หากคุณกำลังตามหาไม้พุ่มขนาดเล็ก ดอกสีเหลืองสวย ไร้กลิ่น เอาไว้ปลูกประดับบ้าน “ต้นบุหรง” ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันน่าสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นไม้พื้นถิ่นบ้านเราที่ปลูกและดูแลง่ายแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายที่เพื่อน ๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าใครบังเอิญมีไว้ในครอบครองแต่ไม่รู้ว่าจะดูแลอย่างไรดี วันนี้เรามีเคล็ดไม่ลับมาฝากอย่างแน่นอน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นบุหรง” ไม้พุ่ม ดอกสีเหลืองในตระกูลเดียวกันกับกระดังงา
บุหรง คือคำในภาษามลายู สื่อความหมายถึงนกยูง ต้นบุหรงมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม หรือไม้ต้นขนาดเล็ก สามารถรอเลื้อยได้ แต่พบค่อนข้างน้อย เป็นพืชที่มีประมาณ 30 ชนิดพันธุ์ทั่วโลก กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่เขตร้อนชื้นตั้งแต่อินเดีย คาบสมุทรมลายูถึงอินโดนีเซีย เป็นพืชพื้นถิ่นของประเทศมาเลเซีย และในประเทศไทยเรานั้นปัจจุบันค้นพบต้นบุหรงทั้งหมด 12 ชนิดพันธุ์ทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะทางตอนใต้ ตามเกาะ ป่าละเมาะ และริมทะเล หรือพื้นที่ที่มีระดับความสูง 50-200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dasymaschalon sp.
ชื่อวงศ์ : Annonaceae (วงศ์กระดังงา)
ชื่อสามัญ : Malayan Annona
ชื่อท้องถิ่น : กระดังงาเขา (สุราษฎร์ธานี), นวลแป้ง (จันทบุรี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : โดยทั่วไปแล้วบุหรงมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม หรือไม้ยืนต้นความสูง 6-10 เมตรโดยประมาณผิวเปลือกต้นเรียบ มีสีเทาอมดำ กลิ่นเนื้อไม้ค่อนข้างฉุน แตกกิ่งก้านแผ่ขยาย ทว่าก็ยังมีบางสายพันธุ์เป็นไม้เถาเลื้อย อย่างเช่น “บุหรงช้าง” ซึ่งสามารถเลื้อยทอดยาวไปได้ไกลถึง 15 เมตรเลยทีเดียว
ใบ : ออกใบเดี่ยวที่บริเวณปลายกิ่งและยอด ใบขอบขนานหรือเป็นรูปไข่กลับ ผิวสีเขียวเข้ม แผ่นใบเรียบ เนื้อใบหนา ขอบใบเรียบ ทว่าก็ยังมีส่วนที่เป็นคลื่นเล็กน้อย หลังใบถูกเคลือบด้วยสีขาวนวล เส้นแขนงใบชัด ขนาดกว้าง 6-8 เซนติเมตร และยาว 15-20 เซนติเมตร
ดอก : ดอกบุหรง เป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองนวล และบางสายพันธุ์มีสีแดงอมเหลืองออกตามเถา หรือซอกใบ ประกอบไปด้วย 3 กลีบดอก ทิ้งตัวยาวลงมาประมาณ 17 เซนติเมตร รูปหอกบิดเกลียวตั้งแต่บริเวณกลางกลีบลงมา ปลายดอกแหลม พบเกสรเพศผู้มีสีแดง เกสรตัวเมียมีสีเหลือง ก้านดอกยาว 1-7 เซนติเมตร มักอวดโฉมให้ผู้คนเชยชมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน มีกลิ่นหอมอ่อนที่ไม่โชยตามลม บ้างก็ว่าเป็นดอกไม้ไร้กลิ่น
ผล : ออกผลเป็นกลุ่ม ผลย่อยรูปทรงกระบอกยาว 3-6 เซนติเมตร เมื่อผลแก่จัดจะมีสีแดงเข้ม ผิวเปลือกคอดไปตามจำนวนของเมล็ด พบเมล็ดทรงกลมสีเหลืองอ่อนด้านใน มักออกผลตั้งแต่ช่วงเดือน เมษายน-มิถุนายนของทุกปี
