ว่านพญาจงอาง ไม้ฟอกอากาศ บอนสวย ๆ ลายเหมือนงู ที่ควรมีติดบ้าน!  

ว่านพญาจงอาง บ้างก็เรียกขานเขาว่า บอนพญาจงอาง ที่มาของชื่อนั้นไม่ได้บังเอิญแน่นอน เพราะเป็นต้นไม้ที่โดดเด่น ก้านใบสวย มีลายเฉกเช่นเดียวกันกับงูชนิดหนึ่ง แถมยั้งมาพร้อมความเชื่อ และเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์ใช้สอยได้จริง ถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังสนใจต้นนี้ อยากมีเอาไว้ในครอบครอง แต่ไม่รู้ว่าจะเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ปลูก และดูแลอย่างไร วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลี้ยงเขามาฝาก

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ต้นไม้มงคล ว่านพญาจงอาง ต้นไม้ฟอกอากาศ ใบสวย กันสัตว์ร้ายได้จริง?

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alocasia longiloba 

ชื่อวงศ์ : Araceae (วงศ์บอน) 

ชื่อสามัญ : Giant elephant’s ear, Giant taro หรือ Upright elephant ears 

ชื่ออื่นในภาษาไทย : บอนพญาจงอาง หรือพญาจงอาง 

ว่านพญาจงอาง เป็นหนึ่งในต้นไม้ตระกูลบอนที่มีอายุหลายปี เขามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จีนตอนใต้ อาทิเช่นมณฑลกวางตุ้ง มณฑลยูนนานใต้ และยังมีข้อมูลปรากฏว่ามาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย สามารถนำมาปลูกในประเทศไทยของเราได้อย่างสบาย ๆ เป็นไม้ประดับ ตกแต่งสวน เพิ่มความสวยงาม หรือจะปลกเอาไว้ตามความเชื่อก็ได้เช่นกัน แต่จะต้องคำนึงถึงสถานที่และการดูแลให้เหมาะสม เพื่อให้เขาเจริญเติบโตได้อย่างงดงามดังใจ

ความเชื่อ

คนไทยเชื่อว่าว่านพญาจงอางเป็นไม้มงคล ปลูกเอาไว้เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปจากบ้าน โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานจะไม่กล้าเฉียดเข้ามาใกล้หรือทำร้ายมนุษย์ ถ้าบ้านใครเคยปลูกก็ช่วยแชร์กันหน่อยนะคะว่ามีงูเข้าบ้านบ้างหรือเปล่า

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น : โดยทั่วไปแล้วเขาจะมีลำต้นหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน ก้านใบอวบน้ำโผล่ออกมาจากเหง้าขึ้นเป็นกอแน่น ผิวสีเขียว ลายน้ำตาลแซมเป็นริ้ว ลวดลายคล้ายคลึงกับผิวของงูจงอางจึงเป็นที่มาของชื่อว่านพญาจงอาง นั่นเอง ส่วนใหญ่มักมีความสูง 1-1.5 เมตร

ใบ : มาในรูปแบบใบเดี่ยวและโดดเด่นด้วยรูปหัวใจ หน้าใบมีความยาว ชวนจินตนาการถึงงูที่กำลังแผ่แม่เบี้ย ฐานใบเว้าลึกเข้าหาก้านจึงทำให้หูใบยกสูง ปลายใบแหลม ผิวสีเขียวเป็นมันสวยงาม ลายใบสีขาวชัดเจนสวยงาม 

ดอก : ส่วนดอกของเขานั้นมาในรูปแบบช่อดอกแบบเชิงลด มีกาบสีเขียวหุ้ม ที่บริเวณปลายยอด โดยจะเริ่มบานจากโคนสู่ปลาย แยกเพศในช่อเดียวกัน และกลายเป็นผลสีเขียว หากสุกแล้วจะเป็นสีส้มแดง

ประโยชน์

นอกจากเป็นไม้ประดับ แต่งบ้าน แต่งสวนให้ดูสวยงาม หรูหรามากยิ่งขึ้นแล้ว บอนชนิดนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในไม้ฟอกอากาศที่เหมาะจะปลูกในห้อง หรือออฟฟิศอีกด้วย บอกเลยว่าต้นสวย ใบใหญ่ มองแล้วเพลินตา แต่ถ้าใครกลัวงูก็อาจรู้สึกขนลุกตอนมองบ้างล่ะ

