เฟิร์นบอสตัน จัดอยู่ในกลุ่มก้อนของเฟิร์นที่ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุค PM 2.5 ที่คนเริ่มหันหาธรรมชาติบำบัดและมีความสนใจต้นไม้ช่วยฟอกอากาศกันมากขึ้น แถมเขายังเป็นไม้ประดับที่ช่วยให้มุมต่าง ๆ ของบ้านดูดีขึ้นมาเกินคาด สำหรับคนที่อยากมีเจ้าต้นดังกล่าวเอาไว้ครอบครอง ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้เอาไว้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับเฟิร์นบอสตัน ต้นไม้ฟอกอากาศ ใบสวย ตกแต่งบ้าน!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nephrolepis exaltata (L.) Schott cv. Bostoniensis
ชื่อวงศ์ : Lomariopsidaceae
ชื่อภาษาอังกฤษ : Common sword fern, Boston fern
ชื่ออื่น ๆ : เฟินราชินี, เฟินงาม, กูดเฟือย
เฟิร์นบอสตัน จัดเป็นพืชแบบอิงอาศัยอันมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศในแถบทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ หลัก ๆ จะเป็นพื้นที่เขตร้อนแต่ไม่มาก มีความชื้นสูง ปัจจุบันเฟิร์นชนิดนี้ได้กระจายตัวไปยังทั่วทุกหนแห่ง สภาพอากาศในประเทศไทยของเราก็ถือว่าตอบโจทย์ต่อเฟิร์นบอสตันนี้อยู่ไม่น้อย สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากปลูกแทบไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลมากมายเลยล่ะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : สำหรับเฟิร์นบอสตัน ก็จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับพืชอิงอาศัยชนิดอื่นอยู่บ้าง ลักษณะต้นเป็นเหง้าสั้น ๆ ตั้งตรง สีเขียวอ่อน ปกคลุมด้วยเกล็ดสีน้ำตาลรูปแถบ โคนเว้า ขอบเรียบ มีไหลบอบบางพอสมควร
ใบ : แน่นอนว่าสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดก็คงจะต้องเป็นใบเฟิร์น ซึ่งเจ้าต้นนี้มาในรูปแบบใบประกอบขนนก ออกเรียงเวียนสลับกัน ปลายคี่ แผ่นใบใหญ่รูปร่างแกมหอก ปลายแหลม โคนตัด แผ่โค้งเป็นพุ่มแน่นความยาวจากโคนจรดปลายราว ๆ 40-60 เซนติเมตร ประกอบด้วย 25-50 ใบย่อย รูปร่างปลายสามเหลี่ยม โคนเบี้ยว ขอบหยักฟันเลื่อยเป็นคลื่น เนื้อใบบางเฉียบ มีขนอ่อนนุ่มปกคลุมใต้ใบ ส่วนก้านใบใหญ่จะยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร มีร่องไม่ลึกสีน้ำตาล ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดอีกเช่นกัน
ประโยชน์
เฟิร์นบอสตัน มีดีมากกว่าการเป็นเพียงแค่ไม้ประดับ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่มุมบ้านอย่างแน่นอน เขาเป็นพืชที่โดดเด่นในเรื่องของการฟอกอากาศ เขาจะช่วยดูดซับสารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสารพิษในอุตสาหกรรมเคมีที่ถูกผลิตออกมามากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะมาจากกระบวนการผลิตไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ ถ้วยชาม ชิ้นส่วนรถยนต์ ไฟฟ้า และอีกมากมาย อยู่รอบตัวเรา
ถึงแม้จะได้รับมาในปริมาณน้อยแต่หากสะสมนานวันเข้าก็อาจเกิดผลเสียได้เช่นกัน ดังนั้นการมีเฟิร์นบอสตันเอาไว้ก็อุ่นใจขึ้นเปลาะหนึ่ง นอกจากนี้เขาก็ยังช่วยกำจัดพวกเชื้อโรคอื่น ๆ รวมถึงเชื้อราที่อยู่ในอาคารได้ด้วยนะ ปลูกเอาไว้ในห้องนอนเพิ่มความชื้น นอนสบายขึ้นเยอะ
