แม้ผลยอกลิ่นเหม็นเต็มกลืน แต่ “ต้นยอ” กลับเป็นพันธุ์ไม้ยอดฮิตที่ปลูกกันแทบทุกบ้าน ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อของชาวไทยที่เห็นว่าชื่อต้นไม้นั้นเป็นมงคล เป็นสมุนไพร มีสรรพคุณทางยา นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ปัจจุบันมีการปลูกเพื่อส่งออกใบยอไปยังประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ปลูกง่าย น่าสนใจแบบนี้ ใครกำลังตามหาข้อมูล ความรู้เอาไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน หรืออื่น ๆ ก็อย่าได้พลาดในสิ่งที่เรานำมาฝากเด็ดขาด!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นยอ” ต้นไม้มงคล พื้นเมืองเขตร้อน ปลูกง่าย สร้างรายได้งาม
ความจริงแล้ว ต้นยอ ไม่ใช่พืชพื้นถิ่นของไทย แต่ถูกนำเข้ามาอย่างเนิ่นนานจนกลมกลืนและดูเหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารบ้านเราไปเสียแล้ว เดิมทีเขามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย รวมถึงทางตอนใต้ของเมืองจีน ซึ่งเป็นเมืองที่อากาศร้อน และมีฝนตก ก่อนกระจายตัวไปยังพื้นที่เขตร้อนประเทศอื่น โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia L.
ชื่อวงศ์ : Rubiaceae (วงศ์เข็ม)
ชื่อสามัญ : Indian Mulberry
ชื่อไทยอื่น : มะตาเสือ (ภาคเหนือ), ยอบ้าน (ภาคกลาง) และ แยใหญ่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ยอ กับความเชื่อของคนไทย
อย่างที่หลายท่านทราบกันดีว่า “ต้นยอ” คือหนึ่งในต้นไม้เสริมดวง เมตตามหานิยม หากปลูกเอาไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้าน จะส่งผลดีแก่สมาชิกในครอบครัว ส่งเสริมให้ได้รับคำสรรเสริญเยินยอ มีแต่คนรัก ชื่นชม แต่หากเป็นคนปากปีจอ นิสัยเสีย ไม่ว่าจะปลูกยอเอาไว้กี่ต้นก็คงจะช่วยเรื่องคำยกยอปอปั้นไม่ได้ นอกจากนี้ใบยอยังถูกใช้รองขันในพิธีบายศรีสู่ขวัญอีกด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ความสูง 2-6 เมตรโดยประมาณ ลำต้นไม่ตรงนัก ผิวเปลือกสีน้ำตาล แตกร่องเป็นแนวยาว มีสะเก็ดบางหลุดร่อนออก แตกกิ่งก้านทรงพุ่มกลมแผ่ขยายกว้าง 3-5 เมตร
ใบ : เป็นพืชใบเดี่ยว ออกใบตามข้อ เป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น รูปใบรี ปลายมีติ่งแหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย เนื้อใบหนา ผิวสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นกลางใบชัด
ดอก : ออกเป็นช่อกระจุกแน่นตามซอกใบ ดอกย่อยสีขาว ลักษณะใกล้เคียงกับดอกเข็ม มี 5 กลีบดอก โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปท่อ ส่งกลิ่นหอม
ผล : ออกแบบผลรวม เบียดกันแน่น ทรงผลรี ผิวสีเขียวอ่อน ตะปุ่มตะป่ำ ส่วนผลแก่มีสีเหลือง ส่งกลิ่นเหม็นฉุนอันแสดงถึงรสชาติเผ็ดร้อน
เมล็ด : พบเมล็ดสีน้ำตาลเข้มด้านในเป็นจำนวนมาก
ประโยชน์ของต้นยอ
