ใครกำลังตามหาไม้เลื้อยไทย เลี้ยงง่าย ดอกสีเหลืองเป็นพวงห้อยย้อยลงมาอยู่ไหมเอ่ย มาลัยทอง อาจเป็นสายพันธุ์ไม้ประดับที่เพื่อน ๆ กำลังตามหาอยู่ก็ได้นะคะ เขามีคุณสมบัติครบถ้วนเลย แถมยังออกดอกทั้งปี สร้างความรื่นรมย์ใจอย่างมากมายมหาศาล แต่ก็มีข้อควรคำนึงในการปลูกเลี้ยง รวมถึงดูแลอยู่บ้างเล็กน้อย ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าต้นนี้จะเหมาะกับเราไหม มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ไปทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้นกันเถอะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “มาลัยทอง” ไม้เลื้อย ดอกสีเหลือง ออกดอกทั้งปี ควรมีติดบ้าน!
มาลัยทอง เป็นไม้เลื้อย ไม่ผลัดใบ (Evergreen vine) ซึ่งมีพื้นถิ่นอยู่ในประเทศไทยแต่กำเนิด โดยพบครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรี ตามโขดหิน บิดพันลำต้นตัวเองเกี่ยวกันไปตามธรรมชาติ ทั้งนี้เขาก็ยังกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น แถบมลายู เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นพืชที่คุ้นชินกับสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ปลูกง่าย และโตไว ให้ดอกดก หากดูแลอย่างถูกวิธี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Petraeovitex wolfei
ชื่อวงศ์ : Lamiaceae (วงศ์กะเพรา)
ชื่อสามัญ : Wolfe’s Vine หรือ Nong Nooch Vine
ชื่ออื่น : มาลัยนงนุช
ความเชื่อ
เห็นชื่อเป็นเงิน ๆ ทอง ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าต้อง “ไม้มงคล เสริมโชคลาภ” สำหรับชาวไทยอย่างแน่นอน ด้วยความที่เขาเป็นต้นไม้ดูแลง่าย ออกดอกสีเหลืองทอง ผู้คนจึงเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมในเรื่องทรัพย์สิน เงินทองให้มีความมั่งคั่ง นำพามาซึ่งโชคลาภ วาสนา บารมี ยิ่งช่อดอกห้อยยาวลงมาเท่าไร ก็ยิ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความมิ่งมงคลเท่านั้น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (ทั่วไป)
ลำต้น : เป็นไม้เลื้อยแบบ Twining Stem กล่าวคือลำต้นบิดพันกันเป็นเกลียว ไต่ขึ้นที่สูง มีโอกาสแผ่ไกลถึง 10 เมตร โดยลำต้นแก่ จะมีผิวเปลือกเรียบ สีน้ำตาลอมเทา ส่วนลำต้น หรือกิ่งที่อายุน้อยก็จะมีสีเขียว
ใบ : มาในรูปแบบใบประกอบ มี 3 ใบย่อยกระจายทั่วทั้งต้น สัณฐานใบรูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลม เส้นใบชัด เนื้อใบสีเขียว ผิวเรียบ และมัน
ดอก : มาลัยทองออกดอกเป็นช่อ ในแต่ละช่อประกอบไปด้วยดอกย่อยจำนวนมาก ทยอยบานให้เห็นเรื่อย ๆ โดดเด่นด้วยกลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ สีเหลืองทองเข้มที่คอยโอบอุ้มดอกย่อยที่แท้จริงเอาไว้ ซึ่งกลีบดอกนั้นมีสีเหลืองนวล หรืออ่อนกว่าเล็กน้อย ในประเทศอื่น ปลูกแล้วออกดอกเป็นช่วง แต่สำหรับในประเทศไทย เป็นไม้เลื้อยออกดอกทั้งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลด้วยเช่นกัน
ผล : ผลแก่จะแห้งแตก รูปแคบ เรียว ปลายตัด พบ 1-2 เมล็ดด้านใน
การขยายพันธุ์
มาลัยทอง ขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ด หรือตอนกิ่ง แต่วิธีที่ง่าย และได้รับความนิยมมากคือการ “ปักชำกิ่ง” มือใหม่ก็สามารถเพิ่มประชากรต้นไม้ได้ด้วยสองมือตนเอง เพียงทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
– กรรไกรตัดกิ่ง
– น้ำยาเร่งราก
– มาลัยทองต้นแม่พันธุ์
– ถุงเพาะชำ หรือกระถางมีรูระบายที่ก้น
– แกลบดำ 1 ส่วน
– ขุยมะพร้าว 1 ส่วน
ขั้นตอนวิธีการปักชำกิ่งไม้เลื้อย
1. เลือกตัดกิ่งแม่พันธุ์แบบกลาง ๆ ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป ด้วยความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
2. ผสมน้ำยาเร่งราก กับน้ำเปล่า ในสัดส่วนตามระบุในฉลาก
3. นำกิ่งพันธุ์ลงไปแช่ทิ้งไว้ 10-20 นาที
4. ระหว่างรอ ผสมแกลบดำ และขุยมะพร้าว อย่างละ 1 ส่วนเข้าด้วยกัน
5. จากนั้นบรรจุลงในถุงเพาะชำ
6. ครบ 10-20 นาทีก็นำกิ่งพันธุ์มาเสียบลงดินได้เลย
7. จากนั้นรดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น และหมั่นรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง
8. วางต้นไม้เอาไว้ในพื้นที่แสงส่องถึง สักประมาณ 2 สัปดาห์ใบใหม่ก็จะเริ่มงอกออกมาให้เห็น
การปลูก/ดูแล
แสง : มาลัยทอง จัดเป็นไม้เลื้อยทนแดดดี ควรปลูกเขาเอาไว้ในพื้นที่แสงส่องถึงตลอดทั้งวัน จะให้ดอกดก อลังการ หรืออย่างน้อยควรได้รับแสงแดด 4-6 ชั่วโมงต่อวัน
ดิน : ชื่นชอบดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง หรือดินร่วนปนทราย
น้ำ : ชอบน้ำปานกลาง ควรรดน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง แต่ช่วงหน้าแล้ง อาจจะต้องเพิ่มเป็นวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น เพื่อสนับสนุนให้เขาออกดอกตลอดทั้งปี ไม่ขาดตอน
ปุ๋ย : ให้ปุ๋ยคอกทุก 30 วันเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโต และปรับปรุงโครงสร้างดิน
การค้ำยัน : ควรมีไม้ หรือหลักสำหรับให้ต้นเลื้อยเกี่ยวพัน
การตัดแต่ง : ทำได้ตามใจต้องการ เพื่อความสวยงาม
มาลัยทอง แต่งสวนอย่างไรดี?
– เลี้ยงไว้เป็นไม้เลื้อยทำซุ้มบังแดด ต้นไม้ดอกสีเหลืองทองห้อยย้อยลงมา ใบสีเขียวพรางแสงได้ดี
– ปลูกให้เลื้อยไปตามต้นไม้ ตกแต่งให้ดอกห้อยย้อยลงมา
– ปลูกให้เลื้อยไปตามไม้ระแนง
– ปลูกเป็นไม้คลุมหลังคาแบบเหลืองชัชวาล
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับต้นมาลัยทอง ที่เราได้ทำการรวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุปนิสัยอันแท้จริง บอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่งสุดยอดต้นไม้ไทยแท้ ดูแลง่ายน่าปลูก เหมาะสำหรับสายทำงาน เรียนเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาดูแล แถมยังต้องการใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง มีไว้สักต้นไม่ผิดหวัง สร้างความรื่นภิรมย์ให้แก่ตัวบ้านได้อย่างแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net