จามาคารู กระบองเพชรกินได้ หนึ่งในกระบองเพชรที่หลายคนน่าจะเคยเห็น เนื่องจากความนิยมของเขามีมาอย่างยาวนาน คนปลูกกันเต็มบ้านเต็มเมือง ความจริงแล้วเขามีผลที่สามารถรับประทานได้ แต่หลายคนก็ยังไม่เคยเห็นรูปหน้าค่าตาของผลไม้ชนิดนี้เลยด้วยซ้ำ วันนี้เราจึงอยากจะมาตอบคำถามว่า ทำไมกระบองเพชรของคุณไม่ออกลูกสักที ใครอยากลองชิม ต้องทำให้ต้นติดผล บอกเลยห้ามพลาด!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
จามาคารู กระบองเพชรกินได้ ต้นใหญ่ กับเคล็ดลับทำให้ติดผล!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cereus hildmannianus (หนามกุด), Cereus jamacaru (มีหนาม)
ชื่อวงศ์ : Cactaceae. (วงศ์กระบองเพชร)
ชื่อสามัญ : Cereus Jamacaru
ชื่ออื่น ๆ : มะลำ
จามาคารู หรือกระบองเพชรต้นใหญ่ที่เราเคยเห็นกัน ความจริงแล้วมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล ซึ่งอุณหภูมิบริเวณดังกล่าวตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 12-29 องศาเซลเซียส จัดว่าไม่หนาวจนเกินไปแบบเขตร้อนชื้น เจ้าต้นนี้จึงนำมาปลูกในประเทศไทยได้อย่างสบาย ๆ แพร่กระจายไปทุกจังหวัด รูปร่างสวยงาม ประโยชน์มากมาย ผลกินได้ หน้าตาคล้ายแก้วมังกร สามารถติดผลได้แม้อายุน้อย แต่ถ้าบ้านไหนปลูกเอาไว้นานแล้วยังไม่เคยเห็น วันนี้เรามีเคล็ดลับทำให้ติดผลมาฝาก
ความเชื่อ
ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ของคนไทยนั้นมีมาตลอดทุกยุคสมัย หลายคนเชื่อว่ากระบองเพชรเป็นไม้มงคล เสริมดวงการเงิน ต้นไม้แห่งการเสี่ยงทาย หากบ้านใดปลูกได้งดงาม ออกดอกสวยก็จะนำมาซึ่งโชคลาภ หนามแหลมของเขาช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย แต่ไม่เหมาะสำหรับคนโสด เนื่องจากเชื่อกันว่าหากปลูกเอาไว้แล้วจะผิดหวังเรื่องความรัก แต่ถ้าหากคุณไม่กังวลก็จัดไปเลยจ้า!!
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ตอของเขามีความสูงราว ๆ 9 เมตรหากโตเต็มที่ ต้นสีเขียวเข้ม อาจมีหนาม หรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ปลูก ดอกใหญ่ สีขาวสวย ส่วนผลจะยาวประมาณ 10 เซนติเมตร หากสุกแล้วจะมีผิวสีแดงคล้ายกับผลแก้วมังกร เนื้อด้านในก็คล้ายกัน เป็นสีขาว แต่มีความหยาบเป็นทรายมากกว่า
ประโยชน์
นอกจากการปลูกต้นจามาคารูเอาไว้เพื่อเป็นไม้ประดับ แต่งบ้าน สวน หรือคาเฟ่แล้ว เขาก็ยังมีประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ ชาวบราซิลสมัยก่อนนิยมใช้ต้มเป็นยารักษาโรค ส่วนดอกของเขาสามารถเก็บมาต้มจิ้มน้ำพริกกินได้ ส่วนผลก็สามารถนำมาทานแบบผลไม้ได้เช่นกัน รสชาติหวานอร่อย หอม แตกต่างจากแก้วมังกร
จามาคารู ไม่ออกผล ทำอย่างไร?
