หากว่าคุณกำลังตามหาไม้เลื้อยดอกสีแดงสวย มีสรรพคุณทางยา “เถาขยัน” หรือ ย่านางแดง จัดว่าเป็นหนึ่งในสมุนไพรอันน่าสนใจ ปลูกเอาไว้กินเป็นผัก มีประโยชน์มากกว่าความสวยงาม แถมยังมองแล้วเพลินตา ถ้ามีติดบ้านเอาไว้อุ่นใจแน่นอน ใครกำลังสนใจเจ้าต้นไม้นี้อยู่ อยากมีไว้ในครอบครอง ต้องปลูกเลี้ยงและดูแลอย่างถูกวิธีเพื่อผลผลิตอันงดงาม ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับเขาให้มากยิ่งขึ้นกันเลยดีกว่า
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “เถาขยัน” หรือย่านางแดง สมุนไพรมากประโยชน์ ปลูกแบบนี้!
เถาขยัน ชื่อนี้มีที่มาจากความขยันแทงยอดขึ้นใหม่ เพราะยิ่งตัดแต่ง ยิ่งแตกยอดเก่งเกินหน้าเกินตาไม้เลื้อยอื่น ๆ เดิมมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทยของเราเอง มักขึ้นอยู่ตามป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ หรือป่าแดงตามภาคเหนือ ภาคกลาง ตลอดไปจนถึงภาคอีสาน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถนำมาปลูกตามบ้านนอกป่าได้เป็นอย่างดี เป็นไม้เลื้อยดอกสวย โตไว ประโยชน์ใช้สอยมาก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lysiphyllum strychnifolium (Craib) A. Schmitz.
ชื่อวงศ์ : Fabaceae (วงศ์ถั่ว)
ชื่อสามัญ : –
ชื่ออื่น : ย่านางแดง, เครือขยัน (ภาคเหนือ), สยาน (ลำปาง, ตาก) และหญ้านางแดง (ภาคอีสาน)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : มีลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อยอายุหลายปี สามารถเลื้อยทอดยาวได้ในระยะทางประมาณ 5 เมตร เปลือกเถาสีเทาอมน้ำตาลแดง ค่อนข้างเรียบ ทรงแบน เป็นร่องตรงกลาง ส่วนเถาแก่จัดรูปทรงกลม มีมือสองแฉกม้วนยื่นออกไปทำหน้าที่ยึดเกาะกับวัสดุต่าง ๆ
ใบ : ออกใบเดี่ยวเรียงสลับกันไปทั่วทั้งกิ่ง ใบรูปหอก โคนใบมน ปลายใบแหลมมีติ่ง กลางใบเว้าลงชัดเจน ขอบใบเรียบขนานกัน ผิวใบแก่สีเขียวเป็นมัน ส่วนใบอ่อนใกล้ยอดสีน้ำตาลอมแดง ขนาดใบกว้าง 3-7 เซนติเมตร และยาว 6-12 เซนติเมตรโดยประมาณ ออกใบค่อนข้างดกและทึบ
ดอก : ดอกย่านางแดง ออกแบบเป็นช่อจะอยู่ที่บริเวณปลายกิ่ง ความยาวช่อ 15-100 เซนติเมตรโดยประมาณ ลักษณะช่อโค้ง มีดอกย่อยรูปคล้ายระฆังคว่ำอยู่เป็นจำนวนมาก ในหนึ่งดอกย่อยประกอบไปด้วย 5 กลีบดอกรูปถ้วยสีแดงสด มีเกสรเพศผู้ตั้งแต่ 3-5 ก้าน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน 7 ก้าน ติดเกสรเพศเมียไม่ชัดเจน พบขนสีขาวขึ้นปกคลุมจำนวนมาก มักออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม
ประโยชน์
นอกจากการปลูกเถาขยันในแง่ของการเป็นไม้ประดับ ไม้เลื้อยหลังคา อีกหนึ่งแง่มุมที่เพื่อน ๆ ควรทราบก็คือ เจ้าต้นนี้มีสรรพคุณทางยา เป็นสมุนไพรที่คนสมัยก่อนมักนิยมทานยอดอ่อนเป็นผักจิ้มน้ำพริก หลังจากทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
