ต้นชาฮกเกี้ยน หรือ ต้นไม้กินคน เป็นไม้ประดับทรงพุ่ม อาจจะเป็นที่รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในแวดวงของเด็กนักเรียน ซึ่งจะรู้จักผ่านการเล่นต้นไม้กินคน โดยการผลักเพื่อนใส่พุ่มแล้วเพื่อนจะหายไปกับพุ่มไม้นั้น ใครที่รู้จักวิธีการแกล้งเพื่อนแบบนี้ บ่งบอกถึงอายุเลยค่ะ ต้นชาฮกเกี้ยน มีชื่อพื้นถิ่นหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น ชาดัดใบมัน ข่อยจีน ชาญวน และชาญี่ปุ่น เป็นต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง แตกกิ่งก้านและใบเป็นพุ่มแน่น คนนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับหรือตัดแต่งให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ รวมทั้งเป็นไม้แนวรั้วบ้านปลูกเป็นกำแพง วันนี้ Plantlover จะมาแนะนำประโยชน์ วิธีการปลูก วิธีดูแล ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ลักษณะทั่วไปของต้นไม้กินคนหรือชาฮกเกี้ยน
1. ลำต้น มีลักษณะตั้งตรง เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ด แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทรงรูปไข่ มีความสูงได้ถึง 1-2 เมตร
2. ใบเดี่ยวขนาดเล็ก เรียงสลับตรงข้ามกัน โคนใบสอบ ปลายใบมน ขอบใบเรียบ บนใบจะมีหนามเล็ก ๆ อยู่ทั่วใบ สีเขียวเข้มเป็นมัน
3. ดอก มีขนาดเล็กสีขาว มีกลีบดอก 5 กลีบ ออกดอกตลอดทั้งปี
4. ผลกลม เปลือกมีสีส้มอมแดง มีเมล็ดอยู่เพียง 1 เมล็ด
5. เติบโตปานกลาง ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดี ชอบแดดรำไรถึงแดดจัด
วิธีการขยายพันธุ์และการปลูก
1. นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โดยใช้แม่พันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง อายุไม่แก่หรืออ่อนเกินไป
2. ตัดกิ่งเป็นแนวเฉียง 45 องศา ตรงใต้ข้อ ให้มีความยาวประมาณ 3-6 นิ้ว
3. นำกิ่งพันธุ์ปักชำลงไปในถุงเพาะชำที่รองด้วยแกลบดำ กดให้กิ่งลึกลงในดินประมาณ 3-4 นิ้ว
4. รดน้ำให้ชุ่ม และนำไปวางไว้ในที่ร่ม มีแดดรำไร หมั่นรดน้ำเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ในช่วงหน้าแล้งที่ดินแห้ง ในช่วงฤดูฝนอาจจะไม่ต้องรดน้ำก็ได้
5. หลังจากนั้นประมาณ 15-20 วัน กิ่งพันธุ์ก็จะเริ่มแตกใบใหม่
6. พอถึง 40 วัน ก็สามารถย้ายลงไปปลูกในดินได้
7. ขุดหลุมเป็นทางยาวขนานไปกับแนวรั้วหรือกำแพง บริเวณที่ปลูกควรเป็นบริเวณกลางแจ้งที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน
8. สามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ผสมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 โรยข้างแถวปลูก จากนั้นพรวนดินกลบและรดน้ำให้ชุ่ม
9. ควรตัดให้เป็นทรงตามที่ต้องการอยู่เสมอ จะช่วยทำให้ทรงพุ่มของต้นมีความหนาทึบขึ้น และควบคุมแนวระดับการตัดแต่งได้ง่ายขึ้นด้วย
ประโยชน์ของต้นไม้กินคนหรือชาฮกเกี้ยน
1. นิยมปลูกเป็นไม้ดัดสำหรับประดับตกแต่งสวน และปลูกเป็นแนวรั้วหรือกำแพง
2. มีสรรพคุณทางยา เช่น ราก ใช้กินเพื่อบำรุงสตรีหลังคลอด แก้น้ำเหลืองเสีย ใช้ถอนพิษ ดอก ใช้รักษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลับ ทำให้หลับสบาย รักษาโรคหืด รักษาโรคโลหิตพิการ และขับพยาธิ ส่วนใบใช้ขับเหงื่อ แก้ท้องเสีย แก้ไอ และบำรุงธาตุในร่างกายได้