หากกล่าวถึงไม้ยืนต้นที่น่าปลูกอย่างยิ่ง ณ ขณะนี้ ก็คงต้องยกให้ “กฤษณา” เพราะทุกสัดส่วนของเขาสามารถนำมาสร้างมูลค่าได้ เริ่มตั้งแต่ปลูกเอาไว้ใช้ค้ำประกันเงินกู้ ขายต้น ขายชันไม้ และอีกมากมายสารพัดสิ่ง นับเป็นพืชเศรษฐกิจอันควรค่าแก่การลงทุน ปลูกเลี้ยงง่าย อาศัยการดูแลเพียงเล็กน้อย ถ้าใครมีพื้นที่ว่างและอยากลองครอบครองต้นไม้หอม ทำให้เกิดประโยชน์ ต่อไปนี้คือข้อมูลที่คุณต้องรู้เอาไว้!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับกฤษณาหรือไม้หอม ปลูกสร้างมูลค่า ราคาดี ค้ำประกันได้!
กฤษณา เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะประเทศไทย และยังกระจายตัวอยู่ในแถบเอเชียใต้อย่างเช่น อินเดียตอนเหนือ ทิเบต ภูฏาน ไม้ป่าชนิดนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บริเวณป่าดิบชื้น บ้านเราพบได้มากที่สุดทางภาคใต้ และภาคตะวันออกโดยเฉพาะเขาใหญ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aquilaria crassna Pierre ex Lec.
ชื่อวงศ์ : Thymelaeaceae (วงศ์กฤษณา)
ชื่อสามัญ : Eagle Wood
ชื่อท้องถิ่นอื่น : ปอห้า (ภาคเหนือ), สีเสียดน้ำ (บุรีรัมย์), ไม้หอม (ภาคตะวันออก), ตะเกราน้ำ (จันทบุรี), ไม้พวงมะพร้าว (ภาคใต้) และอื่น ๆ
ความเชื่อ
ชาวฮินดู เชื่อว่าไม้กฤษณา มีความเชื่อมโยงกับพระกฤษณะ ส่วนในศาสนาอิสลามก็นำไม้ชนิดนี้มาใช้ประกอบพิธีฮัจน์ ทางฟากฝั่งของญี่ปุ่นยังใช้ไม้ทั้งต้นแกะสลักเป็นรูปเทพเจ้าสำหรับเคารพบูชา เรียกได้ว่าครอบคลุมความเชื่อของคนหลากหลายวัฒนธรรมจริง ๆ และยังครอบคลุมทุกการใช้งาน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงเป็นต้นไม้ราคาแพงหนักหนา
ประโยชน์อันน่าสนใจ
ปัจจุบันมีการนำกฤษณาออกมาปลูกเพื่อการเกษตรนอกป่ามากยิ่งขึ้น เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดเอเชียกลาง ซึ่งนำชันไม้ไปสกัดเป็นน้ำมันหอมเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยเฉพาะวงการน้ำหอม หากได้ไม้คุณภาพดีก็จะทำให้น้ำหอมติดตัวอย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น
ต้นไม้ค้ำประกันเงินกู้ได้
ตามกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถนำไม้ยืนต้นหลายชนิดมาใช้ประกันเงินกู้ตามสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ โดยยื่นขอจดทะเบียนประกันที่กรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ต้นไม้แต่ละชนิดจะสามารถค้ำประกันได้เท่าไรขึ้นอยู่กับการประเมิน ทั้งจะต้องปลูกลงบนที่ดินของตนเอง และเป็นต้นไม้ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป ความสูง 2 เมตรขึ้นไป ซึ่งถ้าไม้กฤษณาเติบโตมากขึ้นเราก็จะสามารถขอขยายวงเงินกู้ในอนาคตเพิ่มได้อีก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ความสูงอยู่ที่ราว ๆ 10-20 เมตร ลำต้นตรง เปลือกสีเทาอมขาว ผิวเรียบและค่อนข้างหนา หากมีอายุมากขึ้นเปลือกจะเริ่มแตกเป็นร่องตื้น เปลือกในสีขาวอมเหลือง มีรูระบายอากาศเป็นปุ่มสีน้ำตาลขึ้นอยู่ทั่วทั้งต้น บริเวณกิ่งอ่อนถูกปกคลุมด้วยขนสีขาว
