พรมญี่ปุ่น คงเป็นหนึ่งในต้นไม้แปลก ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่เคยเห็น แต่ผู้ที่อยู่ในวงการคนรักไม้ประดับก็น่าจะพอรู้จัก พรมญี่ปุ่นถือว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู ใบสวย ออกดอกสวย เลี้ยงเอาไว้ดีต่อใจอย่างแน่นอน หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังสนใจตามหาสายพันธุ์น่าปลูก เกร็ดความรู้ที่เรานำมาฝากในวันนี้อาจมีประโยชน์ก็ได้นะ!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “พรมญี่ปุ่น” ไม้ประดับน่าปลูก มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Episcia cupreata (Hook.) Hanst
ชื่อวงศ์ : Gesneriaceae (วงศ์ว่านไก่แดง)
ชื่อภาษาอังกฤษอื่น : Carpet Plant/ Episcia/ Frame Violet
ชื่อไทยอื่น : พรมกำมะหยี่
พรมญี่ปุ่น เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปีอันมีถิ่นกำเนิดมาจากทางแถบอเมริกาใต้ และยังเป็นพืชท้องถิ่นของประเทศเวเนซุเอลาและบราซิลอีกด้วย ไม่ได้มีถิ่นฐานบ้านเกิดจากญี่ปุ่นแต่อย่างใด นิยมปลูกไว้คลุมดินให้เขาเป็นไม้ประดับสวยงาม ใบสวยออกดอกสีสันสดใสแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ขนาดต้นไม่ใหญ่มาก ปลูกในบ้านได้สบาย ๆ มีหลากหลายไอเดียอย่างมาก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : พรมญี่ปุ่น เป็นไม้ต้นเตี้ย อายุหลายปี ทุกสัดส่วนอวบน้ำและมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ ทั้งใบและต้นทอดยาวไปตามพื้นเองได้ในระยะ 30 – 60 เซนติเมตร โดยประมาณ
ใบ : ใบนั้นถือเป็นไฮไลท์ของพรมญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว เขาจะออกเป็นใบเดี่ยวตรงข้ามกัน รูปไข่แกมรี แผ่นใบหยิกย่น โคนสอบ ปลายแหลม ขอบใบหยักเล็กน้อย เนื้อใบไม่เรียบ เต็มไปด้วยลวดลายและสีสันที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์เช่น บางชนิดมีสีเงินแวววาว บางชนิดมีสีชมพู สีน้ำตาลเข้ม หากนำมาปลูกรวมในกระถางเดียวกันก็สวยงามไปอีกแบบ ใบแลดูนุ่มดุจกำมะหยี่
ดอก : ดอกพรมกำมะหยี่ มักออกเป็นดอกเดี่ยวแบบสมบูรณ์เพศ แต่กระจุกราว ๆ 2-4 ดอก ที่บริเวณซอกใบ หรือปลายยอด แต่ละดอกกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก สีสันก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์เช่นกัน สียอดนิยมที่เรามักเห็นกันก็อย่างเช่น ดอกสีแดง ดอกสีชมพู อาจมีดอกลายด่างร่วมด้วยในบางชนิด
ผล : เห็นต้นเล็ก ๆ แบบนี้แต่เขาก็มีผลเหมือนกันนะ ขนาดเล็ก เนื้อนุ่ม มีเมล็ดด้านในจำนวนมากโข
ประโยชน์
ประโยชน์ของเจ้าต้นนี้หลัก ๆ ก็มีเพียงแค่การปลูกเอาไว้เพื่อประดับตกแต่งสวยงามเท่านั้น ไม่มีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ แม้กระทั่งด้านความเชื่อ
แนะนำ สายพันธุ์พรมญี่ปุ่น
– Silver Skies สายพันธุ์นี้โดดเด่นที่ใบเป็นหลัก ใบของเขาจะมีสีเขียวอมสีเงินขอบสีน้ำตาลดำ ออกดอกสีแดงสวยงาม
