เรื่องต้องรู้ก่อนปลูก “เฟิร์นเงิน” ฟอกอากาศ ดูแลอย่างไรให้เติบโตสวยงาม  

เขาว่า “เฟิร์นเงิน” นั้นแตกต่างจากเฟิร์นทั่วไป เห็นชื่อเป็นมงคลแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากปลูกไว้ อีกทั้งสีของใบยังสวยงาม มีมิติ มีลูกเล่น สำหรับคนที่กำลังสนใจเฟิร์นชนิดนี้อยู่ คุณมาถูกทางแล้วล่ะ เพราะวันนี้ Plantlover ได้รวบรวมเอาสาระ ความรู้ เกี่ยวกับต้นไม้ชนิดนี้มาฝากแบบจัดเต็ม และต่อไปนี้คือสิ่งที่คนอยากปลูกต้องรู้  

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “เฟิร์นเงิน” เฟิร์นใบสวย น่าปลูก คนเล่นไม้ประดับต้องมี!! 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pleris ensiformis ‘Victoriae’ 

ชื่อภาษาอังกฤษ : Victorian Brake Fern, Silver lace fern, Sword brake fern และ Slender brake fern

วงศ์ : Pteridaceae 

ชื่อท้องถิ่น : เฟินเงิน, เฟินราชินีเงิน, เฟินแซ่เงิน, เฟิร์นเงินใบเขียว, เฟิ่งกวนเฉ่า, เฟิงเหว่ยเฉ่า และอีกมากมาย 

เฟิร์นเงิน ไม้ล้มลุกในตระกูลเฟิร์น มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศไทยของเราเองนี่ล่ะ มักพบได้ตามริมห้วย ริมน้ำตก ซอกหิน ป่าดิบชื้น อย่างที่เราได้เห็นตามรูปจะพบว่า เฟิร์นชนิดนี้มีสีสันที่แตกต่างออกไปจากเพื่อนฝูงตระกูลเดียวกัน แต่ก็มีวิธีการเลี้ยงดูที่คล้ายคลึงกัน มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองและยังมีประโยชน์อีกด้วย 

ความเชื่อ 

เฟิร์นเงิน ถือว่าเป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง อันเนื่องมาจากลักษณะของเขาที่มีสีสันคล้ายกับเงิน คนไทยจึงถือว่ามีความพิเศษ ช่วยเสริมโชคลาภเรื่องทรัพย์สมบัติ ให้เงินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และสามารถเก็บออมได้ ทั้งนี้โปรดใช้วิจารณญาณเนื่องจากเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น มีติดบ้านไว้แล้วก็อย่าลืมลงมือทำ เพื่อความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป 

ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ 

ราก : รากมีลักษณะกลม สั้น และมีเกล็ด 

ต้น : อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า เฟิร์นชนิดนี้เป็นไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี ต้นขึ้นเป็นกอ สูงตั้งแต่ 15-60 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนของก้านจะแทงขึ้นมาจากรากใต้ดินมีจะยาว 5-20 เซนติเมตรโดยประมาณ 

ใบ : เฟิร์นส่วนใหญ่เน้นความสวยงามที่ใบเป็นหลัก ซึ่งเฟิร์นชนิดนี้ก็ไม่ต่างกัน ใบจะมี 2 แบบด้วยกันก็คือ ใบแบบไม่สร้างสปอร์มีลักษณะเป็นใบประกอบขนนกชั้นเดียว และใบแบบประกอบขนนกสองชั้นมีใบย่อยเรียงตรงข้ามกัน 3-4 คู่ ปลายใบแหลม คลี่ แผ่นใบบางเช่นเดียวกับกระดาษ ส่วนเส้นใบนูนเป็นสัน กรอบใบเป็นสีเขียว ส่วนด้านในมีสีคล้ายกับเงิน 

