เฟื่องฟ้ามีชื่อสามัญว่า Paper flower มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Bougainvillea glabra Choisy ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศบราซิล โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสราว ๆ ค.ศ.17661-1769 ถูกนำไปปลูกตามประเทศต่าง ๆ ในโลก เริ่มจากทวีปยุโรป อเมริกา และเอเชีย ในส่วนของประเทศไทยนั้นได้มีการนำเข้ามาปลูกประมาณ พ.ศ.2423 เป็นการนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ ในสมัยร.5 ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เพิ่มมากมาย เพราะต้นไม้ชนิดนี้เติบโตได้ดีในประเทศไทย วันนี้ PlantLover จะพาทุกคนไปเจาะลึกเกี่ยวกับลักษณะทางพฤกษศาสตร์และประโยชน์อีกมากมายที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้
ลักษณะของต้นเฟื่องฟ้า
1. ลักษณะของลำต้น
ต้นไม้ชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อย มีอายุยืนหลายสิบปี สามารถเลื้อยไปได้ไกลถึง 10 เมตร ลักษณะของทรงพุ่มสามารถตัดแต่งและบังคับทิศทางการเจริญเติบโตได้ ลักษณะของลำต้นจะเป็นต้นไม้ที่มีลำต้นกลมขนาดใหญ่ เป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ลำต้นเปราะและแตกหักได้ง่าย ผิวของลำต้นส่วนใหญ่มีสีน้ำตาล ส่วนน้อยจะเป็นสีเทา มีหนามที่ลำต้นบริเวณเหนือใบ
2. ลักษณะใบ
เป็นพืชใบเดี่ยวที่ใบจะออกแบบเรียงสลับ เป็นใบที่มีรูปทรงเป็นรูปไข่ ทรงรี และรูปหัวใจ บริเวณขอบใบเรียบ ขนาดกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียว ผิวใบเรียบ ใบบาง มีหนามอยู่ตามง่ามใบ มีก้านใบยาวประมาณ 1 เซนติเมตร
3. ลักษณะดอก
ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกมี 3 กลีบ มีหลายสีเช่น สีม่วง สีแดง สีขาว สีเหลือง เป็นต้น ใบดอกบางเหมือนกระดาษ มีเกสรเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียว
4. ลักษณะผล
ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นสัน 5 เหลี่ยม เปลือกแข็งและมีเมล็ดติดกับเปลือก
ระบบนิเวศวิทยา
ชอบแสดงแดดจัดในสภาพกลางแจ้ง ถ้าได้รับแสงไม่เพียงพอ สีของใบจะจาง ออกดอกน้อย และต้องการอุณหภูมิปานกลางหรือร้อนชื้น เมื่อโตขึ้นต้องการน้ำปานกลางถึงค่อนข้างต่ำ ถ้ารดน้ำมากไปจะไม่ออกดอก
วิธีการปลูก
1. เลือกสถานที่ในการปลูกเช่น ลงดินโดยตรง ลงกระถาง เป็นต้น
2. หาพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงตลอดวัน
3. เลือกบริเวณที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์และระบายน้ำได้ดี
4. ดูแลรักษา โดยรดน้ำในปริมาณที่พอดี ใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอและปริมาณที่พอเหมาะ ตัดแต่งกิ่งให้สวยงาม ตามความเหมาะสม สามารถจัดรูปทรงต่าง ๆ ของต้นเฟื่องฟ้าได้ตามใจชอบ
ประโยชน์และสรรพคุณ
1. ช่วยบำรุงหัวใจและระบบขับถ่าย
2. ใช้เป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี รักษาสตรีที่ประจำเดือนไม่มาหรือตกขาวของสตรี
3. นำรากมาใช้เป็นยาแก้พิษต่าง ๆ
4. สามารถประกอบอาหารได้ เช่น นำดอกของต้นเฟื่องฟ้ามาชุบแป้งทอด
5. ปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้านหรือสถานที่ มีความเชื่อว่าเมื่อดอกบานจะแสดงถึงความเบิกบาน ความรุ่งเรือง ก้าวหน้าในชีวิตและความสว่างไสว เป็นสิริมงคลให้แก่บ้านและสถานที่นั้น ๆ
6. ปลูกเพื่อความสวยงาม ผู้คนจึงนิยมปลูกไว้เป็นซุ้มที่นั่งเล่น บริเวณรอบบ้านเป็นรั้วของบ้าน สวนสาธารณะ รอบถนน รอบเกาะกลาง ปลูกในกระถาง เป็นต้น