การขยายพันธุ์

มีหลากหลายวิธีในการขยายพันธุ์เจ้าว่านพญาจงอาง แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ารอบ ๆ ต้นของเขาเต็มไปด้วยหน่อที่งอกขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ การแยกหน่อจึงเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะนอกจากจะง่าย ก็ยังช่วยให้ว่านต้นเดิมดูสะอาดตามากยิ่งขึ้นอีกด้วย และต่อไปนี้คือเคล็ดลับการแยกหน่อบอนที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปทำตามได้เลยนะ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

– ช้อนพรวนดิน

– ว่านพญาจงอางต้นแม่

– กาบมะพร้าวสับ 1 ส่วน

– อินทรียวัตถุ 1 ส่วน

– กระถางมีรูระบายที่ก้น

– ปุ๋ยละลายช้าสูตร 13-13-13

ขั้นตอนการแยกหน่อ

1. ใช้ช้อนพรวนดินในการขุดเพื่อเอาหน่อของต้นว่านพญาจงอางออกมา

2. จากนั้นให้เราทำการเตรียมวัสดุปลูก โดยไม่ใช้ดินก็ได้ ในที่นี้เราจะใช้เพียงกาบมะพร้าวสับผสมอินทรียวัตถุอย่างละ 1 ส่วนเท่า ๆ กันก็พอ

3. ใส่กาบมะพร้าวที่คลุกเคล้ากับอินทรียวัตถุแล้วนำลงไปรองก้นกระถางก่อน

4. จากนั้นนำต้นพญาจงอางที่ขุดไว้มาวางลงไป

5. เติมปุ๋ยละลายช้าสูตร 13-13-13 สักหนึ่งหยิบมือเพื่อบำรุงต้น

6. จากนั้นใช้กาบมะพร้าวกลบแล้วรดน้ำ วางเอาไว้ในพื้นที่ร่มรำไร โดนแดดอ้อม ๆ รอให้เขาติดรากก็เป็นอันเสร็จสิ้น

การปลูก/ดูแล

แสงแดด : สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างมากก็คือแสงแดด เนื่องจากเจ้าต้นบอนพญาจงอางนั้นแตกต่างจากบอนต้นอื่น เขาค่อนข้างชอบพื้นที่โดนแดดแบบอ้อม ร่มรำไร แต่ก็ยังได้รับแสงยามเช้าประมาณ 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าใครจะนำไปปลูก ก็อย่าลืมสำรวจพื้นที่ของเราให้ถูกต้องตามสูตรกันด้วยนะคะ

ดิน : ส่วนเรื่องดินก็เฉกเช่นเดียวกันกับการปลูกบอนทั่วไป จะใช้เป็นดินปลูกผสมกาบมะพร้าวสับและอินทรียวัตถุก็ได้ หรือจะใช้เพียงกาบมะพร้าวสับก็ได้เช่นกัน แต่อย่าลืมว่าเน้นที่การระบายน้ำได้ดี

น้ำ : โดยสภาพแล้วบอนทั่วไปต้องการน้ำมาก ว่านพญาจงอางก็เช่นกัน แต่ต้องเป็นความชื้นที่ไม่แฉะ โดยรวมแล้วรดน้ำให้เขาแค่วันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ

ปุ๋ย : นอกจากปุ๋ยละลายช้าแล้ว แนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอกเข้าไปเล็กน้อยในระยะเวลา 6 เดือนหลังการปลูก

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับต้นว่านพญาจงอาง บอนสวย น่าปลูก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในลวดลายของเขา บวกกับอยากได้ความสามารถในการช่วยฟอกอากาศ ยิ่งถ้าปลูกเอาไว้ใต้ร่มไม้นะ บอกเลยว่าช่วยเพิ่มมิติความงดงามของสวนได้เป็นอย่างดี ใครสนใจก็อย่าลืมซื้อหาเขามาปลูกกันนะคะ

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net