ประโยชน์ 

เฟิร์น ชนิดนี้เป็นไม้ฟอกอากาศ ใช้ปลูกเอาไว้ในห้องได้ เหมาะสำหรับตั้งประดับบนโต๊ะทำงาน ตามมุมต่าง ๆ ของออฟฟิศ หลายคนไม่ทราบว่าเขามีสรรพคุณทางยา เป็นสมุนไพรที่น่าสนใจ การแพทย์แผนจีนนิยมนำมารักษาโรคมากมาย แม้จะมีรสขมหน่อย มีพิษเล็กน้อยแต่มีฤทธิ์เย็น ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็น แก้ร้อนใน ขับน้ำชื้นในร่างกาย รักษาอาการอักเสบ ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการตกเลือดของสตรี รักษาโรคผิวหนัง ผดผื่นคัน และที่กล่าวมาเป็นเพียงสรรพคุณเบื้องต้นของเขาเท่านั้น 

การขยายพันธุ์ 

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เฟิร์นเงินนั้นสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยกัน 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ การแยกกอและการเพาะสปอร์ แต่เราจะบอกว่า การเพาะสปอร์นั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยากหน่อย และมีความเสี่ยงที่เฟิร์นจะกลายพันธุ์จนกระทั่งเราอาจได้เป็นผู้ให้กำเนิดเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่ของโลก ดังนั้นแล้วขอแนะนำเป็นวิธีการแยกกอจะดีกว่า 

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแยกกอเฟิร์น 

– กาบมะพร้าว (แช่น้ำให้เปียกชุ่ม) 

– กาบมะพร้าวสับละเอียด (แช่น้ำให้เปียกชุ่ม) 

  – มีดคม ๆ 

– กระถางขนาดพอเหมาะ มีรูระบายน้ำ 

เมื่อได้อุปกรณ์ครบแล้ว ให้เรานำกาบมะพร้าวเปียกลงไปในกระถางก่อน จากนั้นนำเฟิร์นกอใหญ่ที่พร้อมต่อการแยกกอออกมาจากกระถางเก่า ใช้มีดคม ๆ ตัดแยกกอใดกอหนึ่งออกมา สามารถทำได้เลยไม่ต้องกลัวว่ารากจะขาดและตาย เสร็จสรรพวางกอที่เราตัดแล้วลงไปในกระถาง จัดให้อยู่ตรงกลางและนำกาบมะพร้าวสับละเอียดลงไปล็อคลำต้นเอาไว้ ใช้น้ำหนักมือกดลงไปเล็กน้อยให้ขุยมะพร้าวแน่นขึ้นก็เป็นอันเสร็จสิ้น นำกระถางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร 

นอกจากการปลูกเฟิร์นด้วยกาบมะพร้าวสับแล้ว ยังสามารถปลูกในดินได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นดินที่มีรูพรุนหรือผสมพวกปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก 

การดูแล 

สำหรับการดูแล แนะนำให้เพื่อน ๆ ใช้ปุ๋ยละลายช้าใส่ลงไปเพื่อบำรุงต้นไม้ ซึ่งปุ๋ยชนิดนี้จะอยู่ในดินได้นานพอสมควร ตามด้วยการรดน้ำวันละ 1 ครั้ง แต่ก็สามารถรดน้ำแบบวันเว้นวันได้เช่นกันหากไม่มีเวลาจริง ๆ ถึงแม้เขาจะชอบความชื้นแต่ก็ยังพอทนให้ดินแห้งได้สักพักหนึ่ง ทั้งนี้ต้องระวังไม่ให้เฟิร์นสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเพราะอาจทำให้ใบเหี่ยว และไม่ควรให้เขาตากลมมากเกินไปจะทำให้ใบแห้ง 

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ “เฟิร์นเงิน” ที่เรานำมาฝาก ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณทุกคนต้องรู้เอาไว้ก่อนนำเฟิร์นมาปลูก ส่วนการขยายพันธุ์และการดูแลสามารถนำไปใช้กับเฟิร์นชนิดอื่นได้เช่นกัน เพราะอยู่ในตระกูลเดียวกัน ไม่แตกต่างกันสักเท่าไร เมื่อทราบรายละเอียดเหล่านี้แล้ว เพื่อน ๆ คงตัดสินใจได้แล้วล่ะว่า ตัวเองเหมาะที่จะเลี้ยงดูเขาไหม? ที่สำคัญยังมีความเชื่อในเรื่องการเสริมโชคลาภเงินทองให้กับผู้ปลูกอีกด้วย สุดท้ายเราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