ถ้าพูดถึงต้นไม้ขนาดกลางยอดนิยม ปลูกตกแต่งสวน ราคาดี ก็อาจจะทำให้ใครหลายคนนึกถึง “แคนา” เพราะนอกจากทรวดทรงอันเย้ายวนใจของเขาแล้ว ก็ยังมีประโยชน์มากมาย ความหมายดี แล้วทำไมต้นไม้ต้นนี้ถึงน่าปลูกน่ะหรือ บอกเลยว่ามีเหตุผลอีกหลายข้อที่คุณอาจยังไม่รู้ ใครกำลังอยากได้ต้นไม้ฟอร์มสวยไว้ในครอบครอง ลองแวะมาศึกษาข้อมูลกันก่อน!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ชวนรู้จักกับ “แคนา” ต้นไม้มงคล กับเรื่องที่คุณอาจยังไม่ทราบ!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dolichandrone serrulata (Wall. ex DC.) Seem.
ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae (วงศ์แคหางค่าง)
ชื่อสามัญ : Trumpet Tree
ชื่ออื่น : แคแน แคฝอย (ภาคเหนือ), แคขาว แคป่า แคเค็ตถวา (เชียงใหม่), แคภูฮ่อ (ลำปาง), แคทราย (นครราชสีมา), แคยาว แคอาว (ปราจีนบุรี), แคยอดดำ (สุราษฎร์ธานี) เป็นต้น
แคนา เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ความสูงตั้งแต่ 10 – 20 เมตรขึ้นไป โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศไปจนถึงประเทศแถบอินโดจีน มักพบได้ตามป่าเบญจพรรณหรือท้องไร่ท้องนาทั่วไป บางครั้งก็ถูกขุดล้อมจากท้องนามาขายเพื่อเป็นต้นไม้แต่งสวน ราคาดีงามเลยทีเดียว
ความเชื่อ
แคนาเป็นไม้มงคล เสริมดวงที่มาพร้อมความเชื่อในเรื่องความเป็นสิริมงคลของชีวิต หากปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้านหรือสวนของใคร ก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต มีคนอุปถัมภ์ ทำมาค้าขายขึ้น เจริญก้าวหน้าในเรื่องการงาน ส่วนคำว่า “แค” ก็พ้องเสียงกับคำว่า “Care” ซึ่งหมายถึงการดูแลเอาใจใส่อีกด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : อย่างที่เพื่อน ๆ ได้ทราบกันไปแล้วว่า แคนานั้นเป็นไม้ยืนต้น ซึ่งลักษณะของต้นค่อนข้างสูง และตั้งตรง เปลือกสีน้ำตาลอมเทาและอาจมีสีดำปะปนบ้าง ผิวสัมผัสของเปลือกไม้มีลักษณะขรุขระ ลอกร่อนเป็นเกล็ดขนาดเล็ก มีเรือนยอดทรงไข่ จะแตกกิ่งก้านสาขาค่อนข้างต่ำ
ใบ : เจ้าต้นนี้เป็นพืชใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ และจะออกใบตรงข้ามกันประมาณ 3 – 5 คู่ ลักษณะใบย่อยรูปทรงรี ปลายใบมน โคนใบเบี้ยว ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวใบสีเขียว มีขนสั้น ๆ ปกคลุมอยู่ และผลัดใบทิ้งเมื่อถึงฤดูกาล
ดอก : เจ้าต้นนี้จะออกดอกเป็นช่อกระจะแบบสั้นที่บริเวณปลายกิ่ง ในแต่ละช่อจะมีดอกย่อยตั้งแต่ 2 – 10 ดอกโดยประมาณ ลักษณะดอกย่อยมีขนาดใหญ่ หากบานแล้วมีรูปลักษณ์คล้ายแตร ปลายดอกแยกออกเป็น 5 แฉก กลีบเป็นครุยสวยงาม ส่วนใหญ่จะบานในตอนกลางคืน ส่งกลิ่นหอม และออกดอกเป็นฤดูกาลในช่วงฤดูร้อน
