หากคุณกำลังตามหาไม้ยืนต้น ดอกสีเหลือง ผลัดใบทิ้งก่อนออกดอก “เหลืองปรีดียาธร” ก็ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์อันน่าสนใจ ต้นไม่สูงจนเกินไป แถมเป็นไม้มงคล เหมาะสำหรับปลูกริมทางเดินหรือสวนขนาดย่อม เพื่อสร้างความสดใสในช่วงเดือนมีนาคม รับลมร้อน และถ้าใครกระเป๋าสตางค์สั่น มีแพลนซื้อต้นไม้ หรือครอบครองเขาเอาไว้ แล้วอยากทราบถึงวิธีการขยายพันธุ์ การดูแลให้เติบโตอย่างดี ทำอย่างไรให้ออกดอกดก เรามีเคล็ดไม่ลับที่คุณต้องรู้เอาไว้มาฝาก
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักเหลืองปรีดียาธร ไม้ยืนต้นดอกสีเหลือง พร้อมวิธีการปลูกและดูแล
เหลืองปรีดียาธร เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง ซึ่งโดดเด่นด้วยดอกสีเหลืองบานสะพรั่งเต็มต้นในช่วงย่างเข้าฤดูร้อน เขามีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศปารากวัย อาร์เจนตินา และบราซิล ก่อนกระจายตัวไปยังประเทศต่าง ๆ และในที่สุดก็ถูกนำเข้ามาปลูกในแดนสยาม ซึ่งส่วนใหญ่มักปลูกในฐานะต้นไม้ริมถนน ตามแนวยาว โดยเฉพาะทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3502 (สายดอนไร่ – อ่างเก็บน้ำกระเสียว) จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทางกว่า 11 กิโลเมตร ถ้าใครแวะเวียนไปตรงเวลาช่วงเดือนมีนาคม บอกเลยว่าสดใสแน่นอน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tabebuia argentea Britt.
ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEAE (วงศ์แคหางค่าง)
ชื่อสามัญ : Tabebuia Aurea หรือ Caribbean Trumpet-Tree
ชื่อเรียกอื่น : ตาเบบูย่าเหลือง, ตาเบเหลือง, ตะเบเหลือง, และ เหลืองสิรินธร
ความเชื่ออันน่าสนใจ
ตาเบบูญ่าเหลือง หรือ ต้นเหลืองปรีดียาธร จัดเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง คนไทยเชื่อว่าหากปลูกเอาไว้จะช่วยนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว ผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้สีเหลืองของเขายังช่วยกระตุ้นความจำ และกระบวนการคิดวิเคราะห์ เหมาะสำหรับปลูกในสถานศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : เป็นไม้ยืนต้นที่อาจมีความสูงตั้งแต่ 5-8 เมตรลักษณะลำต้นตรง ผิวเปลือกสีน้ำตาลขรุขระ แตกกิ่งหลายชั้น มองดูคล้ายทรงพุ่ม เนื้อไม้อ่อน กิ่งเปราะหักง่าย มีเรือนยอดรูปไข่
ใบ : มีใบประกอบรูปนิ้วมือ แตกออกเป็นใบย่อย 5 ใบ รูปใบรี ขอบใบเรียบ ขนานกัน โคนใบมน ปลายใบแหลม ผิวใบสีเขียวอมขาว หรือที่เรียกกันว่าสีเงิน เนื้อใบหนา ค่อนข้างแข็ง จะเริ่มทิ้งใบเมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม-มีนาคม
ดอก : ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่นที่บริเวณปลายกิ่ง ในแต่ละช่อประกอบไปด้วย 7-15 ดอกย่อย โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ปลายกลีบหยักคลื่นเล็กน้อย ภาพรวมคล้ายระฆัง หรือทรัมเป็ต มักออกดอกในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ดอกเหนียว ร่วงยากกว่าเหลืองอินเดีย ในช่วงแรกที่ปลูกจะไม่ผลัดใบทิ้งทั้งหมด แต่เมื่ออายุ 10 ปีขึ้นไปจะผลัดใบทิ้งจนเห็นเพียงแค่ดอกสีเหลืองเต็มต้น ใครกำลังตามหาไม้ยืนต้น ออกดอกหน้าร้อนอยู่ ต้องรีบหามาปลูกแล้ว
ผล : ออกเป็นฝักสีเทา ทรงกระบอกยาว ปลายทู่ ติดผลหลังจากดอกร่วงหล่น พบเมล็ดด้านในจำนวนหนึ่ง สามารถนำมาขยายพันธุ์ได้
การขยายพันธุ์
เหลืองปรีดียาธร สามารถขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธี โดยเฉพาะการตอนกิ่งและการเพาะเมล็ด ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ใครไม่อยากซื้อต้นกล้ามาปลูก แต่อยากเพิ่มจำนวนประชากรต้นไม้ด้วยสองมือของตนเอง เราจะมาแนะนำขั้นตอนการเพาะเมล็ดง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– ภาชนะสำหรับเพาะชำ (มีรูระบายน้ำที่ก้น)
– เมล็ดเหลืองปรีดียาธร
– ดินปลูก
ขั้นตอนวิธีการเพาะเมล็ด
1. หากเก็บฝักแก่มาจากต้น ให้เราทำการแกะแยกเมล็ดของเขาออกมาก่อน
2. จากนั้นนำดินปลูกทั่วไปมาบรรจุลงในภาชนะมีรูระบายที่ก้น สามารถใช้เป็นกระถาง หรือถ้วยเก่า เจาะรูเพื่อระบายน้ำด้านใต้ได้เลย
3. รดน้ำให้ดินชุ่มชื้นหน่อย
4. วางเมล็ดพันธุ์ลงไปในระยะห่างเท่า ๆ กันจนเต็มกระถางเพาะปลูก
5. โรยดินกลบเล็กน้อย เพื่อป้องกันเมล็ดปลิวหาย เนื่องจากเมล็ดของเขามีน้ำหนักค่อนข้างเบา เมื่อลมพัดอาจปลิวกระจัดกระจายไปได้
6. รดน้ำตามและวางกระถางเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร
7. ประมาณ 3-4 สัปดาห์เขาจะเริ่มงอกใบคู่ที่ 3 ออกมา แนะนำให้ย้ายกระถางไปเลี้ยงดูแบบเดี่ยว ๆ ให้เขาเติบโตเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงก่อนนำไปปลูกลงยังพื้นที่ที่ต้องการ
การปลูก/ดูแล
แสง : เน้นพื้นที่ที่สามารถรับแสงแดดได้ตลอดทั้งวัน หรือโดนแดดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน
ดิน : เน้นดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง และพูนเนินดินขึ้นให้สูงกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
น้ำ : ชอบน้ำปานกลาง รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ
เคล็ดลับปลูกเหลืองปรีดียาธรให้ออกดอกดก
ใครอยากให้ต้นไม้ออกดอกสวย ดกเต็มต้น หลังจากเขาเริ่มทิ้งใบ แนะนำว่ารดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นการแกล้งต้นไม้ ให้เขาออกดอกเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์สืบไป วิธีนี้สามารถใช้ได้กับไม้ยืนต้นแทบทุกประเภทเลยนะ
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับเหลืองปรีดียาธร ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากทุกคน น่าจะพอทราบกันไปแล้วว่า เจ้าต้นนี้เหมาะสำหรับบ้านของเราไหม ถ้าปลูกแล้วจะต้องดูแลรักษา หรือทำให้เขาออกดอกอย่างไร เพื่อน ๆ อย่าลืมนำเกร็ดความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ของตนเองนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
