หากกล่าวถึง การบูร ก็เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนน่าจะต้องจินตนาการไปถึงผงเกล็ดสีขาว มีกลิ่นหอมที่ชอบวางอยู่ตามห้องน้ำหรือตู้เสื้อผ้าเพื่อเพิ่มความสดชื่น กลิ่นไม่อับ ทราบหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วเกล็ดเหล่านั้นมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมันน่าอัศจรรย์และเต็มไปด้วยประโยชน์และเรื่องราวอันน่าสนใจหลากหลายประการเลยทีเดียว
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับการบูร ต้นไม้ สร้างรายได้ น่าสนใจอย่างไร?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum camphora
ชื่อวงศ์ : Lauraceae (วงศ์อบเชย)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Camphor Tree
ชื่อท้องถิ่น : การะบูน, อบเชยญวน, พรมเส็ง
การบูร เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ อันมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และในเวลาต่อมาได้แพร่กระจายไปยังภูมิภาคแถบเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพบได้มากในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับในประเทศไทยเราสามารถพบเจอกับเจ้าต้นไม้ใหญ่น่าปลูกนี้ได้ทุกหนแห่ง
เกล็ดสีขาวของการบูรมาจากไหน?
เกล็ดสีขาว มีกลิ่นหอมที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ก่อนอื่นอยากให้เพื่อน ๆ ทำความเข้าใจก่อนว่า มีทั้งแบบที่สังเคราะห์มาจากน้ำมันสน ซึ่งพบได้มากกว่าแบบที่มาจากต้นแท้ ๆ เราจะพบเกล็ดสีขาว มีกลิ่นหอมฉุน สดชื่นนี้ได้จากตามรอยแตกของเนื้อไม้ด้านใน ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการเอาเจ้าเกล็ดนี้ออกมาคือเราจะต้องตัดต้นไม้ ดังนั้นมันจึงมีน้อย และหากได้ยากขึ้นทุกวัน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : อย่างที่บอกไปแล้วว่าเขาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่อาจมีความสูงถึง 30 เมตรกันเลยทีเดียว ผิวเปลือกไม้แตกหยาบ เป็นสีน้ำตาล ส่วนปลายกิ่งผิวเรียบ ออกสีเขียว เปลือกไม้ของเขาก็มีกลิ่นหอมเช่นกัน รวมถึงทุกส่วนของต้นนี้ด้วย
ใบ : การบูรเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่จะออกใบเรียงสลับกัน ลักษณะใบเป็นรูปรีแกมไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบป้าน ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบเหนียว สีเขียวเข้ม หากนำใบมาขยี้จะได้กลิ่นหอม
ดอก : ดอกของเขามีสีขาวอมเหลืองหรือเขียว จะออกแบบเป็นช่อแตกแขนง กระจุกตามง่ามใบ โดยรวมแล้วมี 6 กลีบดอก
ผล : ผลเจ้าต้นนี้ออกเป็นรูปกลมหรือไข่ขนาดเล็ก เนื้อด้านในเยอะ เมื่อแก่เต็มที่ก็จะเปลี่ยนเป็นสีดำ
ประโยชน์
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าการบูร นั้นมีกลิ่นหอม เขาเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาอันน่าสนใจดังต่อไปนี้
– ช่วยต้านเชื่อแบคทีเรีย
– น้ำมันหอมระเหยของเขาจะช่วยในการกระตุ้นความรู้สึกทำให้ปลอดโปร่ง บรรเทาอาการปวดและวิงเวียนศีรษะ
– กลิ่นฉุนช่วยไล่ยุงในห้องและช่วยดับกลิ่นของตู้เสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี
– หากนำเกล็ดสีขาวมาผสมกับขี้ผึ้งจะช่วยในเรื่องการถอนพิษอักเสบเรื้อรัง ปวดผิวหนังและอื่น ๆ
ข้อควรระวัง
และถึงแม้ว่าเจ้าต้นนี้จะเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังเอาไว้อยู่บ้าง อย่างเช่นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดออกมาแล้วมีสีเหลืองหรือน้ำตาลก็ห้ามใช้ เพราะมีความเป็นพิษอยู่ด้วย และถ้าหากรับประทานการบูรเกิน 7 กรัมขึ้นไปก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
การขยายพันธุ์
หากเพื่อน ๆ ต้องการเพิ่มประชากรการบูร ความจริงแล้วสามารถทำได้เฉกเช่นเดียวกันกับการขยายพันธุ์ต้นไม้ใหญ่ชนิดอื่น ๆ โดยหลักแล้วจะนิยมทำกันอยู่ประมาณ 3 วิธีการด้วยกัน ได้แก่ เพาะเมล็ด ตอน และปักชำกิ่ง และในวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับวิธีการตอนกิ่งต้นไม้แบบง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง!!
อุปกรณ์ที่ใช้
– ตุ้มตอนกิ่ง (หาซื้อจากช่องทางออนไลน์ได้เลยง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาผสมเองให้ยุ่งยาก)
– มีดคัตเตอร์
– กะปิ
– แปรงทาสี
– เคเบิ้ลไทร์
ขั้นตอนวิธีการตอนกิ่งต้นไม้
1.ใช้สายตาอันเฉียบแหลมคัดเลือกกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
2.จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มาควั่นกิ่ง หรือกล่าวคือลอกเปลือกและเนื้อของเปลือกออกจนกระทั่งเห็นเนื้อไม้สีขาวด้านใน ด้วยความยาวประมาณ 1 นิ้ว
3.ใช้กะปิผสมน้ำ ใช้แปรงจุ่มเพื่อทาไปตรงบริเวณแผลที่ควั่นเอาไว้ เพื่อเร่งรากให้ออกอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
4.จากนั้นก็ได้เวลานำตุ้มออกมา แล้วกรีดใบมีดคัตเตอร์ลงไปที่ตรงกลางเป็นแนวยาว จากนั้นให้นำไปหุ้มกิ่งบริเวณที่ควั่นเอาไว้
5.ใช้เคเบิ้ลไทร์รัดทั้งหมดเข้าด้วยกันให้แน่น ทั้งหัวและหางของตุ้ม
6.รอจนกว่าจะมั่นใจว่าเขาติดรากแล้วจึงนำไปปลูกลงในถุงเพาะหรือกระถางเพื่อเป็นการอนุบาล
การปลูก / ดูแล
การบูรเป็นไม้ที่โตไว ดูแลง่าย แต่ทั้งนี้ต้องปลูกเอาไว้อย่างถูกที่ถูกทาง เขาเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนทั่วไป แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดตลอดทั้งวันด้วย การรดน้ำไม่ยุ่งยาก ให้เขาเพียง 3-4 วันต่อสัปดาห์ก็อยู่รอดได้สบาย ๆ
ราคาต้นไม้และผลผลิต
สำหรับราคาของเกล็ดการบูรแท้จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท ส่วนถ้าปลูกต้นกล้าเอาไว้ขายก็ขึ้นอยู่กับขนาดซึ่งอาจมีราคาถึงต้นละ 250 บาทเลยทีเดียว
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ ต้นการบูร โดยสังเขปที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก คงได้เห็นกันไปแล้วใช่ไหมคะว่าเขาเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์และน่าสนใจมากแค่ไหน แต่ถ้าเพื่อน ๆ คำนึงถึงรายได้บางทีก็อาจจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไรนัก ส่วนถ้าปลูกเอาไว้ดูเล่น เป็นไม้ประดับหายาก ไม่แน่ในอนาคตอาจมีอะไรดี ๆ รออยู่ก็ได้นะ!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net