– Chocolate Velvet ลักษณะสีสันใบของสายพันธุ์นี้เป็นไปตามชื่อของเขาเลย สีใบมีสีน้ำเงินเข้มอมช็อกโกแลต เส้นกลางใบใหญ่ ดอกไม้สีม่วงสวยงาม
– Chocolate Cream นี่คืออีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับคนรักสีทึบที่เราอยากแนะนำ บางครั้งก็ถูกเรียกว่า Chocolate Pink ใบเขาสีคล้ายกับช็อกโกแลต เนื้อใบมัน สั้น ออกดอกสีชมพู
– Cleopatra สายพันธุ์นี้ได้ขึ้นว่าเป็นพรมญี่ปุ่นที่เลี้ยงยากมาก ๆ ความน่ารักก็คือพื้นใบเขามีสีขาวแบบเงิน ส่วนขอบใบสีชมพูเด่นอมเขียว ออกดอกสีแดง
– Emerald Velvet สายพันธุ์นี้นุ่มฟู มีความกำมะหยี่มากที่สุด ใบของเขาจะมีสีเขียวสด อาจมีลวดลายอื่นเข้ามาแซมบ้างแต่ไม่มาก ออกดอกสีม่วง
การขยายพันธุ์
เมื่อรู้จักกับสายพันธุ์ที่น่าสนใจแล้วของพรมญี่ปุ่นแล้วการขยายพันธุ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน แต่วิธีที่ง่ายที่สุดซึ่งเราอยากแนะนำเพื่อน ๆ ก็คือ การขยายพันธุ์โดยการปักชำไหลบนกระถาง เป็นวิธีการแสนง่ายดาย ทำได้ดังต่อไปนี้
อุปกรณ์
1.ขุยมะพร้าวละเอียดแช่น้ำ
2.กระถางเจาะรูที่ก้น ขนาดเล็ก
เมื่อเรามีอุปกรณ์และต้นแม่อยู่แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องใช้กรรไกรตัดไหลของเขาออกมาประมาณพุ่มหนึ่ง แล้วนำไหลนั้นมาเสียบลงในกระถางที่ใส่ขุยมะพร้าวเอาไว้ ไม่ต้องยุ่งยากดูแลให้วุ่นวาย เพียงแค่รดน้ำทุกวันให้ขุยมะพร้าวนั้นชุ่มชื้นก็พอ รอเวลาสัก 1 สัปดาห์เขาก็จะติดราก จนกระทั่งเราแน่ใจว่าเขาแข็งแรงพอแล้วค่อยนำไปปลูก
การปลูก / ดูแล
พรมญี่ปุ่นเป็นต้นไม้ดูแลง่าย ควรจัดเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ไม่ถูกแดดจัด แต่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรปลูกเอาไว้ในห้องสักเท่าไรนัก และควรปลูกลงบนดินโดยตรง เนื่องจากดินร่วนไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำ ทั้งนี้สามารถทดแทนได้ด้วยกาบมะพร้าวสับหยาบ ส่วนเรื่องน้ำ นิสัยของเขาจะชอบความชื้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ความแฉะ น้ำท่วมขัง เพราะหากเป็นเช่นนั้นรากเน่าแน่นอน ฤดูฝนควรระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้เขาก็ยังเป็นขวัญใจศัตรูพืชอย่าง “ด้วงเต่าแตง” พวกมันอาจกัดกินจนต้นตาย อย่าลืมป้องกันด้วยสารกำจัดแมลงทุก ๆ สัปดาห์
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “พรมญี่ปุ่น” โดยสังเขปที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากทุกคน โดยเฉพาะใครที่กำลังสนใจหาพันธุ์ไม้สวยงาม น่ารัก นุ่มนิ่ม ปลูกไว้ดูเล่นสวยงาม ประดับสวน ตกแต่งออกแนวป่าดิบชื้นก็สวยไปอีกแบบ เพื่อน ๆ ก็น่าจะเห็นแล้วว่าเขาน่าสนใจอย่างไร ปลูก ดูแลยากไหม บอกเลยว่าใคร ๆ เลี้ยงได้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net