การมีแสงสว่างนำทางในทุกสถานการณ์ ถือเป็นเรื่องที่ดี สำหรับวันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำต้นไม้ เป็นมงคล อย่าง “ต้นเทียนทอง” ที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่ความหมาย แต่ยังมาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอยบวกความสวยงามอันน่าพิสมัย ใครกำลังหาไม้ประดับ ความหมายเลิศ เอาไว้ปลูกสักต้น บอกเลย นี่คือข้อมูลของต้นเทียนทองที่คุณควรต้องรู้อย่างยิ่ง
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับต้นเทียนทอง ไม้มงคล นำโชค ปลูกเอาไว้ดีต่อคนในครอบครัว!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Duranta erecta L.
ชื่อวงศ์ : Verbenaceae (วงศ์ผกากรอง)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Golden Dewdrop
ชื่อภาษาไทย : เทียนทอง, เทียนทองคำ, พวงม่วง, เทียนพญาอินทร์
ต้นเทียนทอง เป็นไม้ประดับ น่าปลูก สวยงาม ซ่อนลูกเล่นเอาไว้มากมาย เขามีถิ่นกำเนิดมาจากทางเขตร้อนของอเมริกา โดยเฉพาะรัฐฟลอริดาและบราซิล ซึ่งเป็นสภาพอากาศในแบบที่เรามั่นใจว่าต้องเป็นพืชที่ปลูกในประเทศไทยของเราได้อย่างสบาย ๆ แน่นอน
เทียนทอง VS เทียนหยด
หากมองแบบผิวเผิน ไม่ได้สังเกตสิ่งใดมากนัก ต้นเทียนทอง ไม่ต่างจากเทียนหยดในหลายด้าน ทว่าเมื่อมาพิจารณาเรื่องสีสัน เทียนทองนั้นมีใบสีเหลืองทอง สวยงาม แปลกตา แต่เทียนหยดจะมีใบสีเขียวขจี สีสันเปลี่ยนไปนิดเดียวแต่ก็ให้อารมณ์คนละรูปแบบกันเลยล่ะ
ความเชื่อ
ต้นเทียนทอง เป็นต้นไม้ความหมายดีควรมีติดบ้าน โดยคนไทยเชื่อว่าหากปลูกเจ้าต้นนี้เอาไว้ประจำบ้าน ก็จะช่วยให้ฐานะของผู้อยู่อาศัยดียิ่งขึ้น เจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย มีกินมีใช้ มีแสงสว่างในชีวิต ดุจดั่งเทียนให้แสงสว่างที่ชาวพุทธจุดบูชาพระรัตนตรัย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ต้นเทียนทองเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ทรงพุ่ม มีความสูงได้ราว ๆ 2 เมตร พุ่มขยายใหญ่ 0.5 เมตร จะแตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้นเหนือพื้นดิน ออกเป็นจำนวนมาก ผิวต้นสาก หยาบ ผิวสีน้ำตาลอมเทา ส่วนกิ่งอ่อนจะมีสีน้ำตาลอมดำ
ใบ : เทียนทองเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว จะแตกใบเป็นคู่ อยู่ตรงข้ามกัน ลักษณะรูปใบเรียวรี โคนและปลายใบแหลม ขนาดความยาว 5 เซนติเมตร และกว้าง 1.5 – 2.5 เซนติเมตรโดยประมาณ ใบส่วนยอดอ่อนจะเป็นสีเหลืองทอง ส่วนโคนกิ่งนั้นออกเป็นสีเขียวอ่อนไล่ระดับ สวยงาม ชวนชมอย่างยิ่ง
ดอก : ดอกของต้นเทียนทองจะออกแบบเป็นช่อที่บริเวณปลายกิ่งราว ๆ 2-3 ช่อด้วยกัน ในหนึ่งช่อจะประกอบไปด้วยดอกย่อยประมาณ 8-20 ดอกเลยทีเดียว ที่สำคัญคือเทียนทองมีดอกสีม่วงอ่อน ซึ่งเป็นสีหายากตามธรรมชาติ มี 5 กลีบดอก ขอบกลีบงอ ปลายกลีบโค้งมน กลางกลีบมีเส้นยาวเว้าเป็นแอ่งจากโคนจรดปลายกลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ประกอบไปด้วยเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย
ผล : ผลเทียนทองนั้นเกิดจากดอก จะออกเป็นลูกเล็ก ๆ ตามช่อ ทรงกลม มีสีส้มเหลือง ก้นแหลมหน่อย ผิวมัน เต่ง ดูอิ่มน้ำ เปลือกบาง มี 1 เมล็ดด้านใน เปลือกเมล็ดค่อนข้างแข็ง
ประโยชน์
1.ประโยชน์หลักของต้นเทียนทองก็คือการปลูกเอาไว้เพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ตกแต่งสวน หรือปลูกเอาไว้เป็นรั้วรอบขอบชิด จัดสรรปันส่วนบ้านชัดเจน ไม่ว่าจะปลูกในกระถาง หน้าบ้าน ต่างก็ให้อารมณ์สุนทรีย์ที่แตกต่างกันออกไป
2.ปลูกเอาไว้เพื่อคุณค่าทางจิตใจ เป็นต้นไม้เสริมดวง เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีติดบ้านเอาไว้แล้วสบายใจ
3.มีสรรพคุณทางยามากมาย โดยเฉพาะลำต้นที่มีรสชุ่มคอ ช่วยขับลม แก้ปวด แก้เหน็บชาได้เป็นอย่างดี ส่วนใบนั้นรสขม ฉุน อุณหภูมิอุ่นหน่อย ช่วยแก้ปวด ลดบวม สลายลม บรรเทาแผลมีหนองได้เช่นกัน
พิษของเทียนทอง
เมล็ดของเขา เป็นส่วนที่มีพิษมาก ต้องระวัง หากบ้านใดมีเด็กก็ไม่ควรปลูกเอาไว้ สีสันของเขาสวยงาม ดึงดูดตา หากทานเข้าไปจะทำให้ชีพจรเต้นเร็ว ม่านตาขยาย จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยล่ะ
การขยายพันธุ์
แม้ต้นเทียนทองจะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดได้ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การปักชำกิ่ง ก็แล้วแต่ว่าจะเลือกกิ่งใหญ่หรือกิ่งเล็กมาลองทำ ให้ใช้กรรไกรตัดกิ่งความยาว 15-20 เซนติเมตรออกมาวางไว้เสียก่อน เด็ดใบที่ไม่จำเป็นออกสักหน่อย จากนั้นหันมาผสมขี้เถ้าแกลบและดินในอัตราส่วน 1:1 ก่อน แล้วจึงนำกิ่งมาปักชำลงถุงเพาะได้เลย รดน้ำทุกวันให้ดินชุ่มชื้น แต่น้ำไม่ท่วมขัง ตั้งทิ้งไว้ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร สักประมาณ 15 วัน เขาก็จะงอกรากแล้วล่ะ แต่ต้องรออีกสัก 1 เดือนค่อยนำไปลงแปลงปลูกได้
การปลูก / ดูแล
เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว ต้นเทียนทองเป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยชอบแสงนัก แต่อาจจะต้องโดนแดดรำไรหน่อย ขอแค่ปลูกเขาในดินร่วนปนทรายและรดน้ำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็เป็นอันเพียงพอ แต่การใส่ปุ๋ยแนะนำเป็นปุ๋ยคอกเท่านั้น ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะสูตรที่มีไนโตรเจนสูง จะทำให้ใบมีสีเขียวมากขึ้น สีเหลืองน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ ต้นเทียนทอง ไม้ประดับมงคล นำโชค ดุจดั่งแสงสว่างในชีวิตที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ น่ามีเอาไว้ในครอบครองใช่ไหมล่ะ แต่ไม่แนะนำสำหรับบ้านที่มีเด็กวัยกำลังซนและผู้ป่วยอัลไซเมอร์นะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net
