หากกล่าวถึงไม้ประดับขนาดเล็กอย่าง Cactus หลายคนก็น่าจะรู้จักกับหน้าตาน่ารักเหล่านี้กันมาบ้าง ซึ่งเขามีหลากหลายสายพันธุ์ทั้งที่คนนิยมและหายาก วันนี้ Plantlover ก็มีอีกหนึ่งไม้อวบน้ำน่ารัก น่าสนใจอย่าง “เก๋งจีน” มาให้เพื่อน ๆ ทำความรู้จัก น้องมีดอกสวยงามแปลกตา เลี้ยงไม่ยากอย่างที่คิด แถมโตวัย แต่จะต้องอาศัยการดูแลอย่างถูกวิธี
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “เก๋งจีน” แคคตัสดอกสวยงาม ที่คุณอาจหลงรักจนหมดใจ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Edithcolea grandis N.E.Br., Orbea dummeri (N.E.Br.) Bruyns .
ชื่อภาษาอังกฤษ : Caralluma hesperidium
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
สำหรับ “เก๋งจีน” เขาเป็นไม้ที่ค่อนข้างมีความก้ำกึ่งระหว่างพืชอวบน้ำและกระบองเพชร ทว่ารูปร่างหน้าตาอาจไม่น่ารักเหมือนพวกกุหลาบหิน เนื่องจากติดไปทางดุดันเสียมากกว่า มันสามารถแตกขยายออกไปได้เรื่อย ๆ ส่วนสายพันธุ์ของเขาแท้จริงแล้วเขามีมากกว่า 30 – 60 ชนิด เลยทีเดียว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : ต้นของเขาคล้ายคลึงกับกระบองเพชรอยู่พอสมควร ลักษณะมีหนามแหลมขึ้นโดยรอบต้นสีเขียวสด หากสูงสุด ๆ ในชีวิตเมื่อไหร่ ต้นจะโน้มตัวลงตามแรงโน้มถ่วง บางสายพันธุ์จะมีลายด่างอยู่ตามลำต้นร่วมด้วย
ดอก : ในส่วนดอกนั้นถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเก๋งจีนเลยล่ะ หากมองผิวเผินก็คงไม่ต่างจากดอกกระบองเพชรทั่วไป แต่ถ้ามาเจาะลึกในรายละเอียด ก็ถือว่าน่าสนใจพอสมควร มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว ส่วนใหญ่มักงอกบริเวณโคนต้น มีด้วยกันทั้งหมด 5 กลีบ ดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดทรงกรวย แต่บางสายพันธุ์ก็มีมากกว่า 5 กลีบ โดยรวมแล้วดอกของเขามีความคล้ายระฆัง บางชนิดมีลวดลายแปลกตา หลากหลายสีสัน อาทิลายกำมะหยี่ สีเหลือง แดง ส้ม บางสายพันธุ์มีกลิ่นฉุน
การขายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์เขาไม่ต่างจาก Cactus ทั่ว ๆ เลย หลัก ๆ สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่การแยกหน่อและผสมเกสร
ขยายพันธุ์แบบแยกหน่อ : วิธีนี้ทำง่ายกว่าที่คิด แต่ต้องรอให้หน่อของเขามีขนาดสักประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วค่อยเด็ดไปปักในที่ใหม่ หากจะให้ดีแนะนำใช้ดินแคคตัสผสมดินภูเขาไฟ หรือใช้ดินที่มีความโปร่ง ระบายน้ำดี ช่วงแรก ๆ อาจจะต้องรดน้ำเพื่อล่อรากให้ออกมา สักสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง และวางไว้ในที่ร่ม มีแดดรำไร
ขยายพันธุ์แบบผสมเกสร : วิธีนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เราจะใช้หลักการเรื่องกลิ่นฉุนของเก๋งจีนเพื่อล่อแมลงมาตอมและผสมเกสรให้เอง หรือจะผสมเกสรข้ามต้นเองเลยก็ได้เช่นกัน จากนั้นก็จะได้มาซึ่งเมล็ดพันธุ์อันเปี่ยมคุณภาพ เพื่อปลูกในเวลาถัดไป
