มะยมเงิน มะยมทอง ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้โขดยอดนิยมที่เลี้ยงดูง่าย โขดใหญ่สวย น่าสนใจ และชื่อของเขาก็ยังเป็นมงคล ที่เหมาะแก่การปลูกเอาไว้เสริมดวงอีกด้วย ต้นเล็กน่ารักแบบนี้ แต่งบ้านสวย มองดูแล้วชื่นใจ น่ามีติดโต๊ะทำงาน ถ้าเพื่อน ๆ คือคนหนึ่งที่กำลังสนใจอยากเลี้ยงไม้โขดฟอร์มสวยสักต้นก็อย่าได้รอช้า เรามาทำความรู้จักกับเจ้ามะยมเงิน มะยมทอง กันเลยดีกว่า
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับมะยมเงิน มะยมทอง ไม้โขด มงคล น่าเลี้ยงมาก!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus mirabilis
ชื่อวงศ์ : Phyllanthaceae (วงศ์มะขามป้อม)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Phyllanthus mirabilis
ชื่อภาษาไทย : มะยมโขด, มะยมหิน
มะยมเงิน มะยมทอง ความจริงแล้วเขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงอยู่ราว ๆ 6 – 8 เมตรโดยประมาณ โดยธรรมชาติจะเป็นไม้ผลัดใบทั้งหมดในช่วงฤดูแล้ง มะยมเงิน มะยมทอง มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เกิดขึ้นตามซอกหินธรรมชาติ พบในบ้านเราครั้งแรก ๆ ที่ผานกเขา จังหวัดเลย
กว่าจะมาเป็นไม้โขด
เห็นแล้วเพื่อน ๆ ก็คงจะสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าต้นไม้สูงท่วมหัวขนาดนี้ จับมาอยู่ในกระถางแล้วกลายเป็นไม้โขดได้อย่างไร ต้องบอกเลยว่ามีกรรมวิธีที่ซับซ้อนหน่อย ใกล้เคียงกับการทำบอนไซ ต้องควบคุมปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต หมั่นตัดแต่งรากและควบคุมการให้อาหารและน้ำให้น้อยกว่าปกติเป็นระยะเวลานานหลายปี ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากเลี้ยงแบบโขด แต่กลัวจะทำยากก็แนะนำให้ซื้อต้นที่เป็นโขดอยู่แล้วมาเลี้ยงเลยจะดีกว่า
ความเชื่อ
เห็นว่าเป็นต้นไม้โขดเล็ก ๆ แบบนี้แต่ มะยมเงิน มะยมทอง ก็มีความเชื่อเหมือนกันนะ เนื่องจากชื่อของเขามีความเกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติ เขาจึงกลายเป็นไม้มงคล เรียกทรัพย์ไปโดยปริยาย เชื่อกันว่าหากเลี้ยงหรือปลูกเอาไว้จะช่วยส่งเสริมชีวิตของผู้ครอบครอง การเงิน การงาน ทำมาค้าขายคล่อง บ้านไหนมีธุรกิจร้านค้า ขายของบอกเลยต้องปลูก!
