ต้นเบาบับ เรียกได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ ลำต้นโดดเด่นสะดุดตา ซึ่งอาจมีอายุยาวนานถึง 6 พันปีเลยทีเดียว เจ้าต้นนี้มีประโยชน์เกินคาดคิด จนถูกขนานนามให้เป็นต้นไม้แห่งชีวิตสามารถใช้กักเก็บน้ำและกินผล แปรรูป ปัจจุบันกำลังเป็นที่สนใจในวงการคนรักต้นไม้ของประเทศไทย และถ้าคุณคือคนหนึ่งที่อยากมีเบาบับเอาไว้ในครอบครอง เรามีเรื่องที่ต้องรู้มาฝาก!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับต้นเบาบับ ต้นไม้ราคาแพง มากประโยชน์ พร้อมวิธีการปลูกและดูแล!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Adansonia digitata
ชื่อวงศ์ : Bombacaceae (วงศ์งิ้ว)
ชื่อสามัญ : Baobab
ชื่ออื่นในภาษาอังกฤษ : Monkey bread tree, Bottle tree, The Tree of Life และ Upside-down tree
ชื่อเรียกในภาษาไทย : เบาบับ, บาวบับ, ต้นขวด, ต้นขนมปังลิง
ต้นเบาบับ คือต้นไม้ขนาดยักษ์อายุยืนยาวถึง 6 พันปี มีถิ่นกำเนิดมาจากเกาะมาดากัสการ์ 6 สายพันธุ์ แอฟริกาและออสเตรเลียอย่างละ 1 สายพันธุ์ ลักษณะต้นอวบอ้วนสวยงามแตกต่างกันออกไป แม้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้งก็ยังเติบโตได้เป็นอย่างดี เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าเขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีประโยชน์มากมาย ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนจนได้รับขนานนามว่าเป็น “The Tree of Life” ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามอย่างแน่นอน แถมยังปลูก ดูแลง่าย อยู่ในประเทศไทยได้สบายมาก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ต้นเบาบับมีตั้งแต่ขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ ตั้งแต่ 6-10เมตร เปลือกต้นเรียบมันเงา อ่อนนุ่ม ผิวสีเหลืองนวลถึงน้ำตาลขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เนื้อไม้นิ่ม ชุ่มน้ำ
ใบ : ใบของเขาก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อีกเช่นกัน โดยจะมีทั้งใบเดี่ยวและแบบใบประกอบรูปฝ่ามือ มี 5 – 9 ใบย่อย สีเขียวเป็นมัน
ดอก : ลักษณะดอกของเบาบับจะเป็นสีขาวห้อยหัวลงคล้ายดอกบัวตูม เมื่อบานแล้วกลีบจะยกขึ้น เห็นเกสรเปลือยเปล่าด้านล่าง
ผล : ผลเบาบับ มีรูปร่างแตกต่างกันไม่มาก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ บ้างก็เป็นลูกกลม บ้างก็เป็นรูปรี แต่เปลือกจะแข็งแต่กรอบ ผิวสัมผัสกำมะหยี่เหมือนกัน หากจับจะรู้สึกคันเล็กน้อย ต้องใช้ค้อนหรือสากทุบเปลือกออกกว่าจะเห็นเนื้อด้านใน และเนื้อของเขาก็มีลักษณะเป็นก้อนผง ๆ ติดกัน คล้ายขนมปัง หรือเนื้อในของมะขามเทศ รสชาติเปรี้ยวคล้ายกับลูกหยีหรือมะขาม มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี มีเมล็ดอยู่ด้านในเนื้อ สามารถนำไปคั่วเพื่อรับประทานแบบเมล็ดกาแฟได้ หรือจะนำไปเพาะต้นอ่อนเพื่อรับประทานเป็นผัดสดก็ได้เช่นเดียวกัน
เบาบับ สายพันธุ์น่าสนใจ
– Adansonia grandidieri สายพันธุ์นี้ต้นสูงใหญ่ เปลือกเรียบ ออกกิ่งด้านบนเป็นพุ่มเท่านั้น