นอกจากการปลูกเอาไว้เพื่อเป็นไม้มงคล มีคุณค่าทางจิตใจแล้ว ยอก็ยังเป็นสมุนไพร มีสรรพคุณทางยาอันน่าสนใจตั้งแต่ยอดจรดราก โดยเฉพาะใบยอ อุดมไปด้วยวิตามินเอ มักนำมาประกอบอาหารสร้างความเผ็ดร้อน อย่างเช่นแกงกะทิปลาช่อนใบยอ ห่อหมก และอีกมากมาย ช่วยบำรุงสายตา ส่วนผลยอก็สามารถรับประทานได้ เป็นยาขับลมชั้นดี ปัจจุบันมีการปลูกยอเพื่อส่งออกใบไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปลายทางปลูกได้ค่อนข้างยาก แต่ถ้าใครสนใจธุรกิจนี้ จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนด้วยนะคะ
การขยายพันธุ์
ยอ ขยายพันธุ์ง่ายและทำได้หลายวิธี ทั้งการเพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง และการตอน ซึ่งทั้งหมดนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป สำหรับมือใหม่ที่อยากหัดเพิ่มจำนวนประชากรต้นยอด้วยตัวเอง แนะนำให้ใช้วิธีการเพาะเมล็ด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ง่าย ได้รากแข็งแรง เปอร์เซ็นต์รอดสูงกว่าการปักชำและตอนกิ่ง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– ดินร่วนปนทราย
– กระบะเพาะ (มีรูหรือช่องระบายน้ำออกที่ก้น)
– ลูกยอสุกจัด
ขั้นตอนวิธีการเพาะเมล็ดยอ
1. นำลูกยอมาขยี้เนื้อออก เหลือทิ้งไว้เพียงแค่เมล็ด
2. นำเมล็ดไปแช่น้ำทิ้งเอาไว้ 1 คืนเพื่อช่วยเรื่องการงอกราก
3. จากนั้นนำดินปลูกที่เราเตรียมมาบรรจุใส่กระบะเพาะ
4. นำเมล็ดยอฝังลงดิน ความลึกห้ามเกิน 1 เซนติเมตร
5. รดน้ำอย่างเบามือ ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ต้องแฉะ
6. จะใช้ถุงพลาสติกช่วยควบแน่นก็ได้เช่นกัน
7. วางถาดเพาะเอาไว้ในพื้นที่แดดรำไร หมั่นรดน้ำวันละ 2 ครั้ง
8. รอจนกว่าใบจริงของเขางอกออกมาแล้วจึงย้ายกล้าลงดินเพื่อปลูกแบบถาวร
การปลูก/ดูแล
แสง : การปลูกต้นยอ ควรคำนึงถึงสถานที่ก่อนเป็นอันดับแรก ถึงแม้ว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แต่ก็ต้องการพื้นที่จำนวนหนึ่ง ให้เขาถูกแสงแดด 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หรือมีแสงแดดตลอดทั้งวัน
ดิน : เน้นดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง ก่อนเริ่มต้นปลูกยอ ควรผสมมูลวัวเข้าไปด้วย เพื่อปลดปล่อยธาตุอาหารมาบำรุงต้นไม้
น้ำ : ยอชอบน้ำมาก แม้จะชอบอากาศร้อนก็ตาม โดยปกติแล้วควรรดน้ำต้นไม้อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้หากปล่อยต้นทิ้งเอาไว้ตามธรรมชาติ ยอก็ยังสามารถคงอยู่ได้ เพียงแต่ใบและต้นจะไม่สมบูรณ์เท่ากับตอนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เท่านั้นเอง
สรุป
การปลูกต้นไม้ ก็คล้ายกับการเลี้ยงสัตว์ จำเป็นจะต้องมีเวลาดูแล รดน้ำ ใส่ปุ๋ยให้เขาเจริญเติบโตบ้าง แม้ว่าต้นยอจะโตง่าย อยู่ในเมืองไทยได้อย่างสบาย ๆ เป็นอย่างไรบ้างคะ ข้อมูลเกี่ยวกับยอที่เรานำมาฝากในวันนี้พอจะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ บ้างไหมเอ่ย ใครสนใจปลูกเจ้าต้นนี้อยู่ก็สามารถนำวิธีการปลูกและดูแลต้นไม้ไปใช้จริงได้เลยนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net