เนื้อไม้ : แบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนเนื้อไม้ปกติทั่วไป เป็นเสี้ยนตรง เนื้อหยาบปานกลาง ขัดเงายาก และส่วนที่มีน้ำมันกฤษณาคือ ส่วนสีดำ น้ำหนักมากกว่าส่วนเนื้อไม้ปกติ เนื่องจากมีออยล์อยู่ด้านใน จะมากหรือน้อยแตกต่างกันออกไป
ใบ : ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันทั่วกิ่ง รูปใบรี โคนใบมน ปลายติ่งแหลม กลางใบอ้วน ขอบใบเรียบเกลี้ยง ผิวใบสีเขียวเป็นมัน เนื้อหนา เส้นใบด้านล่างเต็มปกคลุมด้วยขนอ่อนสีขาว ขนาดกว้าง 3-5 เซนติเมตร และยาว 6-11 เซนติเมตรโดยประมาณ
ดอก : ออกแบบเป็นช่อตามซอกใบ ดอกย่อยสีขาวอมเหลือง ปลายแยกเป็น 5 แฉก มาพร้อมเกสรเพศผู้ 10 อัน
ผล : ผลกลมรี สีเขียว ผิวขรุขระ เต็มไปด้วยขนละเอียดค่อนข้างสั้นคล้ายกำมะหยี่ เมื่อผลแก่จัดจะแตกอ้าออกเผยให้เห็นเมล็ดด้านในจำนวน 1-2 เมล็ด
การขยายพันธุ์
กฤษณา ขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธีมาก สำหรับการเพาะเมล็ดจะมีอัตราการงอกอยู่ที่ประมาณ 70% แต่เมล็ดของเจ้าต้นนี้ก็มีราคาค่อนข้างแพง อีกทั้งทางเลือกในการเพิ่มจำนวนประชากรต้นไม้มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเพาะเลี้ยง ตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง หรือแม้กระทั่งการชำใบก็ทำได้เช่นกัน รากจะงอกออกมาจากทางใบ ส่วนขั้นตอนที่นิยมดำเนินการมากที่สุดก็คือ การขุดกล้าไม้ใต้ต้นกฤษณาใหญ่ มาเลี้ยงต่อในถุงเพาะชำสัก 1 ปีให้เขาแข็งแรงแล้วค่อยนำไปปลูกตามสวน ไร่ นา ดังใจต้องการ
การปลูก
แสง : ด้วยความที่เขาเป็นต้นไม้ใหญ่ ก็ย่อมต้องการแสงแดดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทุกท่านก็น่าจะพอเดาออกว่าควรปลูกเอาไว้ในพื้นที่โล่งแจ้ง แต่โดยธรรมชาติด้วยความที่เขาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ก็จะถูกร่มเงาของไม้ใหญ่บดบังบ้างเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้สามารถปลูกแซมตามสวนยางพาราก็ได้เช่นกัน
ดิน : สามารถเติบโตได้ดีในดินหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นดินร่วน ดินทราย หรือดินเหนียว
น้ำ : เขาชื่นชอบน้ำค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถรดน้ำวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้าได้ แต่ต้องไม่ให้น้ำท่วมขังและแฉะจนเกินไป
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “กฤษณา” ต้นไม้มีมูลค่าสูงที่หลายคนกำลังให้ความสนใจและเป็นกระแสมานานหลายปี แต่ถ้าใครอยากลงทุนแนะนำให้ศึกษารายละเอียดด้านตลาดส่งออก การขาย ก่อนตัดสินใจปลูกกันสักหน่อย อาจถามข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์มาก่อน รวมถึงศึกษาวิธีการเพิ่มปริมาณน้ำมันในชันไม้ให้ได้เกรดดีตามความต้องการ สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net