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : หากเลี้ยงมะยมเงิน มะยมทอง เป็นไม้ยืนต้น เขาก็จะมีลำต้นที่สูงชะลูด แต่ถ้าหากเลี้ยงแบบสมบุกสมบัน ขาดอาหาร แห้งแล้งหน่อย ต้นมะยมก็จะมีการสะสมอาหารเอาไว้จนกระทั่งเกิดเป็นโขดอวบอ้วน ผิวเปลือกสีน้ำตาลอ่อน ขรุขระเล็กน้อย แตกกิ่งก้านออกไปไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่มักถูกตัดแต่งหรือลิดกิ่งออก
ใบ : ใบมะยมเงิน มะยมทอง คล้ายคลึงกับใบต้นมะยมเปรี้ยวที่เรารู้จักกันก็จริง แต่เป็นใบแบบประกอบขนนกที่รูปรีกว่า ใบเล็กกว่า แผ่นใบสีเขียว ท้องใบแอบสีม่วงอ่อน เส้นใบสว่างสวยงาม
วิธีการปลูก
สำหรับการปลูกมะยมเงิน มะยมทอง เพื่อน ๆ สามารถนำไปปรับใช้กับการปลูกไม้โขดอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน หากซื้อต้นที่เป็นโขดมาอยู่แล้ว ก็จะต้องนำมาลงกระถาง ให้เลือกบรรจุภัณฑ์สวยงามดังใจเราต้องการได้เลย ถ้าพร้อมแล้วเราไปปลูกเจ้าต้นไม้ประดับ แต่งห้องต้นนี้กันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.เพอร์ไลท์ (หินภูเขาไฟ) หรือหินกรวดธรรมดา
2.ดินร่วน 1 ส่วน
3.ดินทราย 1 ส่วน
4.ปุ๋ยมูลไส้เดือน 1 ส่วน
5.กระถางมีรูระบายที่ก้น เลือกขนาดและความสวยงามตามใจชอบ แนะนำเป็นใบเล็กน่ารัก จะโชว์โขดไม้ได้ดีกว่ากระถางใบใหญ่
6.กรรไกรตัดกิ่ง
7.ต้นมะยมเงิน มะยมทองโขด
ขั้นตอนวิธีการปลูกไม้โขด
1.นำดินทราย ดินร่วน และปุ๋ยมูลไส้เดือนอย่างละ 1 ส่วนมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
2.จากนั้นให้นำเพอร์ไลท์มารองก้นกระถางบาง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายน้ำที่ดียิ่งขึ้น
3.นำต้นไม้มาตัดรากออกให้พอดีกับกระถาง
4.จากนั้นวางต้นมะยมเงิน มะยมทอง ลงไปในกระถาง แล้วนำดินที่ผสมไว้มาโรยกลบหลวม ๆ แต่อย่าลืมว่ายังต้องให้โขดของเขาโดดเด่นด้วย
5.จากนั้นนำเพอร์ไลท์มาโรยทับหน้าดินเพื่อความสวยงามก็เป็นอันเสร็จสิ้น จะรดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นหน่อยก็ดีเช่นกัน
การดูแล
การดูแลไม้โขด เป็นเรื่องสำคัญมาก หากเราใช้เขาเป็นต้นไม้ตกแต่งห้อง ก็ควรจะวางไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง อย่างเช่นบริเวณใกล้ริมหน้าต่าง เนื่องจากเจ้ามะยมเงิน มะยมทองนั้น ต้องการแสงแดดรำไรโดยธรรมชาติ ส่วนเรื่องการรดน้ำสามารถทำตามความสะดวกได้เลย อาจจะ 2-3 วันค่อยหันมารดน้ำ หรือจะรดเพียงแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็จะทำให้โขดของเขาสวยงามและใหญ่ขึ้น
เคล็ดไม่ลับ เลี้ยงไม้โขดอย่างไรให้ต้นแข็งแรง
ก็ถ้าเอาน้องวางไว้ในที่ร่มตลอดทั้งปีทั้งชาติ ต้นไม้อาจบอบบางและตายเร็วกว่าที่คิด วิธีการเลี้ยงต้นไม้โขดในห้อง ในบ้าน หรือออฟฟิศให้แข็งแรง ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ทุก ๆ 60 วันจะต้องนำต้นไม้ออกมาตากแดดตอนเช้าสัก 10 วันแล้วค่อยนำกลับเข้าไปอยู่ในห้องใหม่ เราก็จะได้ไม้ประดับที่แข็งแรงหายห่วงแล้วล่ะ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับต้นมะยมเงิน มะยมทอง ที่เราได้ศึกษาค้นคว้าและนำมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจ เป็นอย่างไรบ้างคะ เขาเป็นต้นไม้ที่น่ารักมาก ๆ และดูแลไม่ยากเลยใช่ไหม แถมยังมีอายุอยู่ได้นานไม่แพ้ต้นไม้ใหญ่บางชนิดเลย ใครสนใจอย่าลืมซื้อหามาไว้ในครอบครอง รับรองว่าแค่ได้มองก็สร้างความสุขได้มากอย่างแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net