“พญาไร้ใบ” ไม้ประดับหน้าตาเก๋ เป็นสมุนไพร แต่มีพิษ ทำไมถึงน่าปลูก? 

พญาไร้ใบ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างแปลกไปจากต้นไม้ปกติ กลายเป็นความงดงามอันจับต้องได้ ไม่ใช่สวยแต่รูป จูบไม่หอมอย่างแน่นอน เพราะเจ้าต้นนี้มีดี มีประโยชน์หลากหลายประการ ใครอยากปลูกบอกเลยว่าต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้เอาไว้ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จักกับ “พญาไร้ใบ” ต้นไม้น่าปลูก สมุนไพรมีพิษ ไม่ควรมองข้าม!! 

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Euphorbia tirucalli 

วงศ์ : Euphorbiaceae (วงศ์ยางพารา)

ชื่อสามัญ : Pencil cactus

ชื่อไทย : พญาไร้ใบ 

ชื่อท้องถิ่น : เคียะจีน, พญาร้อยใบ, เคียะเทียน เป็นต้น 

เห็นรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว เชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะคาดไม่ถึงว่าเจ้าพญาไร้ใบนั้นเป็นหนึ่งในไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ถิ่นกำเนิดที่แท้จริงของเขามาจากทางตอนใต้ของแอฟริกาซึ่งเป็นเขตร้อน และนอกจากนี้ยังมาจากตะวันออกของอินเดียและอินโดนีเซีย ก่อนกระจายตัวไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ประเทศไทย พบได้ตามป่าเบญจพรรณ รูปร่างหน้าตาอาจดูแปลกไปหน่อย แต่เจ้าต้นนี้ก็มีประโยชน์เกินคาดคิดและยังมาพร้อมความเชื่ออันน่าสนใจอีกด้วย 

ความเชื่อ 

เจ้าต้นไม้นี้มาพร้อมความเชื่อที่ว่าหากปลูกเอาไว้ที่บ้านใดจะช่วยปัดเป่าโรคภัยให้แก่คนในครอบครัวนั้น ซึ่งความจริงแล้วเขาก็เป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคได้ แต่อีกหนึ่งความเชื่อก็คือกิ่งก้านที่ระโยงระยางเป็นง่ามนั้นจะช่วยกวาดเงินทอง เก็บเกี่ยว ป้องกันไม่ให้ไหลรั่วออกจากบ้าน ใครเป็นสายปลูกต้นไม้มงคล เป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ อยากมูเตลู แนะนำให้ปลูกใส่กระถางเอาไว้ในห้องก็ได้ 

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 

ลำต้น : อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าพญาไร้ใบนั้นเป็นไม้ยืนต้น ซึ่งเขาอาจมีความสูง 4-7 เมตรโดยประมาณได้เลย กิ่งจะดูคล้ายคลึงว่าเป็นไม้อวบน้ำ สีเขียวเข้ม ทรงกระบอก เปลือกต้นเรียบ เมื่อเปลือกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ไร้หนาม กิ่งอ่อนสีเขียว แตกกิ่งก้านสาขาออกไปคล้ายคลึงกับปะการัง ในเนื้อลำต้นมีน้ำยางสีขาวจำนวนมาก เป็นหนึ่งในต้นไม้แปลก ที่หลายคนหลงใหลในลักษณะของเขา 

ใบ : ชื่อว่าไร้ใบ แต่จริง ๆ แล้วเขามีใบนะ เพียงแต่ว่ามีขนาดเล็ก สีเขียวและกลมกลืนไปกับต้น ขนาด 0.2 เซนติเมตรและยาว 1 เซนติเมตรโดยประมาณ ออกเป็นใบเดี่ยวที่ปลายยอดหรือปลายกิ่ง ปลายใบมน อวบน้ำ หลุดร่วงง่ายมาก 

ดอก : ดอกของเขาจะออกดอกเดี่ยวเป็นกระจุกอยู่ที่บริเวณปลายยอด มีเพียงแค่กลีบรองดอก และกลีบเลี้ยง 4 กลีบ 