โดยตัวพืชจะช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง ส่วนใบของเขาความจริงแล้วสามารถนำมาคั้นน้ำทำแกงหน่อไม้ได้เช่นกัน แต่มีรสจืดกว่าย่านางเขียวธรรมดาจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก
นอกจากนี้ข้อมูลของทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรยังระบุว่า สามารถนำใบของเขามาบดแล้วต้มดื่มแบบชา ช่วยลดผมงอก คืนผมดำให้กลับมาหนุ่มอีกครั้งได้ด้วย
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์เถาขยันนั้น สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง หรือง่ายที่สุดก็คือการชำเถา โดยจะเริ่มปลูกลงในกระถางขนาดเล็ก ให้เขาเกี่ยวพันไปตามหลักไม้ก่อนก็ได้ และถ้าหากว่าคุณเป็นมือใหม่หัดปลูก อยากลองขยายจำนวนประชากรเจ้าต้นนี้ สามารถนำวิธีการที่เราแนะนำไปทำตามกันได้ง่าย ๆ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– ถุงเพาะชำ
– เถาขยันต้นแม่
– ดินปลูกธรรมดา
– กรรไกรตัดกิ่งหรือมีด
ขั้นตอนการชำเถาย่านาง
1. เริ่มจากการนำดินปลูกบรรจุใส่ถุงเพาะชำเอาไว้ประมาณครึ่งถุง
2. จากนั้นสำรวจหาเถาที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
3. นั้นนำเถาม้วนและขดสัก 1-2 รอบและวางลงไปในถุงเพาะชำที่มีดินอยู่ครึ่งหนึ่ง โดยยังไม่ตัดเถานั้นออกจากต้นแม่
4. ใช้ดินกลบเอาไว้ แล้วรดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นเล็กน้อย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเถาขยันของเราจะเริ่มงอกรากออกมา
5. เมื่อมั่นใจว่ารากเดินจนแข็งแรงเพียงพอแล้ว ให้เราทำการตัดเถานั้นออกจากต้นแม่ได้เลย
การปลูก/ดูแล
แสงแดด : เจ้าต้นนี้ดูแลค่อนข้างง่าย เป็นไม้เลื้อยทนแดด โดยธรรมชาติมีร่มไม้ใบบังปกคลุมบ้าง แต่ก็ปลูกกลางแจ้งได้เช่นกัน ควรให้เขารับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
ดิน : เน้นดินร่วนระบายน้ำได้เป็นอย่างดี หากเติมอินทรียวัตถุเข้าไปจะช่วยสนับสนุนการเติบโตมากยิ่งขึ้น
น้ำ : ต้องการน้ำปานกลางไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน แต่ถ้าหากมีเวลาแนะนำให้รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเช้าจะดีมาก
การดูแลเพิ่มเติม : เน้นหาไม้ให้เถาขยันเลื้อยพัน หากปลูกในกระถางช่วงแรกแนะนำใช้ไม้หลักปักลงไปใกล้ ๆ กับต้น หรือถ้าหากมีงบประมาณมากหน่อยก็ทำค้างข้าง ๆ แล้วจับกิ่งเขาเลื้อยพันเอาไว้
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับเถาขยัน พืชสมุนไพรพื้นบ้าน มากประโยชน์ ที่เราอยากแนะนำให้ปลูกติดบ้านเอาไว้ กินเป็นผักสดก็มีประโยชน์มากมายเกินคาด หากเพื่อน ๆ กำลังสนใจก็อย่าได้ลังเล อาจหาซื้อยากหน่อย แต่ตามช่องทางออนไลน์มีให้เลือกแน่นอน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net