ต้นบุหรงกับสารต้านมะเร็ง
อย่างที่หลายคนทราบกันไปแล้วว่า บุหรงบนโลกนี้มีหลากหลายสายพันธุ์อย่างยิ่ง ซึ่งทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ค้นพบว่ามีสายพันธุ์บุหรง 2 ชนิดในประเทศไทย ได้แก่ บุหรงช้างและบุหรงดอกทู่ ที่อุดมไปด้วย “Dasymaschalon” สารเคมีสำคัญมีฤทธิ์คล้ายสารต้านเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกต่อไปในอนาคต
ประโยชน์ของบุหรง
ต้นบุหรง เป็นไม้ประดับไทยโบราณที่มักปลูกตกแต่งตามสวนสไตล์ไทย ทว่าก็ยังสามารถเข้ากันได้ดีกับสวนรูปแบบอื่น สามารถปลูกเอาไว้อิงอาศัยร่มไม้ได้ ไม่มีพิษภัย แม้ใบจะไม่ค่อยหนาทึบสักเท่าไรแต่ก็สร้างความรื่นภิรมย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่นิยมปลูกในกระถางเป็นไม้ต้นเล็ก เมื่อยามออกดอกจำนวนมากสร้างความสวยงามเพลินตาให้แก่ผู้พบเจอ
การขยายพันธุ์
ต้นบุหรง สามารถขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธี คล้ายกับพืชในตระกูลกระดังงาอื่น ๆ ส่วนมากมักนิยมเพิ่มจำนวนประชากรด้วยการเพาะเมล็ด การทาบกิ่ง เสียบกิ่ง หรือเสียบยอดเป็นหลัก หากว่าคุณคือมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ที่อยากมีบุหรงเอาไว้ในครอบครอง ก็ขอแนะนำให้ซื้อต้นบุหรงจากร้านขายต้นไม้มาปลูกเลยจะง่ายกว่า เนื่องจากเป็นต้นไม้ราคาไม่แพง ต้นความสูงไม่เกิน 1 เมตรราคาหลักสิบเท่านั้น ก็สามารถนำมาปลูกลงดินได้เลยไม่ต้องรอ
การปลูก/ดูแล
แสง : ต้นบุหรง ค่อนข้างชอบแสงแดดแบบรำไร โดนแดดเพียงเล็กน้อย หากจะให้ดีต้องปลูกเคียงคู่ หรือใต้ร่มไม้ใหญ่เพื่ออาศัยร่มเงาของต้นอื่น
ดิน : ค่อนข้างชอบดินชื้น แต่ระบายน้ำได้เป็นอย่างดี อินทรียวัตถุสูง ดังนั้นถ้าหากจะปลูกอย่าลืมผสมมูลวัว มูลไส้เดือน หรือมูลสัตว์อื่นเข้ากับดินเพื่อให้ค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารไปเลี้ยงต้นไม้
น้ำ : ชอบความชื้นสูง หากใช้ดินปลูกที่สามารถกักเก็บความชื้นได้ดีก็สามารถรดน้ำให้เขาเพียงวันละ 1 ครั้งได้ แต่ถ้าหากปลูกในดินที่เก็บความชื้นได้น้อยหน่อย ก็จำเป็นจะต้องรดน้ำเช้า-เย็น
สรุป
การปลูกบุหรง ควรใส่ใจในการดูแลทั้งสามส่วนประกอบกันไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ดิน และน้ำ เพื่อให้เขาเจริญเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสวยงาม ทว่าต้นบุหรงก็ไม่ใช่ไม้ที่ต้องดูแลจุกจิกมากนัก เนื่องจากเป็นพืชพื้นถิ่นบ้านเรา ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนเวลาน้อย คนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ปลูกเอาไว้ดูเล่นหน้าบ้านก็สวยงามไปอีกแบบ สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีเจ้าต้นนี้เอาไว้ในครอบครองเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลต้นไม้ข้างต้นไปใช้งานจริงได้เลย สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าสิ่งที่นำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net