ต้นรวงผึ้ง ไม้ยืนต้น ดอกสีเหลืองรูปดาว กับเรื่องที่ต้องรู้ก่อนปลูก!

หากคุณกำลังตามหาไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ออกดอกสีเหลืองสวย ส่งกลิ่นหอมเฉกเช่นน้ำผึ้ง “ต้นรวงผึ้ง” จะต้องเป็นพันธุ์ไม้ชนิดนั้นอย่างแน่นอน คุณสมบัติน่าสนใจแบบนี้ ถ้าอยากปลูกติดบ้านเอาไว้ ควรดูแลรักษาอย่างไร ปลูกตรงไหนดี เรามีคำตอบมาให้อย่างแน่นอน ทว่าก่อนอื่นไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมา อุปนิสัยพื้นฐาน เพื่อทำความเข้าใจกับต้นไม้ให้มากยิ่งขึ้นกันเลยดีกว่า

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จัก “ต้นรวงผึ้ง” ไม้ยืนต้น ดอกสีเหลือง น่าปลูกติดบ้าน!

ต้นรวงผึ้ง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง ประเภทเดียวกันกับต้นปอ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศไทย โดยพบมากที่สุดทางภาคเหนือตามชายป่าที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราว ๆ 1,000-1,100 เมตร มักกระจายตัวอยู่ตามดอยสุเทพ พื้นที่ราบลุ่มทางภาคกลาง รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่นกัมพูชาด้วย ถึงแม้ว่าจะอาศัยอยู่บนภูเขาสูง แต่ก็สามารถนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสีเหลืองสวยตามบ้านเรือนได้ง่าย ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากจนเกินไป

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Schoutenia glomerata

ชื่อวงศ์ : Malvaceae (วงศ์ชบา)

ชื่อสามัญ : Yellow Star

ชื่อท้องถิ่น : ต้นสายน้ำผึ้ง (ภาคเหนือ)

ความเชื่อ

ต้นรวงผึ้ง เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ว่ากันว่าหากปลูกเอาไว้ในอาณาเขตบ้านจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทำให้คนในบ้านอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข สีเหลืองคือสีแห่งความมั่งคั่ง สดใส ในทางปฏิบัติยังช่วยกระตุ้นจินตนาการ กระบวนการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น : เป็นไม้ยืนต้นที่อาจมีความสูงไม่เกิน 8 เมตรโดยประมาณ แตกกิ่งต่ำ ผิวเปลือกเรียบ สีน้ำตาลอมเทา โดยภาพรวมมีทรงพุ่มมน

ใบ : พืชใบเดี่ยว ออกใบเรียงสลับกัน ใบรูปทรงรี ฐานใบป้าน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ก้านใบสั้น ใบอ่อนปกคลุมด้วยขนจำนวนมาก หน้าใบมีสีเขียว หลังแผ่นใบสีน้ำตาลอ่อน

ดอก : ดอกรวงผึ้ง นั้นออกเป็นช่อสั้นตามซอกใบพร้อมกันทั้งต้น จนมองเห็นเป็นสีเหลืองอร่าม ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายน้ำผึ้งอบอวล ลักษณะดอกย่อยรูปคล้ายดาว 5 แฉก โคนกลีบติดกัน พบเกสรเพศผู้จำนวนมาก มักออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี และดอกไม้ทั้งต้นมีอายุเพียง 7-10 วันเท่านั้น ปลูกตั้งนานออกดอกไม่ถึงครึ่งเดือน แต่ฮีลใจแบบขั้นสุดเลยล่ะ

ผล : ทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ปกคลุมด้วยขนจำนวนมาก เมล็ดด้านในใช้ขยายพันธุ์

ประโยชน์

นอกเหนือจากการปลูกเพื่อประดับตกแต่งสวน ยังเป็นไม้ที่ปลูกเพื่อปรับบรรยากาศในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี เพราะโดยปกติเรามักจะเห็นดอกของไม้ยืนต้นในช่วงฤดูฝนแล้วเสียมากกว่า ใบของเขาค่อนข้างหนา เมื่อต้นโตแล้วยังสามารถอาศัยร่มเงาได้อีกด้วย

