“ต้นริบบิ้น” ที่เราจะมากล่าวถึงในวันนี้ไม่ใช่ริบบิ้นชาลีแต่อย่างใด เพราะเป็นคนละส่วน คนละสายพันธุ์ แตกต่างมากมาย ต้นริบบิ้นในที่นี้เป็นพันธุ์ไม้สวยงามใบยาวที่มาพร้อมความเชื่อมากมาย ใครอยากปลูกเอาไว้เพื่อส่งเสริมชีวิต โชคลาภ นี่คือสิ่งที่คุณควรต้องรู้ก่อนนำไม้ชนิดนี้มาปลูก
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นริบบิ้น” ไม้มงคลเสริมโชคลาภ ที่คุณอาจชื่นชอบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hemigraphis cf. repanda
ชื่อภาษาอังกฤษ : Hemigraphis repanda, Dragon’s Tongue
วงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่อไทย : ต้นริบบิ้น, ริบบิ้นเขียว
เจ้าริบบิ้นเขียวดูเหมือนจะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กจากประเทศเขตร้อน เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย เรามักพบเจออยู่ตามสวนหย่อม ซึ่งมันจะอยู่ในกระถางต้นไม้เป็นหลัก นอกจากนี้ก็ยังพบเจอได้ตามพื้นที่ราชการ ในต่างประเทศนิยมปลูกกันเป็นทุ่งกว้าง มองไปแล้วสวยงาม นุ่มฟูราวกับทุ่งหญ้า นอกจากปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงามแล้วเขาก็ยังมีความเชื่อ ความน่าสนใจอื่น ๆ อีกเช่นกัน
ความเชื่อ
ตามความเชื่อหากผู้ใดเลี้ยงดูริบบิ้นเขียวให้เติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ เขาจะช่วยเสริมชีวิตในเรื่องโชคลาภ การงานเจริญก้าวหน้า หากทำมาค้าขายก็ขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า เงินทองไหลมาไม่ขาดสาย หากปลูกเขาไว้ในอาณาบริเวณบ้าน ก็จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยไม่ทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกัน ลดความร้อนใจ เพิ่มความร่มเย็น ความเชื่อนี้ก็สามารถใช้กับต้นริบบิ้นสายพันธุ์อื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นไม้เสริมโชคลาภอย่างแท้จริง
และยิ่งถ้าได้ปลูกใส่กระถางวางไว้ในห้อง ก็เป็นมงคลเรื่องของสีเขียวเหนียวทรัพย์ เพราะเชื่อกันว่า สีเขียวคือสีแห่งความมั่นคง อุดมสมบูรณ์ ตามแบบฉบับตำราจีน เหมาะสำหรับคนที่เชื่อเรื่องสีเขียว แต่ไม่อยากให้ห้องมีเฟอร์นิเจอร์สีเขียว ซึ่งการปลูกต้นไม้ก็สามารถทดแทนกันได้นั่นเอง
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์
ต้น : ลำต้นของเขาเป็นรูปทรงกลม ขนาดเล็ก ผิวนอกสีเขียว ค่อนข้างอวบน้ำและเปราะบาง แตกหักง่าย และมีข้อปล้อง หากโตเต็มวัยจะมีความสูงอยู่ที่ราว 20 เซนติเมตรโดยประมาณ
ใบ : ไฮไลท์ของเจ้าต้นไม้ใบสวยก็ต้องอยู่ที่ใบของเขานี่ล่ะ อย่างที่บอกไปว่าใบค่อนข้างเรียว เล็ก และยาวประหนึ่งริบบิ้น เขาเป็นใบแบบเดี่ยว ผิวสัมผัสเรียบ เงา ปลายโค้ง ขอบขนานและมีรอยหยักตลอดทั้งแนวใบ หากแก่เต็มที่ใบจะเริ่มเหี่ยวและแห้ง
ดอก : สำหรับดอกจะออกเป็นช่อกระจุกขนาดเล็ก ที่บริเวณปลายกิ่ง ดอกสีขาว โคนกลีบเชื่อมติดกัน กลีบเลี้ยงสีเขียว บานออกเป็น 5 แฉก เนื้อดอกไม่หนา ค่อนข้างบางและขาดง่าย
