ต้นหลิว หนึ่งในต้นไม้แห่งเทพธิดา เหมาะแก่การนำมาปลูกในบ้านเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับผู้ปลูก ซึ่งนอกจากจะเป็นต้นไม้มงคลแล้ว ยังมีความสวยงามและยังมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกซื้อมาปลูก หากใครที่รู้จักต้นไม้ชนิดนี้ก็จะรู้ว่ามีความโดดเด่นในเรื่องใดบ้าง แต่หากใครที่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะวันนี้ PlantLover ได้นำสาระดี ๆ ของต้นไม้แห่งเทพธิดา ที่มีประโยชน์อย่างมากมาย มาฝากทุกท่านให้ได้รู้จักกันค่ะ
3 สายพันธุ์ต้นหลิว
1. หลิวทอง
เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นเป็นเนื้อไม้แข็งแรง ยอดเป็นทรงพุ่มโปร่ง สาเหตุที่เรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่าพันธุ์ต้นทองนั้น ก็เพราะสีของก้านและใบที่เป็นสีเขียวอมเหลือง นิยมปลูกในบ้าน เพราะมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลเรียกทรัพย์เข้าบ้าน เรียกโชคลาภเงินทอง ดูแลง่าย สามารถอยู่ได้ในที่ที่มีแดดจัด
2. หลิวลู่ลม
เป็นสายพันธุ์ต้นหลิวที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูก ซึ่งจะนิยมนำมาปลูกในบ้านเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตัวผู้ปลูก โดยจุดเด่นของพันธุ์นี้ก็คือ ใบสีเขียวเข้มที่มีความโปร่งและเป็นทรงพุ่ม เมื่อลมพัดก็จะสังเกตเห็นได้ชัดว่าจะลู่ลมดังชื่อของต้นไม้ โดยจะสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในดินและในกระถาง เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่สวยงามและดูแลง่ายมาก ๆ
3. หลิวไต้หวัน
เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นเตี้ย แตกกิ่งก้านสาขาเล็ก ๆ ออกรอบต้นจนแน่นทึบ เป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ชอบแสงแดดจ้าทั้งวัน นักจัดสวนนิยมใช้ปลูกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่หรือแซมกับไม้ใบในบริเวณที่มีแดดจัด เพื่อให้สีม่วงสดใสของดอกสร้างความโดดเด่นสวยงามให้กับพื้นที่ อีกทั้งยังนิยมนำมาเลี้ยงและถักลำต้นเป็นเปียเพื่อใช้ในการประกวดได้อีกด้วย
ความเชื่อของต้นไม้แห่งเทพธิดา
เป็นความเชื่อเกี่ยวกับต้นหลิวนี้มาจากทางประเทศจีน โดยชาวจีนจะเชื่อว่าหากบ้านใดที่ได้ทำการปลูกเอาไว้ในบริเวณใดของบ้านนั้น ก็จะทำให้มีทรัพย์มาก มีโชคลาภเงินทอง มีวาสนาดี มีสง่า เสริมความเป็นสิริมงคล และเป็นที่เชิดหน้าชูตา และจะเด่นที่สุดในเรื่องของความเหลือกินเหลือใช้
วิธีการถักเป็นไม้ถักประดับ
1. นำต้นที่ขนาดเท่า ๆ กันมาจัดลงกระถางให้ได้ตามแนวที่ต้องการจะถัก
2. ตัดใบตรงช่วงกลางทิ้งเหลือไว้แต่บริเวณยอด
3. การถักใช้สูตร ขวาทับซ้ายจนรอบ แล้วเปลี่ยนเป็นซ้ายทับขวาจนรอบ สลับกันไป
4. รวบต้นไม้ที่ปลูกเรียงไว้ในกระถาง แล้วแยกออกจากกันเป็นสองส่วน
5. จับไขว้ไว้ก่อนจึงใช้เชือกฟางมัดตรงบริเวณไขว้กัน
6. จากนั้นก็ไขว้มาเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นให้มีเชือกรัดไว้ที่เดิมจนกว่าจะถึงยอด
7. ชั้นสุดท้ายให้มัดตายตัวไปเลย เพื่อจะได้มีรูปทรงเหมือนเดิม จากนั้นให้แก้เชือกที่อยู่ชั้นล่างออก