การขยายพันธุ์

รวงผึ้ง ขยายพันธุ์ง่าย ได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง หรือยอดนิยมมากที่สุดก็คือวิธีการปักชำ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย แม้รากจะไม่แข็งแรงเท่ากับการเพาะเมล็ด แต่ก็ถือว่าเหมาะสำหรับปลูกโดยทั่วไป ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับการเพิ่มจำนวนประชากรต้นรวงผึ้งด้วยวิธีการปักชำกิ่งไปพร้อมกัน

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

– กรรไกรตัดกิ่ง

– ต้นแม่พันธุ์

– น้ำยาเร่งราก

– มีดคัตเตอร์

– ดินร่วนทั่วไป

– ถุงเพาะชำ

– ไม้หลักค้ำยัน ขนาดไม่เกิน 30 เซนติเมตร

– เชือกแก้ว

– ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ (สำหรับอบต้นไม้)

ขั้นตอนวิธีการปักชำกิ่งรวงผึ้ง

1. ใช้กรรไกรตัดกิ่งต้นรวงผึ้งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปออกมาด้วยความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร

2. จากนั้นผสมน้ำยาเร่งรากเข้ากับน้ำเปล่าตามปริมาณที่ระบุไว้ในฉลาก

3. ใช้คัตเตอร์ตัดโคนกิ่งให้เป็นรูปปากฉลาม

4. น้ำโคนกิ่งที่ตัดแล้วเสร็จสรรพแช่น้ำยาเร่งรากทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง

5. จากนั้นนำมาปักลงในถุงเพาะชำ และดินร่วนธรรมดาได้เลย

6. เสร็จสรรพใช้ไม้หลักปักลงไปข้างกิ่ง แล้วมัดให้แน่นด้วยเชือกเพื่อป้องกันต้นไม้เคลื่อนที่มากจนเกินไป ทำให้ออกรากช้า

7. นำต้นที่ปักชำเสร็จเรียบร้อยลงไปในถุงพลาสติกขนาดใหญ่ เป่าลมเข้าไปเล็กน้อย มัดให้แน่นและพอง ลักษณะเหมือนถุงแกง เพื่ออบหรือควบแน่น รักษาความชื้นให้คงที่ และออกรากอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

8. รอจนกว่ารากจะติดดี ต้นแข็งแรงแล้วค่อยนำไปปลูกยังพื้นที่ที่เราต้องการ 

การปลูก/ดูแล

แสง : เนื่องจากต้นรวงผึ้ง เป็นไม้ยืนต้น เขาจึงต้องการแสงแดดเต็มวัน หรือควรสัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน

ดิน : สามารถเติบโตได้ดีในดินทุกประเภทแม้กระทั่งดินเลว แต่ต้องมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ

น้ำ : ชอบน้ำปานกลาง สามารถทนความแล้งได้ประมาณหนึ่ง ควรรดน้ำอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

การตัดแต่งกิ่ง : ทำบ้างเพื่อควบคุมทรงพุ่มตามใจต้องการ

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นรวงผึ้ง” ต้นไม้ดอกหอม ปลูกง่าย เนื่องจากมีถิ่นฐานบ้านเกิดในประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตามหาพรรณไม้หอมโบราณ กลิ่นหวานปานน้ำผึ้งเอาไว้ฮีลจิตใจในช่วงฤดูฝน แต่ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่มากนัก ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ปลูกใกล้บ้านได้ รากไม่ทำลายโครงสร้าง แถมยังเสริมฮวงจุ้ย เป็นมงคล ดีแบบนี้ต้องมีไว้ในครอบครองสักต้นแล้วไหมล่ะ อย่าลืมนำเคล็ดไม่ลับรวมถึงข้อมูลข้างต้นไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กันด้วยนะคะ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net