ผล : ส่วนผลของเขาจะออกมาในรูปแบบฝักแบนความยาวถึง 1 เมตร มีการโค้งงอ บิดเกลียวบ้าง ในหนึ่งช่อดอกจะออกประมาณ 3 – 5 ฝัก เมื่อแก่จัดฝักจะแห้งและปริออกเผยให้เห็นเมล็ดด้านในรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ น่ารัก
ประโยชน์ที่น่าสนใจ
– นอกจากจะเป็นไม้ประดับ แต่งสวนสวยงามแล้ว ยังสามารถให้ร่มเงาแก่ผู้อยู่อาศัยได้
– ดอกเป็นอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง
– ดอกแคนาสามารถนำมาประกอบอาหารได้ อาทิเช่น แกงส้มดอกแค หรือดอกแคดองเกลือ ต้ม หรือชุบแป้งทอดกินคู่น้ำพริก
– เนื้อไม้แคนาค่อนข้างเบา นิยมนำมาแปรรูปทำเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้าน มากกว่าใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างหนัก ๆ
– เศษไม้เป็นเชื้อเพลิงชั้นดี
การขยายพันธุ์
ใครอยากได้เจ้าต้นนี้ไปขยายพันธุ์ บอกเลยว่าสามารถทำได้ง่าย ไม่ต่างจากไม้ใหญ่ทั่วไป ซึ่งมักทำโดยการเพาะเมล็ด โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– ทิชชู่
– กล่องมีฝาปิด
– เมล็ดแคนา
– ฟ็อกกี้
– ถุงเพาะเมล็ด
– ดินปลูก
ขั้นตอนการเพาะเมล็ดต้นไม้
1.อันดับแรกให้เรานำกระดาษทิชชูประมาณ 2 – 3 แผ่น มาวางลงบนกล่องที่มีฝาปิด
2.จากนั้นสเปรย์ฟ็อกกี้ลงไปจนกระดาษทิชชูชุ่มชื้นและไม่แฉะเกิน
3.จากนั้นวางเมล็ดแคนาลงไป แล้วปิดฝากล่องวางเอาไว้ในพื้นที่ไร้แสงแดดประมาณ 7 วัน
4.เมื่อเมล็ดงอกออกมาแล้วก็สามารถนำไปเพาะเลี้ยงต่อในถุงเพาะชำและดินปลูกในร่ม จนกว่าต้นกล้าจะแข็งแรงค่อยนำไปปลูกต่อ
การปลูก / ดูแลต้นไม้
การปลูกต้นแคนาลงดินนั้น ส่วนใหญ่มักทำกันในช่วงฤดูฝน แต่ทั้งนี้จะต้องหาพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน นอกจากนี้เขาก็ยังสามารถเติบโตได้ดีในดินหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ต้องการน้ำมาก ให้รดน้ำเพียง 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เท่านี้เขาก็จะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาประจำบ้านเราแล้วล่ะ แต่ข้อควรระวังอย่างหนึ่งก็คือ หากปลูกหลายต้นติดกันก็ขอให้เว้นระยะห่างระหว่างต้นสักประมาณ 4 – 5 เมตรเผื่อโตด้วย
ราคาขาย
ในเรื่องราคาต้นไม้ จัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป ลำต้น 5 – 6 นิ้วค่าตัวของเขาจะอยู่ที่ราว ๆ 2,500-3,500 บาท โดยประมาณ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับแคนา ต้นไม้สวย ๆ จัดสวนตามสไตล์เอเชียกับเรื่องที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองศึกษา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เจ้าต้นนี้น่าสนใจมากเลยใช่ไหม เพราะปลูกเอาไว้ในบ้านก็โดดเด่นทั้งเรื่องความเป็นมงคลและยังมีประโยชน์มากมาย ใครนึกหิวน้ำพริกก็รอเก็บดอกมาแปลงเป็นเมนูเด็ด สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งดี ๆ ทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
