เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกับ “ต้นชุมแสง” กันบ้าง โดยเฉพาะตามร้านขายต้นไม้ ที่มักจะมีไม้ต้นใหญ่รูปทรงดูลึกลับ น่าค้นหา อย่างกับหลุดมาจากวันเดอร์แลนด์ รู้หรือไม่ว่าเขาเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่าสนใจมาก ทั้งด้านความงาม ความเชื่อ ประโยชน์ใช้สอย และสรรพคุณ หากคุณคือคนหนึ่งที่ชื่นชอบและอยากปลูกต้นไม้ชนิดดังกล่าว นี่คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้และไขความลับไปพร้อมกับเรา
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นชุมแสง” ต้นไม้ใหญ่มงคล ประดับบ้าน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Homalium Grandiflorum
ชื่อภาษาอังกฤษ : XANTHO PHYLLUM LAN CEATUM (MIQ)
วงศ์ : XATHOP-HLLA CEAE
ชื่อภาษาไทยและชื่ออื่น : ชุมแสง, ตะเคียนเผือก, ไก๊, แตงชั่ง, พิกุลป่า, แตงชั่ง
ชุมแสง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ อายุหลายปี ในสมัยก่อนตามพื้นที่ชนบทมักนิยมปลูกชุมแสงเอาไว้ตามท้องไร่ท้องนา และหากมีการสร้างวัด สร้างโบสถ์เมื่อใด ก็จะต้องใช้ไม้ชุมแสงเท่านั้นมาทำโครงสร้างทั้งคาน ขื่อและแป ทว่าในปัจจุบันกลับไม่ค่อยมีวัดไหนใช้โครงสร้างไม้กันแล้ว ปัจจุบันเป็นต้นไม้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทำให้ชุมแสงมีความสำคัญด้านการประดับตกแต่งเสียมากกว่า แถมมีราคาแพงมากโดยเฉพาะต้นใหญ่ รูปทรงสวยงามแปลกตา
ความเชื่อ
สำหรับด้านความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้นั้นไม่ปรากฏแน่ชัด เพียงแต่ว่าเขามีความเป็นสิริมงคล หากปลูกเอาไว้ในบ้านจะส่งผลดี
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์
ลำต้น : สำหรับลำต้นของเขา จะมีความสูงอยู่ที่ราว ๆ 5-10 เมตร เปลือกไม้สีน้ำตาลอ่อน ลำต้นตั้งตรงก็จริงแต่มักเอนไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก แตกกิ่งก้านสาขามาก
ใบ : ชุมแสงเป็นไม้ไม่ผลิใบ สำหรับใบเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกัน รูปทรงเรียวรี ขอบเรียบ กว้าง 2 – 4 เซนติเมตร ยาว 8-12 เซนติเมตร มักมีสีเขียวอ่อนไปจนถึงเหลืองอ่อน หน้าใบเรียบ ค่อนข้างมันวาว
ดอก : ต้นไม้ชนิดนี้ออกดอกเป็นช่อ รวมกันเป็นกระจุกบริเวณซอกใบ ส่วนใหญ่มีสีขาวหรือเขียวอ่อน ดอกย่อยขนาดเล็กมาก มีด้วยกันทั้งหมด 5 กลีบดอก ซึ่งมักออกมาให้เราได้เห็นในช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเมษายน
ผล : ผลของเขาจะออกประมาณช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน หลังจากออกดอกแล้ว ลักษณะผลกลมเกือบแป้น ขนาด 2 – 3 เซนติเมตร โดยประมาณ เปลือกหนา สีเขียวหม่น ด้านในมีเมล็ดเดียว
ประโยชน์
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันชุมแสงเป็นไม้ประดับ สามารถนำมาตกแต่งสวนสวยงาม ให้ร่มเงา ดีต่อใจ แต่แท้จริงแล้วมีประโยชน์มากมายซ่อนอยู่ในต้นดังต่อไปนี้
ราก เปลือกลำต้น : นำมาทำเป็นยารักษาโรคเลือดลมสตรี นอกจากนี้ยังนำมาทำน้ำอาบเพื่อรักษาโรคพุพองได้เช่นกัน
เมล็ด : หากนำมาคั้น สามารถใช้ปรุงอาหารได้ รวมถึงใช้ทำสบู่ ทำเทียนไข ก็ดีเช่นกัน