ผล : ผลของเขาเป็นทรงกลม ขนาดเล็ก เมื่อแก่แล้วจะแตกอ้าออก 

การขยายพันธุ์ / ปลูก 

ความจริงแล้วพญาไร้ใบนั้นสามารถขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธีมาก ไม่ต่างจากต้นไม้ทั่วไป แต่วิธียอดนิยมทำง่ายก็คือ “ปักชำต้นไม้ในน้ำ” โดยเลือกตัดกิ่งที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไปในแนวเฉียง 45 องศาข้อควรระวังก็คืออย่าให้ยางต้นไม้สัมผัสผิวของเราเพราะจะทำให้เกิดอาการคัน เนื่องจากยางนั้นมีพิษ ก่อนนำกิ่งไปแช่น้ำ แนะนำให้ล้างยางออกให้หมดเสียก่อน ใช้เวลาราว ๆ 14 วันรากของเขาก็จะงอกออกมาเมื่อครบ 30 วันก็สามารถนำเขาไปปลูกลงดินร่วนผสมขุยมะพร้าวตามใจต้องการได้แล้วล่ะ 

การดูแล 

เมื่อเรานำต้นไม้มาปลูก การดูแลย่อมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ และการให้แสงอย่างเพียงพอตลอดทั้งวันก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก จากนั้นหมั่นรดน้ำต้นไม้สักวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็เป็นอันเพียงพอแล้วล่ะ 

ประโยชน์ 

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าต้นพญาไร้ใบนั้นเป็นต้นไม้ มินิมอลยอดฮิตในหมู่วัยรุ่น หากปลูกลงในกระถางสีขาวเรียบง่าย น่าสนใจ และนี่คือประโยชน์หลักของมัน แต่ทั้งนี้เขาก็ยังเป็นไม้ฟอกอากาศ แต่อาจไม่มากมายเท่าไรนัก  และอีกหนึ่งสรรพคุณเด่นก็คือพิษน้ำยางของเขาสามารถกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าวได้อีกด้วย แต่ต้องหมักกับน้ำเปล่าเอาไว้ประมาณ 1 เดือนจึงจะนำไปเทราดตามนาข้าวได้ 

นอกจากนี้เขาก็ยังมาพร้อมสรรพคุณทางยาอันแสนโดดเด่นอย่างการตำทั้งต้น แล้วนำมาพอกบริเวณที่ปวดบวม ช่วยลดอาการปวดและบวมลงได้ ส่วนการกินเราไม่อยากแนะนำสักเท่าไรนัก เพราะรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันดีที่สุด  

พิษและหนทางแก้พิษ 

น้ำยางของต้นพญาไร้ใบนั้นมีสาร 4-deoxyphorbol ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง จะออกฤทธิ์ระคายเคืองอย่างรุนแรง เมื่อกินต้นที่มีน้ำยางเข้าไปพิษจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต และหากน้ำยางถูกผิวหนังเป็นเวลานาน จำนวนมากจะก่อให้เกิดผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ และอันตรายอย่างยิ่งหากเข้าตา ส่งผลให้เยื่อบุตาอักเสบจนกระทั่งตาบอดได้เลย หากต้องการแก้พิษให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลายรอบ จากนั้นหยอดตาด้วยยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์ร่วมอยู่ด้วย แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที 

และนี่ก็คือเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “พญาไร้ใบ” ต้นไม้สวยแปลก สวยอันตราย แต่มากไปด้วยประโยชน์ ซึ่งเราได้รวบรวมมาฝากเพื่อน ๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังสนใจอยู่ เจ้าต้นนี้นอกจากจะปลูกและดูแลอย่างง่ายดายแล้วก็มีข้อควรระวังจากพิษของเขาดังที่เราอธิบายไปแล้ว เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งเหล่านี้จะเพียงพอช่วยตอบคำถามในใจ รวมถึงมอบความรู้เกี่ยวกับต้นไม้นี้จนกระทั่งเกิดประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ 

ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net