ก่อนที่กระบองเพชรจะออกผล สิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึงก็คือ การทำให้กระบองเพชรออกดอกก่อน ซึ่งต้องดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธี และเมื่อเขาออกดอกแล้ว บางทีก็ร่วงลงพื้นไม่ติดผลต่อ สิ่งนี้ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับคนอยากกินลูก เคล็ดลับก็คือ การผสมเกสรกระบองเพชรจากต้นในสกุลเดียวกัน เขาก็สามารถติดผลได้ตั้งแต่อายุ 2 ปีเลยล่ะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราปลูกพันธุ์หนามกุด ก็ให้เอาดอกของสายพันธุ์หนามแหลมมาผสม
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์ กระบองเพชรชนิดนี้ก็คล้ายกับชนิดอื่น ส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีการปลูกตอเป็นหลัก ค่อนข้างคล้ายคลึงกับการปักชำที่เราทำกับต้นไม้อื่น ๆ นั่นแหละ ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับวิธีการขยายพันธุ์จามาคารูกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.ดินใบก้ามปู ผสมกับกาบมะพร้าวสับ
2.ตอหรือหน่อจามาคารู
3.ยาเร่งราก
4.กระถาง หรือถุงเพาะชำตามสะดวก
วิธีการปักชำตอ
1.เลือดตัดตอหรือหน่อที่สมบูรณ์ออกมาไว้ก่อน
2.จากนั้นใช้น้ำยาเร่งราก เพื่อกระตุ้นรากให้ออกมาอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3.จากนั้นนำตอไปวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ให้เขาแห้งสักประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนลงปลูก
4.ในระหว่างนั้นเราก็จะทำการผสมดินรอ โดยมีส่วนผสมอย่างที่ได้เตรียมเอาไว้ข้างต้นนั่นก็คือ ดินใบก้ามปูผสมกาบมะพร้าวสับเล็กน้อยใส่ลงไปในถุงเพาะชำ
5.เมื่ออายุครบสัปดาห์แล้วเราก็นำตอจามาคารูมาปักลงในดิน ความลึกสักประมาณ 5 เซนติเมตร
6.จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มชื้นเพียงวันละ 1 ครั้ง ในช่วงที่เขายังไม่ติดรากให้วางถุงเพาะชำเอาไว้ในที่ร่ม อาจมีแสงบ้างรำไร แต่อย่าให้โดนแสงแดดจัด เนื่องจากจะทำให้ตอเหี่ยว ไหม้ ก่อนเกิดรากได้
7.เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไปสักประมาณ 2-3 สัปดาห์ รากของเขาก็จะเริ่มงอกออกมาติดดิน เราจึงจะสามารถนำไปปลูกยังพื้นที่ที่ต้องการต่อไป
การปลูก / ดูแล
เจ้าแคคตัสไร้หนามชนิดนี้ สามารถเติบโตได้ในดินหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะดินร่วนปนทรายแบบบ้านเรา เมื่อต้นเริ่มแข็งแรงจะต้องนำเอาเจ้าจามาคารูนี้ไปปลูกในพื้นที่ที่แดดส่องถึงตลอดทั้งวัน หรือจะส่องถึงเพียง 60% ต่อวันก็ได้ ไม่ต้องรดน้ำบ่อยเนื่องจากเขาไม่ค่อยชอบน้ำ หากจะให้ดีปลูกเอาไว้ในพื้นที่โคกจะดูแลง่ายกว่าพื้นที่ปกติ
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “จามาคารู” กระบองเพชรผลกินได้หน้าตาสวยงาม ที่เรามักเห็นเขาอยู่ตามบ้าน ร้านค้า หรือคาเฟ่ ช่วยเป็นไม้ประดับตกแต่ง เติมพื้นที่สีเขียวเพิ่มความสดชื่น หากเพื่อน ๆ คือคนหนึ่งที่กำลังสนใจเจ้าไม้หนามต้นยักษ์สุดน่ารักชนิดนี้อยู่ ก็อย่าได้พลาดลองซื้อหามาปลูกเด็ดขาด!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net