้หากปลูกอยู่ตามป่าเขา หรือภาคเหนือก็สามารถให้ต้นเขาอยู่กลางแจ้งได้เลยสบาย ๆ แต่หากอยู่ในภูมิภาคที่ร้อนหน่อยก็ควรหาพื้นที่ร่ม แสงแดดรำไรให้เขาอยู่จะดีกว่า ข้อสำคัญอย่าลืมรดน้ำให้เขาทุกวันจะดีมาก ๆ อาจใส่ปุ๋ยให้ออกดอกงดงามมากยิ่งขึ้นก็ได้นะ 

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “ต้นลำโพง” ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำความรู้จัก แนะนำว่าไม่ควรปลูกในกรณีที่บ้านไหนมีเด็กเล็กหรือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เพราะพิษของเขาค่อนข้างที่จะรุนแรง หากกินหรือเสพเข้าไปก็จะทำให้มีอาการหลอนชั่วคราวจนถึงตายได้ สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่ารายละเอียดดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net