สายพันธุ์
เจ้าต้นนี้ไม่ได้มีเพียงริบบิ้นสีเขียวที่เราคุ้นเคยกัน แต่ยังมีทั้งริบบิ้นดำ ที่สีจะค่อนข้างเข้มหน่อย หากมองผิวเผินมีความคล้ายคลึงกับต้นดาดทับทิม ริบบิ้นแดงจะมีหน้าใบกว้าง และมีรอยหยักที่เห็นได้ชัดกว่าริบบิ้นเขียว
ประโยชน์
นอกจากการปลูกเอาไว้ดูเล่นเพื่อความสวยงาม ริบบิ้นยังเป็นไม้ฟอกอากาศ แต่คนไม่นิยมปลูกไว้เพื่อฟอกอากาศเนื่องจากทำหน้าที่ไม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่ากับต้นไม้สายพันธุ์อื่น
การขยายพันธุ์
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าเขาเป็นต้นไม้พุ่ม ซึ่งขยายพุ่มใหญ่ออกไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน หากเราต้องการขยายพันธุ์ไปปลูกอีกกระถางก็สามารถทำได้โดยการขุดบางส่วนออกไปปลูกแยก ทำได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก แต่วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมเท่ากับการปักชำกิ่ง จะได้ผลผลิตที่เร็วกว่าและไม่ทำให้ต้นแม่เกิดการรบกวน
วิธีการปักชำกิ่งสามารถทำได้เหมือนต้นไม้ทั่วไป คือตัดกิ่งจากต้นแม่ที่สมบูรณ์มาประมาณ 10 เซนติเมตร แช่น้ำทิ้งไว้หน่อย เมื่อเขาพร้อมจะลงกระถางก็ให้นำมาปักลงบนดินร่วนที่ผสมกับแกลบ ใบไม้หมัก และขุยมะพร้าว แล้วรดน้ำปล่อยให้เขาเติบโตอยู่ในที่ร่มสัก 2-3 วันจึงนำออกมาพบเจอแสงแดดรำไร รอจนกระทั่งเขาติดราก เราก็สามารถนำไปปลูกลงดินใหม่ตามใจต้องการได้แล้ว
การดูแล
ต้นริบบิ้นแม้บอบบางแต่ชื่นชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน เราจึงควรปลูกเขาไว้บริเวณกลางแจ้ง ตามความเหมาะสม หรือหากปลูกในห้องก็เน้นให้อยู่ในที่ที่แสงสาดส่องเข้าถึงได้ตลอด หากเราใช้ดินร่วนซุย ระบายน้ำดีปลูกก็จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะเขาไม่ชอบน้ำขังแฉะ อาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา ข้อสำคัญควรรดน้ำเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ แต่พอชุ่มชื้น อาจเลือกรดในตอนเช้าก่อนออกไปเรียนหรือทำงานก็ได้ หากบำรุงด้วยปุ๋ย ใช้เป็นปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงแร่ธาตุก็เพียงพอ ทั้งนี้ต้องใส่ตามสมควรไม่มากจนเกินงาม
และนี่ก็คือข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ “ต้นริบบิ้น” ที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักไว้สักหน่อย เขาเป็นไม้ใบยาว ดอกสวยที่ปลูกง่าย ดูแลไม่อยาก ไม่จุกจิก เสริมมงคลตามความเชื่อ ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้างเหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ อยากเริ่มปลูกต้นไม้ใบงามแนวนี้ น้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา คนทำงานก็ดูแลได้อย่างแน่นอน ถ้าไม่ปล่อยปละละเลยเกินไป ยังไงเจ้าริบบิ้นเขียวก็เติบโตสวยงามได้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net