สาริกาลิ้นทองไม่เพียงแต่เป็นชื่อของเครื่องรางที่ช่วยในเรื่องเมตตามหานิยมและโชคลาภเงินทองเท่านั้น แต่ยังมี “ต้นสาริกาลิ้นทอง” พรรณไม้ที่ใครต่อใครเขาเลื่องลือด้านสรรพคุณตามความเชื่อ ซึ่งวันนี้ Plantlover จะขออาสาพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเจ้าต้นไม้ดังกล่าว ใครสนใจอยากลองปลูก หรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องอยู่ บอกเลยว่านี่คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้!!
รู้จักกับ “ต้นสาริกาลิ้นทอง” ต้นไม้เสริมดวง ที่อาจให้คุณมากกว่าความงาม!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus deltoidea Jack
ชื่อภาษาอังกฤษ : Mistletoe Rubber Plant หรือ Mistletoe Fig
วงศ์ : Moraceae (จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกับไทร)
ชื่อภาษาไทยและอื่น ๆ : สาริกาลิ้นทอง, ไทรไข่มุก, ไทรสามเหลี่ยม, ไทรใบโพธิ์หัวกลับ, มะจอเต๊ะ, ยาวี และสาริกาใบใหญ่
สาริกาลิ้นทอง ถือเป็นไม้มงคลยอดนิยมที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีและนิยมปลูกบริเวณบ้านเรือนตามความเชื่อ เขาคือต้นไม้กึ่งผลัดใบขนาดเล็กที่อาจมีความสูงถึง 7 เมตร เลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทยเราเอง
สาริกาลิ้นทอง ความเชื่อ
คนไทยมีความเชื่อว่าเขาเป็นไม้เมตตามหานิยม หากปลูกต้นสาริกาลิ้นทองเอาไว้ภายในที่ทำการค้า ห้างร้าน ธุรกิจ จะทำให้ผู้ปลูกมีรายได้เป็นกอบกำ เนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นของเขาจะถูกนำไปแกะสลักเป็นรูปนกสาริกาเพื่อบูชา ซึ่งก็มีพุทธคุณด้านการทำมาค้าขายร่ำรวย มั่งมีเงินทอง หากพกติดตัวไปเจรจาธุรกิจ ทำสิ่งใดก็จะประสบผลสำเร็จดังใจหวัง
แน่นอนว่าสาริกาเองก็มีบทสำหรับสวดบูชาเช่นกัน หากเพื่อน ๆ ขยันหน่อยลองดูก็ไม่เสียหาย เพียงตั้งนะโม 3 จบและต่อด้วยคาถา “พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ พุทธา อิริปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต” ช่วยบเพิ่มความสบายใจได้แน่นอน
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์ของสาริกาลิ้นทอง
ลำต้น : อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ลำต้นของเขาสามารถสูงได้ถึง 7 เมตร ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลของเราว่าอยากให้ต้นไม้ใหญ่โตหรือเป็นเพียงต้นเล็ก ส่วนเปลือกของต้นจะมีสีเทา
ใบ : ความสวยงามของต้นสาริกาลิ้นทองอยู่ที่ใบเป็นหลัก แน่นอนว่าเขาคือพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ออกแบบเรียงเวียนสลับ รูปใบกลมคล้ายช้อนสั้น โคนสอบ ปลายใบโค้งมน ใบค่อนข้างหนาและแข็ง มีเส้นนูนขึ้น ขนาดโดยรวมสามารถยาวได้ถึง 7-9 เซนติเมตร กว้าง 6-7 เซนติเมตร โดยประมาณ
ผล : สำหรับผลของสาลิกาลิ้นทอง หากมองผิวเผิน มันก็คือลูกไทรดี ๆ นี่ล่ะ มีลักษณะเป็นทรงกลม สีเขียวเข้มอมเหลือง มีจุกสีชมพูบริเวณกลางลูก
ประโยชน์ของสาริกาลิ้นทอง
1.เป็นไม้ประดับ เพื่อความสวยงาม
2.ปลูกเอาไว้เพื่อความสบายใจ ตามความเชื่อ
3.เป็นสมุนไพรที่ชาวอินโดนีเซียใช้เพื่อรักษาอาการปวดฟัน
4.ช่วงต้นของเขาสามารถใช้เป็นยาชูกำลังสำหรับหญิงสาวได้
5.ในช่วงกลางคืน ไทรไข่มุกนั่นจะไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดังนั้นจึงสามารถปลุกเอาไว้ในห้องนอน หรือในบ้านเพื่อฟอกอากาศได้ โดยไม่ลดปริมาณออกซิเจนของคนในบ้าน
6.ชาวมาเลเซียเคยใช้บริเวณรากและใบของเขามาบดจนละเอียด เพื่อบรรเทาหรือรักษาแผลรูมาทอยด์
7.ปลูกเพื่อขายสร้างรายได้มหาศาล
การขยายพันธุ์ / ปลูกสาริกาลิ้นทอง
วิธีที่เกษตรกรนิยมมากที่สุดในการขยายพันธุ์ต้นสาริกาลิ้นทองก็คือการ “ปักชำ” แต่เราจะมาปักต้นลงดินแบบซี้ซั้วก็คงไม่ได้ เพราะอาจทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ควรปักชำกิ่งของเขาด้วยมุมเอียง 60 องศา ห้ามให้กิ่งที่ชำเอาไว้ขยับเพราะจะทำให้รากติดยาก และเมื่อรากติดแล้วก็สามารถนำไปปลูกได้ตามปกติ โดยใช้ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวในอัตราส่วน 1:1 ในกระถางที่มีรูระบายน้ำด้านล่าง
การดูแลสาริกาลิ้นทอง
ต้นไม้ต้นนี้ดูแลไม่ยาก หากเรารู้จักใส่ใจ มีหลายคนที่นำสาริกาไปเลี้ยงแล้วปล่อยให้เขาตาย อาจจะต้องจัดพื้นที่ให้แสงส่องถึงแบบรำไร หากปลูกใส่กระถาง วางด้านในห้องอาจต้องเลือกวางไว้บริเวณที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้าไป แต่แดดไม่จัด และหากวางเอาไว้นอกบ้านประดับสวน ก็ควรหาร่มใต้ต้นไม้ใหญ่ให้เขาหรือกางแสลนก็ได้เช่นกัน
การรดน้ำควรทำเพียงสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ก็เพียงพอ ส่วนเรื่องของปุ๋ย สามารถให้ปุ๋ยได้แทบทุกรูปแบบ ทั้งปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก รวมถึงปุ๋ยเคมี แต่จะต้องเป็นสูตร 15-15-15
สาริกาลิ้นทอง ปลูกแล้วขายได้ไหม?
หากเพื่อน ๆ อยากปลูกต้นไม้สวยงามสายพันธุ์ไม้นี้ไว้ขายเพื่อเป็นรายได้หลัก หรือรายได้เสริม นี่คือข้อมูลที่คุณควรต้องพิจารณา โดยทั่วไปแล้วต้นจะมีขนาด 10-15 เซนติเมตร จะมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 25 – 30 บาทต่อต้น หากโตขึ้นมาหน่อยก็อาจขายได้หลัก 80 – 100 บาท ไม่รวมราคากระถางต้นไม้สวยงาม
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นสาริกาลิ้นทอง” ที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้ทราบในเบื้องต้นก่อนซื้อน้องมาปลูก ทั้งด้านการดูแลรักษา และพื้นที่ที่ควรปลูก เรื่องความเชื่อไม่เป็นสองรองใครเลยใช่ไหม ปลูกเอาไว้มีแต่เฮง