การปลูกและการดูแล
เมื่อเราได้ต้นติดรากมาแล้ว การปลูกควรวางเขาเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแดดรำไรตลอดทั้งวัน ห้ามวางไว้ในบริเวณที่แดดจัดจ้านเพราะอาจทำให้ต้นสุก เกิดรอยไหม้จนตายลง และห้ามเป็นมุมอับ มุมมืด หากเขาได้รับแสงอย่างเพียงพอจะเจริญเติบโตไว แตกกิ่งเร็วเป็นพิเศษ ทั้งนี้ควรเลือกกระถางปลูกให้ใหญ่สักหน่อย จะได้เหมาะกับขนาดของเขา ส่วนการรดน้ำใช้สูตร “ห้ามแฉะ” เพราะจะทำให้ต้นไม้เน่าจนเกิดเชื้อรา ให้รดน้ำก็ต่อเมื่อดินแห้งเท่านั้น อาจรดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็ได้เช่นกัน
แนะนำสายพันธุ์
อย่างที่เราทราบกันดีว่าไม้ประดับชนิดนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ วันนี้เราจะมาแนะนำว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้างนะที่คนนิยมเลี้ยง
สายพันธุ์พรมเปอร์เซีย สำหรับสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเอธิโอเปีย เยเมน แทนซาเนียและโซคอตรา ดอกของเขามีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับลำต้น ลวดลายสวยงาม มีขนปุกปุยคล้ายพรม คนนิยมมากที่สุด
สายพันธุ์ดอกเขียว หรือ “ออเบีย ดัมเมรี” ถิ่นกำเนิดส่วนใหญ่ของเขาจะอยู่ทางคองโกตะวันออก ไปจนถึงแอฟริกาเขตร้อนตะวันออก ส่วนใหญ่มักมีสีเขียวอ่อนอมเหลือง เขียวแก่ เขียวมะกอก กลีบเรียวแหลม ไม่อ้วนเหมือนพรมเปอร์เซีย แถมมีขนสีขาวเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาน่ารักไปอีกแบบ
สายพันธุ์ Stapelianthus decaryi สายพันธุ์นี้ต้นของเขาเหมือนกับกระบองเพชรไม่มีผิด ต้นไม่อวบน้ำมาก ดอก 5 แฉกรูปดาว ปลายม้วนเล็กน้อย ส่วนใหญ่มักมีสีเหลืองครีม
สายพันธุ์ Stapelianthus Pilosus หรือหนอนชาเขียว สำหรับเจ้าหนอนความโดดเด่นจะอยู่ที่ต้นเสียมากกว่า ซึ่งต้นของเขามีลักษณะคล้ายตัวหนอน สีเขียว และมีขนแข็งเต็มไปหมด ดอกค่อนข้างเล็ก กลีบอ้วน มีลายจุดน่ารัก น่าเอ็นดูที่สุด
สายพันธุ์ Orbea Caudata ความเจ๋งของเขาจะอยู่ที่ดอกเป็นหลัก กลีบ 5 แฉกของเขา มีปลายยาวเป็นพิเศษ เหมือนปลาดาวมีหางตวัดงอไปมา ใต้ดอกมีขนสีแดง
สายพันธุ์ Duvalia sulcata สำหรับน้องคนนี้ ลำต้นของเขาเป็นสีเขียว ด่างขาวกระจายสวยงาม หนามแหลมคม กลีบคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ สีน้ำตาลอมแดง มีขนใต้ดอก
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “เก๋งจีน” ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากทุกท่าน ทั้งเกร็ดความรู้ การปลูก การดูแล รวมถึงสายพันธุ์แนะนำที่คุณอาจชื่นชอบ ส่วนตัวเราคิดว่าเขาเป็นไม้เริ่มต้นที่เหมาะสำหรับคนอยากลองเลี้ยงพืชพรรณ เพราะดูแลง่าย ไม่ต้องใส่ใจมาก หากวางเอาไว้ถูกที่ทาง เชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะถูกใจ สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
