“ต้นลัดดาวัลย์” คือพันธุ์ไม้เถาชนิดหนึ่ง ดอกสวย มากประโยชน์ จึงกลายมาเป็นไม้ประดับสามัญประจำบ้านที่คนนิยมอย่างแพร่หลาย หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเจ้าต้นนี้มีประโยชน์มากมาย ทั้งด้านการใช้งาน และเสริมดวงตามความเชื่อในหลากหลายมิติ หากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังสนใจอยากปลูกต้นลัดดาวัลย์ นี่คือสิ่งที่ต้องรู้!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นลัดดาวัลย์” ต้นไม้เสริมดวงสุดมงคล มีอะไรน่าสนใจ?
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Porana volubilis Burm.f.
ชื่อวงศ์ : CONVOLVULACEAE
ชื่อสามัญ : Snow vine
ชื่อภาษาอังกฤษ : Bridal Creeper / Snow Creeper / Snow-in-the-jungle
ชื่อไทย / อื่น ๆ : ลดา, นดา, มะลิวัลย์, กะลาเผือก และมอกหันเซะ
“ต้นลัดดาวัลย์” มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นพืชเมืองร้อนที่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย เรียกได้ว่าเป็นไม้เลื้อยพันธุ์เล็ก นิยมปลูกกันตามรั้วบ้าน เขาคือไม้เลื้อยจัดซุ้มที่คุณอาจนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ออกดอกแต่ละครั้งส่งกลิ่นหอมกระจาย ปลูกไม่ยาก ดูแลง่าย แต่มีหลายสิ่งอย่างที่เราต้องเรียนรู้กับเขาอีกมากโข
ความเชื่อ
สำหรับต้นลัดดาวัลย์ คนเชื่อกันว่าเขาคือไม้มงคลเสริมดวงด้านการเงิน หากใครปลูกเอาไว้ในบ้าน ปลูกประดับสวนจะนำพามาซึ่งความเจริญงอกงามทางด้านการเงิน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าลัดดาวัลย์นั้นเป็นไม้เถาเลื้อย ซึ่งสามารถเลื้อยไปไกลได้ถึง 3 เมตรเลยทีเดียว ลำต้นสีน้ำตาลของเขามีขนปกคลุมอยู่ทั่ว เปลือกไม่แข็งมาก ด้านในเป็นเนื้อไม้
ใบ : ใบของเขามาในรูปแบบใบเลี้ยงเดี่ยว ลักษณะหัวใจเรียงสลับกัน ปลายแหลม แผ่นใบบาง โคนเว้า ขอบใบเรียบ มีขนปกคลุมทั่วทั้งใบ
ดอก : ไฮไลท์ของเจ้าต้นนี้คือ “ดอกลัดดาวัลย์” ซึ่งจะออกแบบเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายยอด ลักษณะช่อดอกเป็นรูปกรวย กลีบดอกสีขาว กลีบเลี้ยงสีเขียว ปลายดอกแยกออกเป็น 5 กลีบ ร่วงโรยและสลับกันออกดอกตลอดทั้งปี แต่จะออกดอกมากช่วงปลายฤดูฝนจนถึงกลางฤดูหนาว ส่งกลิ่นหอมเย็นสดชื่นอยู่ประมาณครึ่งวัน กลิ่นจะแรงเป็นพิเศษช่วงเช้าตรู่และพลบค่ำ
ผล : ลัดดาวัลย์มีผลกลม ผลแก่ของเขาสีน้ำตาลและมีเมล็ดด้านในสีดำ บ้างก็สีขาวนวล
ประโยชน์
สำหรับประโยชน์ของต้นลัดดาวัลย์ ส่วนใหญ่จะปลูกเอาไว้เพื่อเป็นไม้ประดับเสียมากกว่า ไม่ว่าจะใช้สำหรับจัดซุ้มสวยงามหน้าบ้าน ปลูกเอาไว้ตามเสาบ้านเพื่อให้เขาเลื้อยอย่างสวยงาม ส่วนใหญ่จะปลูกลงกระถางรอวันออกดอก ส่วนประโยชน์ทางด้านอื่น ๆ ก็มีในเรื่องของสมุนไพรแก้ผื่นคัน ฟกช้ำเล็กน้อย หรือจะนำเมล็ดมาใช้เป็นยาระบาย แก้ท้องอืดก็ได้เช่นกัน
