เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อหรือเห็นหน้าค่าตาเจ้า “เล็บครุฑลังกา” กันมาบ้างแล้ว ใบไม้นี้โด่งดังและมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้คนที่สนใจลดการสร้างขยะ สามารถนำใบเล็บครุฑนี้มาทำเป็นภาชนะใส่ขนม ของกิน แทนชามหรือถ้วยได้ ไม่เป็นอันตราย แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสำหรับผู้ที่อยากปลูกหรือมีเขาเอาไว้ในครอบครอง นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับเล็บครุฑลังกา ไม้มงคลใช้แทนถ้วยโฟม น่าสนใจอย่างไร?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polyscias scutellaria (Burm.f.) Fosberg
ชื่อวงศ์ : Araliaceae (วงศ์เล็บครุฑ)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Shield Aralia หรือ Dinner Plate Aralia
เล็บครุฑลังกา ไม้ประดับใบสวยงามสีเขียวที่เราเห็นนั้น มีถิ่นกำเนิดมาจากบริเวณพื้นที่เขตร้อนชื้นอย่างแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ อเมริกา และในยุโรปบางประเทศ เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย มาพร้อมประโยชน์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะใบรูปร่างห่อของเขานี่ล่ะ ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ก็ยังแอบแฝงเรื่องราวความเชื่ออันน่าสนใจ
ความเชื่อ
หลายคนเชื่อว่าเจ้าเล็บครุฑลังกา นั้นเป็นต้นไม้แต่งสวน มงคลจะช่วยคุ้มครองคนในบ้านให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง จึงนิยมปลูกเอาไว้ตามรั้วบ้านมากที่สุด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : เล็บครุฑลังกามีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ความสูงราว ๆ 1-3 เมตร ลำต้นสีน้ำตาลอมเทา ผิวเรียบแต่เป็นข้อบ้างตามต้น แตกกิ่งเตี้ย
ใบ : ใบเล็บครุฑ ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์เด็ดซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้จริง ลักษณะของใบจะเป็นใบแบบเลี้ยงเดี่ยวขนาดค่อนข้างใหญ่ มีสีเขียวมัน ห่อตัวเป็นทรงหลุมคล้ายถ้วย แต่หากปลูกในสภาพอากาศไม่เหมาะสม บางใบก็จะไม่ก่อเป็นหลุม ลักษณะคล้ายกับใบบัวบกอย่างมาก
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์เจ้าต้นนี้สามารถทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งส่วนใหญ่มักนิยมปักชำกิ่งเสียมากกว่า เนื่องจากเป็นวิธีการที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก ซึ่งหากเพื่อน ๆ อยากลองปักชำต้นเล็บครุฑลังกา ก็สามารถทำดังวิธีการต่อไปนี้กันได้เลย
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.ดินร่วนปนทราย 2 ส่วน
2.แกลบ / ขุยมะพร้าว แล้วแต่กรณี 1 ส่วน
3.ถุงเพาะชำ
4.กรรไกรตัดกิ่ง
5.ต้นแม่พันธุ์เล็บครุฑลังกา
6.ซาแรน 50 เปอร์เซ็นต์
ขั้นตอนวิธีการปักชำ
1.ให้เลือกตัดกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปความยาวอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร
2.จากนั้นนำดินร่วนปนทรายจำนวน 2 ส่วนมาผสมเข้ากับแกลบหรือขุยมะพร้าว ตามที่ต้องการในปริมาณ 1 ส่วนมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในถุงเพาะชำที่เราเตรียมเอาไว้
3.จากนั้นรดน้ำเพื่อเติมความชุ่มชื้นไม่ต้องถึงกับแฉะ
4.นำกิ่งเล็บครุฑที่ตัดมาปักชำลงไปในดิน
5.ขึงซาแรนเพื่อให้ร่มเงาและวางต้นไม้เอาไว้ เนื่องจากเขาชอบแสงแดดรำไร อย่าขยับถุงบ่อยและหมั่นรดน้ำสม่ำเสมอ อย่าให้ดินแห้ง
6.ช่วงเวลาประมาณ 2 สัปดาห์จะมียอดอ่อนเริ่มแทงขึ้นมาให้เราได้เห็น แล้วจึงค่อยนำไปปลูกลงในสถานที่ต้องการได้เลย
ดูแลต้นเล็บครุฑลังกาอย่างไรให้ใบห่อสวย!!
เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าหากดูแลเจ้าต้นไม้นี้ไม่ดี ใบของเขาก็มีโอกาสที่จะไม่ห่อเป็นรูปชาม หรืออาจเหลืองจนกระทั่งร่วงไปเลยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และการจะเลี้ยงเขาให้ต้นสวย ใบใหญ่ ห่อเป็นถ้วยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้
แสงแดด : เล็บครุฑ ดูแลเรื่องแดดเป็นพิเศษจะมีผลต่อใบ หากอยู่ในที่ป่าทึบ ร่มมากเกินไปใบก็จะแบไม่ห่อเป็นทรงถ้วย และหากโดนแดดจัดตลอดทั้งวันใบของเขาก็จะเหลือง ดังนั้นจึงควรให้อยู่ในแดดประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์จะได้ใบสวย เป็นมัน ทรงก้นลึกกำลังดี
น้ำ : เล็บครุฑลังกา ต้องการน้ำปานกลาง ชอบความชื้นมากแต่ไม่แฉะ สามารถรดน้ำวันละ 1-2 ครั้งได้ตามความขยันของตนเอง
อุณหภูมิ : ความจริงแล้วเจ้าต้นไม้ประดับแต่งสวนชนิดนี้ก็ค่อนข้างชื่นชอบอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ราว ๆ 16-24 องศาเซลเซียส ทว่ายังคงทนร้อนได้ดี ปลูกในเมืองไทยได้ทั่วทุกภูมิภาค ไม่มีปัญหา
ประโยชน์ที่น่าสนใจ
1.สร้างรายได้ เล็บครุฑลังกาเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้ สร้างรายได้ชั้นดีในยุคที่ทุกคนหันมารักตัวเอง รักสิ่งแวดล้อมและพยายามลดปริมาณขยะลง เนื่องจากใบสามารถนำไปใช้แทนถ้วยโฟมเพื่อใส่ขนม หรืออาหารแห้งตามงานเลี้ยงสังสรรค์ได้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นทางโรงแรม รีสอร์ท นอกจากนี้ต้นของเขาก็ยังมีราคาดีอีกด้วย
2.แก้ปวด หากนำใบไปต้ม จะได้กลิ่นหอมเหมือนน้ำชา รสเผ็ดร้อน ใช้ดื่มเพื่อแก้ปวดหัว ปวดไมเกรน และอีกมากมาย ไม่เป็นพิษใด ๆ
3.เป็นผัก นอกจากประโยชน์ในด้านอื่น เรายังเห็นเล็บครุฑในมุมมองของผักอีกด้วย ทางภาคเหนือจะเด็ดใบมารับประทานกับลาบ ก้อย เป็นเครื่องเคียงก็อร่อยไปอีกแบบ
และนี่ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “เล็บครุฑลังกา” ต้นไม้โบราณที่กลับมานิยมอีกครั้งในปัจจุบัน เนื่องจากความสวยงามและประโยชน์ของเขาก็ดันมากมายเสียเต็มประดา ใครอยากลงมือทำธุรกิจเกี่ยวกับเจ้าต้นไม้นี้ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลด้านการตลาดกันให้ดี ลงทุนแต่น้อยก่อนหรือถ้าอยากปลุกติดบ้านเอาไว้เพื่อความสวยงาม ใช้งานในครัวเรือน ก็อย่าลืมนำวิธีการดูแลต้นไม้ที่เรานำมาฝากนี้ไปลองใช้ดูนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net