พุดภูเก็ต ไม้ถิ่นเมืองใต้ ดอกเหลืองนวล รัญจวนใจ ปลูกง่ายมาก!

ถ้าใครมีพื้นที่รอบบ้านค่อนข้างกว้าง การปลูก “พุดภูเก็ต” เพื่อเติมเต็มสวน สร้างมุมสวยชวนมองก็นับว่าเป็นไอเดียที่ดี เนื่องจากเจ้าต้นนี้ออกดอกตลอดทั้งปี แข็งแรง อึด ถึก ทน แม้อากาศร้อนแดดแผดเผา สมกับเป็นพรรณไม้พื้นถิ่นประเทศไทย ใครอยากปลูกหรือมีไว้ในครอบครอง บอกเลยว่าเลี้ยงดูง่าย ถ้าเข้าใจอุปนิสัยเบื้องต้นของเขา

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “พุดภูเก็ต” ดอกไม้กลิ่นหอม ส่งตรงจากแดนใต้ ดูแลง่ายจริงหรือ?

พุดภูเก็ต คือพุดอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ เป็นไม้อันมีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ในประเทศไทย ถูกค้นพบครั้งแรกในปีพ.ศ.2525 บริเวณป่าละเมาะริมชายทะเล ที่อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยดร.ชวลิต นิยมธรรม จนกระทั่งในปีพ.ศ.2526 ก็ได้มีการตั้งชื่อต้นไม้อย่างเป็นทางการ ตลอดจนถึงการสำรวจเพิ่มเติมจนกระทั่งพบว่ามีต้นพุดแบบเดียวกันกระจายตัวอยู่ตามเกาะตะรุเตา และบางส่วนของเกาะในจังหวัดพังงา รวมถึงป่าดิบแล้งที่ระดับความสูงระหว่าง 150 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia thailandica 

ชื่อวงศ์ : Rubiaceae (วงศ์เข็ม) 

ชื่อสามัญ : Phuket Gardenia 

ชื่อท้องถิ่น : พุดป่า, พุดสี, รักนา และคำมอกสงขลา เป็นต้น 

ความเชื่อ 

ด้วยความที่พุดภูเก็ต จัดเป็นพันธุ์ไม้ในตระกูลพุดเฉกเช่นเดียวกันกับพุดสีขาวต้นอื่น ๆ ดังนั้นจึงตามมาด้วยความเชื่อว่า เขาเป็นต้นไม้มงคล เสริมบารมี หากปลูกเอาในเขตบ้านเรือนจะช่วยให้ผู้ปลูกมีความเจริญรุ่งเรือง ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น : เป็นไม้พุ่มสูงไม่ผลัดใบที่อาจมีความสูงตั้งแต่ 3-6 เมตรโดยประมาณ เรือนพุ่มโปร่ง แตกกิ่งก้านขยายใหญ่เป็นวงกว้าง 1-5 เมตร ผิวเปลือกต้นสีน้ำตาลอมเทา เมื่ออายุมากผิวจะแตกเป็นริ้วลึก

ใบ : เป็นพืชใบเดี่ยวที่ออกใบเพียงแค่บริเวณปลายกิ่ง ใบรูปหอก หรือทรงไข่กลับ โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เส้นใบค่อนข้างชัด เนื้อใบบาง ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ส่วนผิวใบด้านล่างมีสีเขียวอ่อน สัมผัสสากมือเล็กน้อย ขนาดใบกว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 15-30 เซนติเมตรโดยประมาณ

ดอก : ออกดอกเดี่ยวที่บริเวณซอกใบ ใกล้ปลายยอดจำนวนมาก ลักษณะโคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ระยะแรกของดอกจะมีสีขาวอมเหลือง เมื่อเริ่มเป็นสาวหน่อยออกสีเหลืองนวล ดอกแก่ใกล้โรยสีเหลืองเข้ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ หากเดินเข้าไปใกล้ และหอมแรงในช่วงเย็นแดดร่มลมตก เป็นต้นไม้ที่ออกดอกทั้งปี แต่จะมีดอกดกมากที่สุดในช่วงฤดูร้อนของเดือนเมษายน

ผล : ผลเดี่ยว ทรงกลมหรือรี สีเขียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร มี 3-5 เมล็ดด้านใน สามารถขยายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติ

ประโยชน์

โดยทั่วไป พุดภูเก็ตนั้นเป็นสายพันธุ์พุดที่นิยมนำมาปลูกประดับตกแต่งบ้านเรือนเสียมากกว่า เนื่องจากดอกของเขามีความแฟนตาซี หลากสีสัน มองแล้วสร้างความเพลิดเพลินใจอย่างยิ่ง ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ผ่อนคลาย ไม่นิยมอาศัยร่มเงาเนื่องจากเป็นต้นไม้สูง และพุ่มค่อนข้างบาง

การขยายพันธุ์

พุดภูเก็ต สามารถขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธีเฉกเช่นเดียวกันกับดอกพุดทั่วไป ตั้งแต่การตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ปักชำกิ่ง และการเพาะเมล็ด สำหรับมือใหม่ที่ไม่ถนัดด้านการเพาะเมล็ดขอแนะนำให้ใช้วิธีการปักชำกิ่งแทน ถ้าพร้อมแล้วต่อไปนี้คือเคล็ดไม่ลับที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปทำตามกันได้เลย

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

– กรรไกรตัดกิ่ง

– ขวดทึบแสง

– น้ำเปล่า

– น้ำยาเร่งราก หรือเครื่องดื่มชูกำลัง

– กระถางสำหรับปลูก มีรูระบายน้ำที่ก้น

– ดินปลูก 1ส่วน

– ขุยมะพร้าว ½ ส่วน

– ขี้เถ้าดำเล็กน้อย

ขั้นตอนการวิธีปักชำกิ่งพุด

1. ให้เราเลือกตัดยอดต้นพุดภูเก็ต โดยเลือกกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปออกมาจากต้นความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร

2. จากนั้นเด็ดใบออกจากยอด จนกระทั่งเหลือประมาณ 2 คู่ใบ

3. นำน้ำเปล่าเทลงในขวดทึบแสง

4. ผสมเครื่องดื่มชูกำลังเข้าไป 1 ฝาแทนน้ำยาเร่งราก

5. จากนั้นนำกิ่งหรือยอดพุดเสียบลงไปในขวดให้กิ่งแช่น้ำ

6. วางขวดเอาไว้ในพื้นที่ร่ม ประมาณสัก 3 สัปดาห์ รากก็จะเริ่มงอกออกมาพร้อมนำไปเพาะปลูกลงดิน

7. นำดินปลูก ขุยมะพร้าวแช่น้ำ และขี้เถ้าดำตามสัดส่วนด้านบนมาคลุกเคล้าให้เข้ากันเพื่อทำวัสดุปลูก

8. จากนั้นก็นำกิ่งพุดมาเพาะเลี้ยงในกระถางต่อได้เลย แล้วรอจนกว่าต้นจะแข็งแรง จึงนำไปปลูกยังพื้นที่ ๆ ต้องการ

การปลูก/ดูแล

พื้นที่ : ควรเลือกพื้นที่สวนโล่งแจ้ง ขนาดกว้างขวางสักหน่อย เนื่องจากต้นไม้นั้นค่อนข้างสูง

แสง : พุดภูเก็ต ชอบแดดตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ก็ยังสามารถอยู่ใต้ร่มไม้ใบบัง สภาพแวดล้อมจำลองของป่าละเมาะได้เช่นกัน แต่จำเป็นต้องถูกแดดอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงต่อวัน

ดิน : ดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง

น้ำ : ควรรดน้ำในตอนเช้าวันละ 1 ครั้ง แต่ถ้าหากไม่มีเวลาก็สามารถให้น้ำเพียงสัปดาห์ละ 3-5 ครั้งได้เลย ไม่ยุ่งยากแต่ประการใด

สรุป

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเรื่องราวของ “พุดภูเก็ต” ต้นไม้ไทยแท้ที่เราได้ทำการรวบรวมมาเล่าให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักถึงอุปนิสัยของเขาให้มากยิ่งขึ้น แบบนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าน้องเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากมายก็ออกดอกสวย แต่ถ้าจะให้สวยกว่านั้นก็อย่าลืมหมั่นตัดแต่งกิ่ง ควบคุมทรงพุ่ม รับรองว่าจะได้พุดที่สวยจนแขกผู้มาเยือนเหลียวหลังแน่นอน

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net