การขยายพันธุ์
หากต้องการขยายพันธุ์ลัดดาวัลย์ ที่จริงแล้วไม่ต่างจากไม้เลื้อยชนิดอื่นมากนัก หลัก ๆ สามารถทำได้ด้วยกัน 4 วิธีดังต่อไปนี้
1.การตอน กิ่งของลัดดาวัลย์นั้นเปราะและหักง่าย แนะนำเลือกควั่นกิ่งใหญ่จะเพื่อลดโอกาสในการล้มเหลวให้น้อยลงไป
2.การทาบกิ่ง วิธีการขยายพันธุ์นี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจะเลือกทาบบริเวณข้อต่อกิ่ง ส่วนใหญ่มักทำกันในฤดูฝน พร้อมหาที่บังแดดให้เขาอย่างเพียงพอในบริเวณที่ทาบกิ่ง
3.การปักชำ ทั้งสามรูปแบบนี้อาจมีความคล้ายคลึงกับไม้เลื้อยชนิดอื่นอยู่บ้าง ซึ่งเราจำเป็นต้องเลือกกิ่งที่แข็งแรง สมบูรณ์ ตัดในแนวเฉียง และทำการตัดลิดใบของเขาออกครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็เพียงแค่ปักชำลงในดินเพาะปลูก รดน้ำชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อรอเวลารากงอก จนพร้อมนำปลูกลงแปลงในขั้นตอนถัดไป
4.การเพาะเมล็ด การเพาะเมล็ดค่อนข้างช้ากว่าการตอน ทาบ หรือชำกิ่ง แต่ได้ความมั่นคงของต้นที่มากขึ้น ไม่ตายง่าย ใคร ๆ ก็สามารถเพาะเมล็ดได้ หมั่นรดน้ำบ่อย ๆ เขาจะงอกได้เร็วมากยิ่งขึ้น
การปลูก
สำหรับคนที่อยากปลูก บอกเลยว่าเรื่องนี้ก็สำคัญ เนื่องจากลัดดาวัลย์เป็นต้นไม้ที่ชื่นชอบแสงแดดอย่างมาก จึงต้องอยู่ในพื้นที่รับแสงอย่างเพียงพอ เน้นบริเวณโล่ง กลางแจ้ง ทั้งนี้เขาก็ยังเติบโตได้ดีในดินทั่วไปทุกรูปแบบ แต่จะชอบดินร่วนเป็นพิเศษ หรือจะรองก้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์อย่างเช่น มูลวัว ปุ๋ยหมักและอื่น ๆ ก่อนก็ได้เช่นกัน
การดูแล
ซุ้มลัดดาวัลย์จะสวยงามแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคนดูแล นอกจากการให้ดินที่ดี แสงดี น้ำก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก หากอยู่ในความไม่พอดีก็อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา ดังนั้นแล้วให้รดน้ำต้นลัดดาวัลย์เพียง 2 ครั้งต่อวันก็เพียงพอ แต่ก็ระวังอย่าให้พื้นแฉะเกินไป ส่วนฤดูฝนหากฝนชุกอาจไม่ต้องรดน้ำเลยก็ได้!! ทั้งนี้อย่าลืมใส่ปุ๋ยบำรุงดินสักปีละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะให้เขาออกดอกสวยงามทั่วทั้งต้นแล้วล่ะ
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับต้นลัดดาวัลย์ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จักว่า เขานั้นมีดีอย่างไร ทั้งในด้านของประโยชน์ การใช้งาน วิธีการขยายพันธุ์ การดูแลรักษาให้ออกดอกสวยงาม เชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะได้รับเกร็ดความรู้และไอเดียดี ๆ ไปประมาณหนึ่ง สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net