– Adansonia perrieri มีเปลือกขรุขระเล็กน้อย ลักษณะเหมือนต้นงิ้ว
– Adansonia za เหมือนกัน Adansonia grandidieri แต่แตกกิ่งใหญ่กว่า ผิวมีปุ่มปมเล็กน้อย
– Adansonia madagascariensis ต้นใหญ่ พุ่มเตี้ย แตกกิ่งเยอะ ดอกสีแดง
– Adansonia rubrostipa ใกล้เคียงกับ Adansonia grandidieri
– Adansonia Suarezensis ลักษณะกิ่งใหญ่ มองเห็นเป็นรูปตัว T พุ่มกว้าง
– Adansonia gregorii เป็นสายพันธุ์จากประเทศออสเตรเลีย ต้นอ้วน เตี้ย และกลมกว่าทุกสายพันธ แตกกิ่งสวย
– Adansonia digitata ลำต้นเป็นร่อง เกิดพูพอนเล็กน้อย แตกกิ่งเตี้ย เหมือนต้นไม้ทั่วไป
ประโยชน์
ต้นเบาบับ สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกสัดส่วน โดยเฉพาะผลของเขามีคุณค่าทางโภชนาการสูง มักนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม รสชาติเปรี้ยว สดชื่น แนะนำอิตาเลียนโซดาเบาบับเมนูนี้หอมซ่า คลายร้อนดีงาม ในประเทศที่ขาดแคลนน้ำนิยมขุดเจาะต้นไม้ให้เป็นรูเพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้แทนสระน้ำ นอกจากนี้บางอันยังมีการทำห้องน้ำในโพรงต้นไม้ หรือจะเปิดเป็นบาร์ขนาดเล็กในต้นของเขาก็เก๋ใช่ย่อย
การขยายพันธุ์
เบาบับ ขยายพันธุ์ง่าย แต่ต้องใส่ใจมากหน่อย โดยเฉพาะขั้นตอนการเพาะเมล็ด ถ้าเพาะแบบปกติก็จะใช้ระยะเวลาเป็นเดือนกว่าต้นของเขาจะงอก แน่นอนว่าเรามีวิธีการเพาะเมล็ดเบาบับให้ขึ้นง่าย ภายใน 1 สัปดาห์มาฝากเพื่อน ๆ ดังต่อไปนี้
1.ให้นำเมล็ดของเบาบับมาแช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ก่อนนำเมล็ดมาเช็ดคราบสกปรกส่วนเกินออก
2.ต่อมาให้นำเมล็ดไปทำแบบขั้นตอนที่ 1 อีกหนึ่งครั้ง
3.ทำซ้ำตามขั้นตอนที่ 1 อีกรอบก็เท่ากับว่าเราจะแช่เมล็ดของต้นเบาบับในน้ำอุ่นเป็นเวลา 3 วัน
4.เมื่อเปลือกของเขานิ่มแล้ว ให้ใช้มีดหรือกรรไกรสะกิดเปลือกของเขาออกเล็กน้อย ระวังอย่าให้โดนบริเวณที่รากจะงอก
5.นำผ้าชุบน้ำหมาดมาห่อเมล็ด แล้ววางผ้าเอาไว้ในกล่องปิดฝามิดชิดวางไว้ในที่ทึบแสงเพื่อเป็นการควบแน่น
6.มาเปิดดูทุกวัน ต้นที่รากงอกแล้วก็สามารถนำไปดูแลต่อในพีทมอสได้เลยจนกว่าต้นกล้าจะโตประมาณหนึ่งค่อยย้ายลงหลุม
7.การดูแลต้นกล้าต้องหมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มชื้น ไม่แฉะหรือแห้งจนเกินไป
การปลูกและดูแล
ปลูกเบาบับในเมืองไทยไม่ยาก ดูแลง่าย แม้จะชอบน้ำแต่เมื่อเขาเติบใหญ่แล้วสามารถทนแล้งได้ดี ต้องปลุกลงในดินระบายน้ำดีด้วยนะ ข้อสำคัญแสงแดดต้องส่องถึงตลอดทั้งวันและอยู่ในสถานที่โล่งแจ้ง เนื่องจากต้นเขาจะใหญ่มาก
ราคาขาย
ราคาต้นเบาบับในปัจจุบันถ้าเป็นไม้ล้อม อยู่ที่ต้นละ 5,000 – 100,000 บาทขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ขายและผู้ซื้อ
และนี่ก็คือเรื่องราวของต้นเบาบับที่เราอยากนำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้าง เจ้าต้นนี้น่าสนใจใช่ไหมเอ่ย คาดว่าน่าจะเป็นต้นไม้ที่มีราคาสูงขึ้นอีกในอนาคต ถ้าเพื่อน ๆ สนใจอยากปลูกเพื่อทำธุรกิจก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลเรื่องตลาดให้ดีนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net