การขยายพันธุ์
ถึงแม้จะดูแลยากเพียงใดแต่เฟิร์นบอสตัน เป็นพืชที่ขยายพันธุ์ง่ายมากที่สุดในสามโลก ส่วนใหญ่มักใช้วิธีการแยกกอเป็นหลัก ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถนำไปทำตามกันได้ดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– เฟิร์นต้นแม่
– ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
– กาบมะพร้าวสับหยาบ 1 ส่วน
– กระถางขนาดใหญ่หน่อย มีรูระบายที่ก้น
– ปุ๋ยละลายช้า
– ลวดสำหรับแขวน
ขั้นตอนการขยายพันธุ์
1.อันดับแรกเราจะต้องเตรียมขุยมะพร้าวและกาบมะพร้าวสับหยาบแช่น้ำทิ้งเอาไว้ 1 คืนเพื่อความชุ่มชื้นแบบอิ่มตัวเต็มที่
2.ถัดมาเราจะต้องนำเฟิร์นต้นใหญ่ต้นเดิมมาทำการแยกกอออกจากกัน แบ่งออกเป็น 2, 3 หรือ 4 กอก็ได้ตามใจต้องการ
3.นำขุยและกาบมะพร้าวสับมาปูวางลงในกระถางสัก 1/3 ของกระถาง
4.นำกอเฟิร์นที่แยกออกมาวางลงในกระถาง ถ้ารู้สึกว่ารากยาวเกินไป จะตัดรากออกก็ได้
5.จากนั้นนำขุยและกากมะพร้าวที่เหลือมาเทลงในช่องว่างที่เหลือ เพื่อล็อคต้นเฟิร์นใบสวยของเราเอาไว้จนอยู่หมัด
6.ใส่ปุ๋ยละลายช้าลงไป เพื่อบำรุงต้นไม้
7.จับลวดมาดัดแล้วแขวนกระถางเอาไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร
การดูแล
อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นแล้วว่าเฟิร์นบอสตันเป็นพืชที่ดูแลยาก ต้องการคนดูแลเอาใจใส่ ตั้งแต่เรื่องสถานที่ต้องมีแดดรำไร บางเบา ชื้นสูง และเย็นหน่อย พยายามดูอย่าให้กาบมะพร้าวแห้ง ต้องชื้นตลอดเวลา และอย่าเปียกแฉะเกินควร ซึ่งถ้าปลูกในกระถางตามวิธีการเบื้องต้นก็ไม่เป็นปัญหานัก แต่ถ้าหากปลูกเอาไว้ในลูกมะพร้าวเลยจะต้องระวังเรื่องความชื้นที่อาจจะสูงเกินไปในช่วงฤดูฝน หรือถ้าดินแห้งเกินไปใบเขาก็จะเป็นสีเหลือง
ข้อสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ อย่าปล่อยให้ใบของเขาสัมผัสกับน้ำฝน เพราะจะทำให้เกิดใบไหม้ ใบหยิกได้ไม่ต่างจากพืชผักชนิดอื่น และต้องพยายามตัดแต่งกิ่งที่แก่ทิ้งอยู่เสมอ จะทำให้ยอดและใบที่เกิดใหม่อ้วนท้วน สมบูรณ์ น่ารัก น่าเอ็นดูเป็นที่สุด วิธีดูแลเฟิร์นของเราอาจจะยุ่งยากไปหน่อย อย่างไรก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
ราคาต้นเฟินบอสตัน
เฟิร์นต้นนี้ส่วนใหญ่ราคาน่ารักและเป็นกันเองมาก ๆ โดยทั่วไปต้นเล็กจะอยู่ที่ประมาณ 100-150 บาท ในกระถาง 6 นิ้ว หาซื้อง่ายด้วยนะ
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ เฟิร์นบอสตัน ที่เราตั้งใจนำมาอธิบายให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักให้มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา วิธีปลูก ไปจนถึงการดูแล เป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกคนว่าน่าเลี้ยงหรือมีไว้ในครอบครองกันไหมเอ่ย ถ้าชอบก็อย่ารอช้า พุ่งตัวไปร้านต้นไม้หรือเข้าแฟลตฟอร์มออนไลน์กดสั่งแป๊บเดียวก็จะได้เป็นเจ้าของต้นเฟิร์นแบบง่าย ๆ แล้ว!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net