เนื้อไม้ : ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ด้านการก่อสร้าง ทว่าปัจจุบันไม่นิยมกันแล้ว
ใบ : ใบของเขามีรสขม สามารถนำแปรรูปเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิเช่น เบียร์หรือเหล้า ยอดของต้นชุมแสงนำมารับประทานได้
ผล : นำมาทำลูกธนูได้
นอกจากนี้ยังมีตำราที่กล่าวเอาไว้ว่าหากนำไม้ชุมแสง มาผสมกับเนื้อไม้สะแกแสง เนื้อไม้สะแบง และเนื้อไม้สังวาลพระอินทร์ มาแช่ลงตุ่มในปริมาณที่เท่ากันจนเนื้อยาออก จะช่วยแก้โรคผิวหนัง โรคพุพองได้เป็นอย่างดี
การขยายพันธุ์ / การปลูก
เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าชุมแสงขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ดเท่านั้น แปลว่าเราต้องอาศัยเวลาและความใจเย็น เพื่อรอคอยให้ต้นเติบโตเป็นเวลาหลายปี การปลูกทำได้ในดินร่วนธรรมดา ขุดหลุมลึกพอประมาณ แล้วหยอดเมล็ดชุมแสงลงไป กลบหลุมให้มิดชิด รดน้ำอย่างใจจดจ่อ พอให้ดินชื้นและเฝ้ารอดูเขาโผล่พ้นดิน
การดูแล
ชุมแสงสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยเมล็ดจะไหลไปตามน้ำและเกิดขึ้นบริเวณริมน้ำเสียเป็นส่วนใหญ่ นั้นแปลว่าเขาดูแลง่าย สามารถเติบโตได้เองตามธรรมชาติ หากนำมาปลูกควรหาพื้นที่สวนกว้างและไกลบ้านสักหน่อย เพราะรากของเขาชอนไชไกล อาจทำให้โครงสร้างบ้านแตกร้าวได้ในอนาคต ทั้งนี้จะต้องหาพื้นที่กลางแจ้ง แสงแดดมาก และรดน้ำบ่อยหน่อย อาจให้น้ำถึงวันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น เนื่องจากเขาชอบความชื้นสูง หรือใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงบ้างตามอัธยาศัย
ราคาขาย
ราคานั้นเป็นไฮไลท์เด็ดของไม้มงคลชนิดนี้เลยล่ะ ชุมแสงราคาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับขนาด สัดส่วน เฉกเช่นต้นไม้ทั่วไป แต่ความพิเศษก็คือน้องเป็นต้นไม้หายาก คนปลูกน้อย งบประมาณก็จะสูงเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากต้นไหนรูปร่างคดโค้งสวยงามแปลกตา ก็เรียกค่าตัวได้สูงตามหน้างาน
ขนาด 5-6 นิ้ว : ราคา 15,000-20,000 บาทโดยประมาณ
ขนาด 23 นิ้ว : ราคา 30,000-35,000 บาทโดยประมาณ
ขนาด 43 นิ้ว : ราคา 130,000 บาทโดยประมาณ
และนี่ก็คือข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ “ต้นชุมแสง” ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากทุกท่านอย่างสุดความสามารถ ก็น่าจะได้ทราบกันไปแล้วว่าชุมแสงมีความน่าสนใจอย่างไร เป็นต้นไม้ประเภทไหน ปลูก ดูแลอย่างไร รวมถึงใช้งานเขาในด้านไหนได้บ้าง โดยส่วนตัวคิดว่าชุมแสงเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย แต่ดูแลยาก โดยเฉพาะจะดูแลให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพและสวยงาม รวมถึงข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการปลูก มันจึงเหมาะสำหรับบ้านที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางเสียมากกว่าบ้านจัดสรร อย่างไรก็ลองนำไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หวังว่าทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ Plantlover